บทที่ 174
คนผู้นี้จิตไม่ปกติ
กู้ซีจิ่วสงสัยอย่างหนักว่าเป็นแบบแรก!
ยามนั้นอยู่ห่างกันไกลยังไม่รู้สึกเท่าไหร่ พอยามนี้อยู่ใกล้กันแล้ว เธอถึงพบว่าร่างกายของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้สะอาดเรียบร้อยเป็นอย่างยิ่ง
เส้นผมดุจวาดด้วยหมึก ใช้ห่วงหยกรัดไว้หลวมๆ ปลายผมเกือบจรดถึงข้อเท้า เส้นผมยาวถึงเพียงนี้แต่กลับไม่พันกันเลยสักนิด เรียบลื่นดุจแพรต่วน
บนร่างสวมเสื้อคลุมสีม่วงพลิ้วไสว รอยยับสักรอยก็ไม่มี เสื้อคลุมตัวในสีขาวค่อนข้างหลวม แต่หลวมอย่างมีศิลปะนัก บดบังลำคอครึ่งหนึ่งไว้ ทำให้รู้สึกทรงศีลอย่างน่าประหลาด
มองออกเลยว่าคนผู้นี้เป็นโรครักสะอาดนิดๆ อ้อ น่าจะเป็นโรคยํ้าคิดยํ้าทำหน่อยๆ ด้วย
กู้ซีจิ่วเคยชินกับการเป็นนักฆ่า ดังนั้นจึงติดนิสัยวิเคราะห์ผู้คน ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ สมองของเธอวิเคราะห์ข้อมูลออกมาด้วยตัวเอง
‘เจ้านาย ข้ารู้สึกว่าสิ่งที่ท่านควรจะคิดในยามนี้คือแผนการหลบหนี ไม่ใช่หมกมุ่นอยู่กับการวิเคราะห์ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้หล่อเหลาคนนี้’ เสียงหยกนภาดังขึ้นในหัว
‘เจ้าจะไปรู้อะไร?’ กู้ซีจิ่วกระตุกยิ้มมุมปาก
‘รู้เขารู้เราถึงจะรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง เข้าใจนิสัยของเขา ถึงจะสามารถหาช่องโหว่จากพฤติกรรมของเขา และค้นพบหนหางรอดอันน้อยนิด’
‘เช่นนั้นท่านวิเคราะห์เสร็จแล้ว พบทางรอดอันน้อยนิดนั่นไหมล่ะ?’
‘คนผู้นี้จิตไม่ปกติ หาโอกาสได้ยากนัก ให้ข้าคิดดูอีกหน่อย’
‘อื้อ คนผู้นิจิตไม่ปกติจริงๆ เหมือนคนสองบุคลิก ข้าสงสัยว่าเขาจะเป็นร่างหยินหยาง![1] คนประเภทนี้จัดการยากนัก เอาล่ะ เจ้านาย ข้าคาดหวังในตัวท่านนะ ข้าเชื่อว่าด้วยสติปัญญาของท่านจะสามารถเปลี่ยนสกานการณ์ร้ายให้กลายเป็นดีได้แน่นอน!’
‘ร่างหยินหยาง?’ กู้ซีจิ่วถูกข้อวินิจฉัยนี้ของหยกนภาฟาดเข้าอย่างจัง
‘เสี่ยวชาง เจ้าเตือนสติข้าแล้ว บางทีเรื่องนี้อาจเป็นไปได้จริงๆ!’ กู้ซีจิ่วชมเชยหยกนภา ถึงอย่างไรเธอกับหยกนภาก็สื่อสารกันผ่านกระแสจิต คนนอกไม่มีทางได้ยินอยู่แล้ว
จู่ๆ ข้อมือก็กระชัมแน่น กู้ซีจิ่วกำลังสนทนากับหยกนภาอย่างออกรส ย่อมไม่ได้ระวังตัว ถูกพลังนั้นฉุดดึงทันที เธอยืนไม่มั่นคง จึงชนเข้ากับแผ่นหลังของตี้ฝูอีจนเกิดเสียงดังพลั่ก เจ็บจมูกไปหมดแล้ว!
“นี่ท่าน…” กู้ซีจิ่วเงยหน้าขึ้นทั้งที่กุมจมูกอยู่ กลับพบว่าตนเดินมาถึงด้านนอกตำหนักแล้ว ตี้ฝูอีกำลังเงยหน้ามองเรืออันโดดเด่นของเขาที่ลอยอยู่กลางอากาศลำนั้น
จะว่าไปก็แปลก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเรือลำนั้นไม่มีปีก และไม่มีสิ่งใดที่ช่วยให้ลอยตัวได้ แต่มันสามารถลอยนิ่งอยู่ตรงนั้น กู้ซีจิ่วรู้สึกว่า ขัดกับหลักการทางทฤษฎีฟิสิกส์…
“ตามข้าขึ้นมา!” ตี้ฝูอีออกคำสั่งโดยไม่มองเธอ ขยับเท้าทันที จากนั้นทะยานขึ้นฟ้า พลิ้วลอยขึ้นไปบนเรือลำนั้น
กู้ซีจิ่วยืนอยู่บนพื้น แหงนหน้ามองด้านบน
หรีอว่านี้จะเป็นการทดสอบแรก? คิดจะให้เธอกระโดดขึ้นไป?
ตำแหน่งที่เรือลำนี้ลอยอยู่สูงมาก สูงพอๆ กับตึกเจ็ดแปดชั้น! ด้วยระดับวิชาตัวเบาของเธอในตอนนี้ตีให้ตายก็โดดขึ้นไปไม่ถึง!
หากวิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาของเธอยังอยู่ก็ว่าไปอย่าง แต่ตอนนี้ จู่ๆ ความสามารถพิเศษนั้นกลับหายไปอย่างไม่ถูกเวลาเลย…
ระหว่างที่เธอกำลังครุ่นคิดหาคำพูดเพื่อขอเดินทางไปกับคนอื่นๆ กลางนภากลับมีแสงสีขาววาบขึ้นมากะทันทัน แล้วพุ่งมารัดลำตัวเธออย่างรวดเร็ว!
กู้ซีจิ่วหลบหลีกตามสัญชาตญาณ ทว่าขากลับเป็นเหน็บชาขึ้นมาโดยฉับพลัน ราวกับถูกทิ่มแทงด้วยเข็ม การเคลื่อนไหวจึงเชื่องช้าลงเล็กน้อย เอวของเธอพลันถูกรัดแน่น พลังมหาศาลสายหนึ่งฉุดเธอให้ลอยขึ้น…
กู้ซีจิ่วเหมือนกับว่าวตัวหนึ่งที่ถูกคนชักขึ้นมา ในช่วงคับขันเธอไม่ทันได้คิดให้ละเอียด ฝ่ามือสาดแสงแวบหนึ่งก่อนจะงอตัวแล้วฟันลำแสงที่ฉุดดึงเธอไว้!
เสียง ‘ฉึบ’ ดังขึ้นเบาๆ ลำแสงสีขาวนั้นถูกกริชในมือเธอฟันขาด ท่อนหนึ่งร่วงหล่น อีกท่อนหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ…
……………………
[1] ร่างหยินหยาง หมายถึงคนที่มีสองเพศ