บทที่ 21
เหมือนว่าเขาจะชอบสาวน้อยคนนี้ขึ้นมานิดหน่อยแล้ว
“ซีจิ่วยินยอมให้ลูกน้องของใต้เท้าตรวจค้นเรือนของซีจิ่ว ได้ แต่ก่อนอื่นนั้น จะต้องมีคนตรวจค้นร่างกายลูกน้องเหล่านี้ของท่านด้วยเช่นกัน ถ้าหากมีผู้สมรู้ร่วมคิดในการให้ร้ายซีจิ่วปะปนอยู่ด้วย แล้วจงใจลักลอบนำเอาสิ่งของอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องติดตัวไปด้วย อาศัยช่วงเวลาที่ตรวจค้นนำไปวางไว้ตรงไหนสักแห่งในเรือนนี้ แล้วปล่อยให้คนอื่นมาค้นเจอ เช่นนั้นต่อให้ซีจิ่วมีร้อยปากก็คงพูดได้ไม่เต็มปากแล้ว!”
ใต้เท้าฮู่ตวาดอย่างเกรี้ยวกราด “ลูกน้องในกองของข้า จะมีคนเช่นนั้นได้อย่างไรกัน!”
องค์ชายหรงเช่อโบกพัดจีบเล็กน้อย “ใต้เท้าฮู่ แม้ว่าความกังวลของคุณหนูกู้อาจจะเกินเลยไปหน่อย แต่ก็พอมีเหตุผลอยู่บ้าง เพื่อให้นางมั่นใจคลายกังวล ทำไม ใต้เท้าไม่ตอบรับคำขอนางเสียหน่อยละ?”
ใต้เท้าฮู่ส่งเสียงฮึดฮัด “ก็ได้! ข้าจะยอมให้นางสักหน!”
เขาโบกมือไปทางลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างหลัง “พวกเจ้าจงผลัดกันตรวจค้นร่างกาย ดูซิว่าจะมีใครแอบพกสิ่งของต้องสงสัยไว้หรือไม่!”
ด้านหลังของเขามีลูกน้องในสังกัดทั้งหมดสิบนาย คนอื่นๆ ล้วนไม่มีท่าทีอะไร แต่มีชายหน้าอ้วนกลมคนหนึ่ง คิ้วอักษรเลขแปด (八) เปลี่ยนไปเล็กน้อยพร้อมๆ กับสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขาหดกายลงโดยไม่รู้ตัว กู้ซีจิ่วเป็นนักฆ่ามือฉมัง สายตาย่อมเฉียบแหลมแตกต่างกับคนธรรมดา มือเล็กๆ ของเธอชี้ไปทางผู้ติดตามคนนั้นทันที “ตรวจเขาก่อน!”
ชายคนนั้นหดกายถอยหลังไป ใบหน้าแดงกํ่า “ข้าน้อย…บนร่างของข้าน้อยมีอะไรให้ต้องตรวจกัน?”
กู้ซีจิ่วยกยิ้มมุมปาก “หากเจ้าไม่มีเจตนาแอบแฝง จะหวาดกลัวการถูกตรวจค้นไปทำไม?”
องค์ชายหรงเช่อหุบพัด “ถูกต้อง กลัวการตรวจค้นย่อมมีเจตนาแอบแฝง”
องค์ชายเจ้าสำราญผู้นี้คล้ายกำลังสนับสนุนคำพูดของเธอทุกด้าน กู้ซีจิ่วเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง องค์ชายหรงเช่อโบกพัดเล็กน้อย ส่งยิ้มให้เธออย่างไม่สะทกสะท้าน ดวงตาโค้งขึ้นดุจจันทร์เสี้ยว ทรงเสน่ห์ดุจดอกท้อบานสะพรั่ง
กู้ซีจิ่วละสายตาไปโดยที่ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาทั้งสิ้น เห็นได้ชัดว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์น่าหลงใหลของเขาเลยแม้แต่น้อย
องค์ชายหรงเช่อยกมือขึ้นลูบจมูกเล็กน้อย ตั้งแต่เขาเข้ามาจนถึงตอนนี้ สายตาของสตรีจวนสกุลกู้เกือบทั้งหมดต่างมองเขาเป็นตาเดียว เพียงแค่เสื้อคลุมของเขาพลิ้วไหวก็ไม่รู้ว่าดึงดูดสาวงามมากน้อยเพียงใดให้จ้องมองด้วยความหลงใหล เมื่ออยู่ในกลุ่มสตรีเขาแทบไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง แต่นึกไม่ถึงว่ากับสาวน้อยที่ดูไม่สะดุดตา ถึงขั้นอัปลักษณ์อยู่สักหน่อยด้วยซํ้า รูปโฉมของเขา กลับไม่มีผลเลยสักนิดเดียว! น่าสนใจ! น่าสนใจยิ่งนัก!
เขาเพียงแค่รู้สึกเบื่อหน่ายเลยมาร่วมชมเรื่องครึกครื้นด้วย คาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับบุคคลยอดเยี่ยมเช่นนี้..
ภายนอกรํ่าลือกันว่าคุณหนูหกตระกูลกู้ทั้งอัปลักษณ์และโง่เง่า แสดงออกไม่เก่ง อีกทั้งยังเป็นเศษสวะไร้ค่า เห็นทีว่าสิ่งที่รํ่าลือกันจะผิดเพี้ยนไปยิ่งนัก! สาวน้อยที่อยู่เบื้องหน้านี้ถึงแม้ปานบนหน้าผากจะทำให้นางดูอัปลักษณ์ไปบ้าง แต่เมื่อมีเส้นผมดกดำของนางปรกหน้าผาก บดบังรอยปานนั้นเอาไว้จนเห็นไม่ชัดนัก ก็ ยิ่งเผยให้เห็นดวงตากลมโตริมฝีปากน้อยๆ ดวงหน้าเล็กขาวผ่องดุจหิมะ นับเป็นสาวน้อยที่งามลํ้าเลิศผู้หนึ่ง อีกทั้งนางยังฉลาดหลักแหลมถึงเพียงนี้ ความคิดชัดเจน มีหลักการอย่างยิ่ง วาจาเฉียบคมดุจใบมีด ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าโง่เง่าเลยมิใช่หรือ?! ส่วนเรื่องที่ว่าเป็นสวะไร้ค่าไม่มีพลังวิญญาณ… นี่คงเป็นเรื่องจริง แต่มีคำพังเพยประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ผู้ยิ่งใหญ่จะใช้สมองในการต่อสู้มีเพียงคนมุทะลุถึงจะใช้เพียงกำลังแต่ไม่ใช้สมอง’ เด็กคนนี้ต่อให้ไม่มีพลังวิญญาณ แต่อาศัยเพียงสมองที่ชาญฉลาดของนางก็ทำให้นางกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้แล้ว…
สตรีที่งดงามนั้นหาได้ทั่วไป ทว่าสตรีที่เฉลียวฉลาดเช่นนี้หาได้ยากนัก
อ่า เหมือนว่าเขาจะชอบสาวน้อยคนนี้ขึ้นมานิดหน่อยแล้ว
นัยน์ตาดอกท้อขององค์ชายหรงเช่อเต็มไปด้วยความสนใจมากกว่าเดิม
ใต้เท้าฮู่ต้องการลบล้างข้อสงสัย จึงออกคำสั่งให้ผู้ติดตามตรวจค้นตัวชายหน้ากลมคนนั้นเป็นรายแรก สักครู่หนึ่งก็คันเจอกางเกงตัวในของบุรุษชิ้นหนึ่งอยู่ใน ช่องกระเป๋าเสื้อด้านในของเขา ปรากฏโดดเด่นอยู่เบื้องหน้าใต้เท้าฮู่
หัวคิ้วของใต้เท้าฮู่ขมวดจนกลายเป็นปม “เจ้าพกสิ่งนี้มาเพื่อการใด?!”