ตอนที่ 164
ข้าก็ไม่ได้มาเพราะนาง
กู้ซีจิ่วถอนหายใจ “เหตุใดเจ้าสำนักต้องฝืนใจผู้อื่นด้วยเล่า? ข้ากล่าวไปแล้ว จะเป็นชาใดข้าล้วนไม่ชอบดื่มเจ้าค่ะ”
ไม่ว่าเขาจะใส่หรือไม่ใส่อะไรในชานี้ เธอก็ไม่คิดจะดื่มของสิ่งใดของเขาอีก
มีหลายสิ่งที่ไม่ใช้ว่าฝืนใจแล้วจะสามารถชอบได้ อย่างเช่นชานี้
ชาติก่อนเธอฝืนตัวเองมาทั้งชีวิต ก็ยังไม่ชอบมันจริงๆ เห็นได้ชัดว่า ตนกับมันไม่มีวาสนาต่อกันโดยแท้
จักรพรรดิซวนก็ อกสั่นขวัญแขวนยิ่งนัก เกรงว่าหลงซือเย่จะใส่อะไรลงไปในชาจริงๆ…หากเจ้าสำนักถามสวรรค์วางยาพิษ บนโลกนี้จะมีใครแก้ได้กันล่ะ?
เขากระแอมไอ เอ่ยปากถามอย่างอดไม่ได้ “เจ้าสำนักมาด้วยเรื่องของสตรีศักดิ์สิทธิ์กู่ ศิษย์เอกของท่านใช่หรือไม่? อันที่จริง…อันที่จริงแล้ววิชาแพทย์ของสตรีศักดิ์สิทธิ์กู่ก็เยี่ยมยอดนัก นางพ่ายแพ้ครานี้อาจจะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับนักรบ [2]…”
ที่จริงแล้วเขาคิดจะใช้วาจาเพื่อให้ทางลงแก่หลงซือเย่ ให้เขาอย่าหาเรื่องกู้ซีจิ่วอีก
นึกไม่ถึงว่าเขากล่าววาจาให้เกียรตินี้ยังไม่ทันจบ ก็ถูกหลงซือเย่ขัดจังหวะ “ชนะคือชนะ แพ้คือแพ้ ไม่จำเป็นต้องปกปิดให้นาง ข้าก็ไม่ได้มาเพราะนาง”
“เช่นนั้นเจ้าสำนักให้เกียรติมาเยี่ยมเยือนกะทันทันด้วยเหตุใด?”
“ข้ามาเพราะนาง!” หลงซือเย่คว้ามือกู้ซีจิ่วที่กำลังประคองถ้วยอยู่
กู้ซีจิ่วตัวแข็งทื่อ!
ดวงตาของเธอมืดสลัวลงเล็กน้อย ใช้วิธีการพิเศษพลิกหมุนข้อมือที่อยู่ในอุ้งมือเขา หลงซือเย่ไม่ทันระวัง เธอจึงเกือบจะดิ้นหลุดออกไป!
เขากระชับมือแน่นทันที จับข้อมือเธอไว้อีกครั้ง มองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง “ใครสอนทักษะนี้ให้เจ้า?”
ชาติก่อนทักษะการต่อสู้พื้นฐานของเธอล้วนได้รับการสั่งสอนจากเขา ดังนั้นเขาจึงเข้าใจแนวทางการต่อสู้ของเธอเป็นอย่างดี
แต่วิธีหลบหลีกที่เธอใช้ในครั้งนี้เขากลับไม่เคยเห็นมาก่อน! ใครเป็นคนสอนให้เธอกัน?
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วมองเขา คล้ายจะประหลาดใจอยู่บ้าง “ท่านเจ้าสำนักนี่หมายความว่าอย่างไร? ใครเป็นผู้สอนทักษะให้ข้าดูเหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับท่านเจ้าสำนักนะเจ้าคะ?”
สายตาของเธอหยุดอยู่ตรงมือของทั้งสองคนที่เกาะกุมกันอยู่ “ท่านเจ้าสำนัก ชายหญิงไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกัน ท่านกรุณาปล่อยมือด้วยเจ้าค่ะ!”
หากตอนนี้เธอสามารถทุบตีเขาได้ เธอคงซัดเขาให้กระเด็นไปไกลนานแล้ว! จำเป็นต้องเอ่ยวาจาไร้สาระเหล่านี้กับเขาอยู่ตรงนี้เสียที่ไหน!
จักรพรรดิซวนมองทั้งสองคนสลับกันไปมา ในใจนั้นรู้สึกกระวนกระวายยิ่งกว่าเดิม หน้าเจื่อนเล็กน้อย “เจ้าสำนักหลง ถึงซีจิ่วจะยังเด็ก แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นเด็กผู้หญิง ท่านจับนางไว้เช่นนี้…”
“ช้าจับชีพจรให้นาง” วาจาของหลงซือเย่มอบความอึดอัดกลับไปให้จักรพรรดิซวน
ฝูงชนเบิกตากว้าง เจ้าสำนักหลงผู้นี้มาเพื่อจับชีพจรตรวจอาการให้กู้ซีจิ่วเป็นพิเศษเลยหรือ?!
นี่…นี่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วกระมัง?!
เหล่าเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้านล่างต่างริษยาจนตาแดงก่ำกันหมดแล้ว!
สตรีอัปลักษณ์นางหนึ่งซึ่งเดิมทีผู้คนสามารถเหยียบยํ่าอย่างไรก็ได้ กลับพลิกสถานการณ์ขึ้นมาได้ ไม่เพียงแต่องค์ชายหลายองค์จะพูดคุยกับกับนาง จักรพรรดิซวนก็พูดจาสนับสนุนนาง ยามนี้เจ้าสำนักหลงที่ไม่เคยเห็นผู้ใดอยู่ในสายตาก็มาเพื่อตรวจอาการให้นางเป็นพิเศษอีก!
ดวงของนางชักจะดีเกินไปแล้วกระมัง?!
กู้ซีจิ่วมองนิ้วมือเรียวเสลาขาวกระจ่างของเขาที่สัมผัสชีพจรตนอยู่ เธอเม้มปากเล็กน้อยไม่กล่าวอะไร
ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ละมือจากชีพจรเธอ ทั้งยังยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าเธอ
กู้ซีจิ่วไม่ได้หลบเลี่ยง ปล่อยให้เขาสัมผัส
เขาลูบปานแดงบนหน้าเธอ สัมผัสทีละนิ้ว…ทีละนิ้ว ราวกับเหนี่ยวนำอะไรอยู่
จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ดึงมือกลับ มองดูเธอ “ปานนี้ปรากฏขึ้นตอนสามขวบใช่หรือไม่?”
“ใช่ขอรับ”กู้ซีจิ่วยังไม่ได้ตอบ กู้เซี่ยเทียนก็รีบตอบเสียแล้ว ทั้งยังถามต่ออีก “ท่านเจ้าสำนัก ปานแดงของยายหนูสามารถช่วยเหลือได้หรือไม่?”
“ช่วยได้”
ดวงตากู้เซี่ยเทียนเปล่งประกาย “เช่นนั้นหวังว่าท่านเจ้าสำนักหลง จะสำแดงฝีมืออันลํ้าเลิศ หำให้นางกลับเป็นปกติด้วยเถิด”
“ข้าช่ายนางได้” หลงซือเย่เอ่ยปากช้าๆ “แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
……………………..
[1]กาดินม่วง เป็นกาชงชาชั้นยอดของจีน ทำจากดินเหมียวผสมแร่ธาตุ ดูดซับกลิ่นชาได้ดี
[2]แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับนักรบ หมายถึง ความล้มเหลวเกิดขึ้นได้เสมอ อย่าได้ท้อแท้เมื่อปราชัย