บทที่ 1317 ช่วยชีวิต 3
แต่กู้ซีจิ่วไม่ยอม นางไม่อยากให้ผู้ใดแตะต้องร่างกายของตี้ฝูอี ยิ่งไปกว่านั้นการผ่าตัดที่แม่นยำเช่นนี้ หลัวจั่นอวี่เข้ามาแทรกไม่ได้จริงๆ เธอทำคนเดียวได้
หลัวจั่นอวี่ทำได้แค่ถอยไปด้านข้างอย่างเงียบๆ คอยยื่นพวกกรรไกรหรือปากคีบให้นางเป็นครั้งคราว
กู้ซีจิ่วไม่พูดจาอันใด และไม่ได้ถามไถ่อาการไป๋หลี่เช่อ นางลืมคนคนนั้นไปเสียสนิทแล้ว…
ความจริงวันนี้กู้ซีจิ่วเหนื่อยล้ายิ่งนัก ต่อสู้กับสัตว์ร้ายมาทั้งวัน โดยเฉพาะรอบสุดท้ายที่ตั้งกระบวนพลสู้กับมังกรปีศาจยิ่งเหนื่อยไม่เบา
เมื่อสักครู่ผ่าตัดให้ไป๋หลี่เช่อหนึ่งชั่วยามกว่า ตอนนี้ก็มาผ่าตัดให้ตี้้ฝูอีอีก ยืนมาเกือบจะสองชั่วยามแล้ว…
หนึ่งชั่วยามเท่ากับสองชั่วโมง สามชั่วยามก็คือหกชั่วโมง เที่ยงคืนแล้ว นางยังคงยุ่งอยู่ ถึงแม้นางใจเย็นมาตลอด ทว่าใบหน้าซีดเผือดและหน้าผากที่มีเหงื่อออกเผยให้เห็นสภาพที่แท้จริงของนาง ในระหว่างนั้นหลัวจั่นอวี่คิดอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งกับนาง แต่ก็ถูกนางปฏิเสธ
การผ่าตัดครั้งนี้ยาวนานเกือบสามชั่วยาม ถึงจะเสร็จสมบูรณ์อย่างแท้จริง
ห้องหัวใจที่ถูกแทงทะลุเข้าไปได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว กระดูกซี่โครงที่หักก็ต่อติดแล้ว อวัยวะภายในอื่นๆ ซึ่งถูกกระแทกบุบสลาย นางก็ใช้พลังวิญญาณรักษาให้หายแล้ว…
ถึงแม้การผ่าตัดจะเสร็จสิ้น แต่ตี้ฝูอียังไม่ฟื้นขึ้นมา ไม่มีการตอบสนองใดๆ
หลัวจั่นอวี่เห็นสีหน้ากู้ซีจิ่วไม่สู้ดีจริงๆ จึงบังคับนางไปพักผ่อน เขาจะอยู่ดูแลตี้ฝูอีตรงนี้เอง
กู้ซีจิ่วส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง นางดื่มนํ้าอึกหนึ่งแล้วดึงเก้าอี้มานั่งลงข้างกายตี้ฝูอี ท่าทางประหนึ่งต้องการหยั่งรากอยู่ข้างกายเขา
หลัวจั่นอวี่หมดหนทาง ทำได้เพียงออกไปทำอาหารให้นางด้วยตัวเอง เมื่อทำเสร็จและยกเข้ามา ก็พบว่ากู้ซีจิ่วนั่งกุมมือตี้ฝูอีอยู่ตรงนั้น วางใบหน้า ของตัวเองไว้กลางฝ่ามือข้างหนึ่งของเขา กำลังกระซิบว่า “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย อย่านอนหลับอีกเลยได้หรือไม่? ท่านฟื้นขึ้นมาก่อน ฟื้นขึ้นมาก่อน…ท่านนอนหลับแบบนี้ข้ากลัว…”
เสียงของนางสะอึกสะอื้นเล็กน้อย “ตี้ฝูอี ข้ากลัว! ข้ากลัวจริงๆ…”
มือของเขาเย็นเฉียบตลอดเวลา สองมือกู้ซีจิ่วกุมมือเขาไว้ พยายามใช้อุณหภูมิของร่างกายตัวเองทำให้เขาอบอุ่น ใบหน้าของนางแนบชิดอยู่กับฝ่ามือของเขา หยาดนํ้าตาก็ไหลรินลงบนผ่ามือเขาเช่นกัน
ดึกดื่นคํ่าคืนที่เดียวดายเช่นนี้ ในที่สุดนางก็ทนดูแลเขาไม่ไหวแล้ว เผยให้เห็นความอ่อนแอของนาง…
หลัวจั่นอวี่จิตใจเป็นทุกข์เช่นกัน
น้องสาวคนนี้เข้ามาได้สิบกว่าวันแล้ว ทำการสิ่งใดแข็งแกร่งเด็ดขาด เขาไม่เคยเห็นนางกลัวอะไรมาก่อน ทว่าตอนนี้เขารับรู้ได้ถึงความกลัวของนาง!
นางกลัวตี้ฝูอีมีอันเป็นไป กลัวอย่างสุดชีวิต!
ยามนี้แม้แต่เจ้าหอยยักษ์กับลู่อู๋น้อยต่างก็เชื่อฟัง หลบอยู่ที่มุมหนึ่งไม่กล้าย่างกรายเข้ามารบกวน
หลัวจั่นอวี่ก้าวมาจับชีพจรของตี้ฝูอี ชีพจรเขายังคงไม่สม่ำเสมอ เต้นช้ายิ่งนัก คนปกติเต้นเจ็ดสิบถึงแปดสิบครั้งต่อนาที ของเขาเต้นสี่สิบครั้งโดยประมาณ เคราะห์ดีที่เต้นมีกำลังกว่าเมื่อสักครู่มากแล้ว เป็นข้อพิสูจน์ว่าการผ่าตัดของกู้ซีจิ่วสำเร็จลุล่วงด้วยดี เขาปลอบใจกู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว ไม่ต้องกลัวไป ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแข็งแกร่งยิ่งนัก น่าจะใกล้เป็นเทพแล้ว ชีวิตนี้เขาผ่านร้อนผ่านหนาวและความทนทุกข์ทรมานมากมาย ไม่ตายง่ายๆ หรอก…ตอนเขาเพิ่งเข้ามาก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็ยังใช้ความสามารถของตัวเองคนเดียวจัดการทุกอย่างได้…”
ความจริงแล้วเมื่อสักครู่กู้ซีจิ่วเอาแต่สาละวนจะช่วยชีวิตคน จึงไม่ได้คิดว่าตี้ฝูอีเข้ามาเมื่อใด เข้ามาได้อย่างไรกันแน่ ยามนี้เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
หลัวจั่นอวี่จึงเล่าเหตุการณ์ตอนที่ตี้ฝูอีเข้ามาให้นางฟังคร่าวๆ