Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 151

บทที่ 151

ไล่ตามนกไป

ถึงแม้วรยุทธ์ขององค์รัชทายาทหรงเจียหลัวจะสูงส่งมาก แต่น่าจะเทียบกับหลงซือเย่ไม่ได้กระมัง? แต่เมื่อครู่นี้ ตอนคนผู้นั้นยืนอยู่ที่นี่ถึงแม้จะปกปิดตัวตน แต่กลับไม่ได้ปกปิดกลิ่นอายบนร่าง ความกดตันไร้รูปทำให้คนที่เผชิญหน้ากับเขารู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มีฐานะสูงส่ง วรยุทธ์ก็ลึกลํ้ายิ่งนัก วรยุทธ์ของเขาถึงขั้นสูงส่งกว่าหลงซือเย่ด้วยซํ้า…

‘เสี่ยวชาง ผู้ที่มีวรยุทธ์สูงส่งกว่าหลงซือเย่คือใคร?’

‘ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์!’ หยกนภาตอบอย่างไม่ลังเล

กู้ซีจิ่วนิ่งเงียบ

ไม่จริงน่า?! เทพเจ้าผู้ลํ้าเลิศในตำนานของทวีปนี้ผู้นั้นจะมาจ้องมองเธออยู่ที่นี่ได้ยังไง? เป็นไปไม่ได้!

เธอเพิ่งมาถึงโลกนี้ได้ไม่เท่าไหร่ จะไปก่อกวนบุคคลระดับนั้นได้อย่างไร? ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะไปล่วงเกินเข้า

คนที่เธอล่วงเกินเธอล้วนจดจำได้ชัดเจน ไม่มีสักคนเลยที่จะตรงกับท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้

อีกอย่างหากตนไปล่วงเกินผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งเช่นนี้เข้าจริงๆ ต่อให้คิดจะแก้แค้นก็น่าจะแก้แค้นอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา

จะอย่างไรก็เป็นเทพศักดิ์สิทธิ์สมญานามสูงส่งถึงเพียงนี้จิตใจก็คงจะสูงส่งเช่นเดียวกัน…

‘นอกจากเทพศักดิ์สิทธิ์แล้วยังมีใครอีก? เอาที่วรยุทธไม่ต่างกับเขามากหรือด้อยกว่าเขาก็ได้’

‘เจ้าสำนักเก้าดาราเซียนเยวี่ยหร่าน เจ้าสำนักหยินหยาง กู้กู่ ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเทียนจี้เยวี่ย’

หยกนภาร่ายออกมารวดเดียวสี่คน

นอกจากเทียนจี้เยวี่ยผู้นั้นที่เคยพบแล้วหนหนึ่ง อีกสามท่านที่เหลือกู้ซีจิ่วเพียงแต่เคยได้ยินชื่อเสียง ไม่น่าจะถึงกับล่วงเกิน

เธอนิ่งไปเล็กน้อย ‘มีคนในราชวงศ์ที่เก่งกาจถึงขั้นนี้บ้างไหม?’

‘เรื่องนี้ไม่เคยได้ยิน แต่ก็ไม่สามารถตัดทิ้งได้ ถึงอย่างไร ก็ยังมียอดฝีมือผู้เร้นกายไม่เผยตัวอยู่ ได้ยินว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อนในวังเคยมียอดอัจฉริยะไร้เทียมทาน ภายหลังได้ สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย’

กู้ซีจิ่วหักกิ่งไม้แห้งพลางครุ่นคิดหาเบาะแสตามที่ได้รับรู้ ไม่ทันได้ระวัง จู่ๆ นกตัวนั้นก็พุ่งเข้ามา คาบผมเส้นนั้นไป จากนั้นก็สยายปีกโผบินออกไปด้านนอกราวกับดาวหาง

ดูเหมือนเมื่อครู่เจ้านกตัวนี้หาผมเส้นนี้ไม่พบเลยรู้สึกขายหน้าอยู่บ้าง จึงคิดจะอาศัยเส้นผมนี้ไปตามสืบเสาะหาตัวคนด้วยตนเอง!

กู้ซีจิ่วใจเต้นแวบหนึ่ง สั่งการคนฝึกนกผู้นั้น “ตามไป ดูว่ามันไปที่ไหน”

“ขอรับ!” คนฝึกนกมีวิชาตัวเบาเยี่ยมยอด เหินทะยานกาย ไล่ตามนกไป

นัยน์ตากู้ซีจิ่วสาดแสงแวบหนึ่ง ตามไปด้วยเช่นกัน

หยกนภาส่งเสียงด้วยความไม่พอใจ ‘เจ้านาย ท่านไม่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองก็ได้หลังจากนกตัวนั้นได้เบาะแสจะกลับมารายงานข่าวเอง ตอนนี้ท่านใช้วิชา เคลื่อนย้ายไม่ได้แล้ว วิชาตัวเบาก็ถดถอยลงมาก…’

กู้ซีจิ่วตอบมันกลับแค่สองคำ ‘หุบปาก!’

กู้ซีจิ่วสำแดงวิชาตัวเบาไล่ตามนกไป เงาร่างของกู้ซีจิ่วเพิ่งจะลับไปจากจวนแม่ทัพ ก็มีคนสองคนปรากฏกายขึ้นที่มุมหนึ่ง ทั้งสองคนนี้น่าจะใช้วิชาพรางกาย เสื้อผ้าที่สวมใส่มีสีเดียวกับกำแพงที่แนบชิดอยู่เมื่อครู่นี้พวกเขามองดูทิศทางที่กู้ซีจิ่วหายลับไป สบตากันแวบหนึ่ง ทะยานกายไล่ตามไปด้วย

นกสืบรอยบินมาจนถึงริมคูเมืองก็หยุดลง พุ่งเข้าหาคนฝึกนกพลางร้องจิ๊บๆ ไม่หยุ

“มันพูดว่าอะไร?” ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ไล่ตามทันแล้ว

“มันบอกว่า กลิ่นอายมาถึงตรงนี้ก็หายไปเสียดื้อๆ ขอรับ”

หางตาของกู้ซีจิ่วพลันกระตุก ดูท่าคนผู้นั้นคงเชี่ยวชาญวิชาสกัดกั้นการตามรอย ทราบว่าการลุยนํ้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลบล้างร่องรอยทั้งหมด ริมฝั่งมีก้อนกรวดอยู่มากมาย กู้ซีจิ่วค้นหาบนฝั่งรอบหนึ่งก็ไม่พบเบาะแสอะไร จึงกวาดสายตาไปรอบๆ อย่างไม่ตั้งใจ พลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย!

ที่นี่คล้ายจะเป็นสถานที่ที่ตนนำ ‘อุปกรณ์แปลงโฉม’ มาโยนทิ้งครั้งก่อน!

ที่นี่เธอบังเอิญพบกับคนลึกลับผู้แสวงหาการแก้แค้นผู้นั้น ถึงแม้คนผู้นั้นจะไม่เคยปรากฏตัว แต่กลับงมอุปกรณ์แปลงโฉมของเธอขึ้นมาทั้งยังจงใจทำให้ทหาร มาพบเข้า…

ยามนี้คนผู้นั้นชักนำเธอมาที่นี่ หรือจะเป็นการบอกใบ้เธอกลายๆ ว่าเขาก็คือคนลึกลับคนนั้นที่มีความแค้นกับเธอ?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!