บทที่ 226
เช่นนั้นเหตุใดเจ้าไม่ปล่อยเลยตามเลยต่อไป?
จิตวิญญาณและร่างกายเข้ากันได้ในระดับสูง มีเพียงร่างเดิมและจิตวิญญาณเดิมถึงมีระดับความเข้ากันได้เช่นนี้!
ภายหลังเขายังนึกถึงความเป็นไปได้อื่นๆ อย่างเช่นกู้ซีจิ่วคนนี้ก็คือกู้ซีจิ่วคนนั้น คนปัจจุบันนี้คือคนผู้นั้นกลับชาติมาเกิดใหม่…
แต่ว่าเขาเคยลอบสอบถามนิสัยใจคอของกู้ซีจิ่วคนเดิมผู้นี้มา นางอ่อนแอจนทำให้รู้สึกโมโห
ถึงจะกล่าวว่าเป็นผลจากสภาพแวดล้อม แต่ด้วยนิสัยของคนที่เขารู้จักผู้นั้น ไม่ว่าเธอจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนก็สามารถใช้ชีวิตตามแบบของตัวเองได้แน่นอน จะไม่ถูกรังแกแบบนี้เด็ดขาด!
หากเป็นเธอกลับชาติมาเกิดใหม่จริงๆ จะถูกรังแกนานหลายปีขนาดนี้ได้ยังไง?
และเป็นเพราะทราบความเป็นมาเหล่านั้นของกู้ซีจิ่วคนเดิม ดังนั้น เขาถึงไม่กล้าคิดว่าเป็นเธอจริงๆ เลยแอบทดสอบเธออยู่เรื่อยๆ
จนกระทั่งได้เห็นเธอใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตา ได้เห็นวิชาแปลงโฉมที่สมจริง เขาถึงมั่นใจว่าเป็นเธอ!
“ซีจิ่ว ข้าไม่สนใจว่าเจ้าเข้ามาอยู่ในร่างนี้ได้ยังไง แต่ข้ารู้ว่าเจ้าก็คือนาง! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะใช้วิชาเคลื่อนย้ายวิชาแปลงโฉมและวิชาแพทย์ได้ยังไงกัน? แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเคยมีนางอีกคน?”
“นั่นเป็นเพราะข้าเคยพบนางในฝันเมื่อหนึ่งปีก่อน!” กู้ซีจิ่วขัดคอเขา
“หือ? ว่ายังไงนะ?”
“เมื่อหนึ่งปีก่อน ข้ามักฝันถึงสตรีนางหนึ่งบ่อยๆ นางแต่งตัวประหลาดนัก นางบอกว่าข้ากับนางชื่อเหมือนกัน นับว่าเป็นโชคชะตา ดังนั้นนางจึงอยากถ่ายทอดทักษะทั้งหมดของนางให้ข้า …” กู้ซีจิ่วเริ่มแต่งเรื่องขึ้น
หลงซือเย่ไม่เชื่อ “วิชาแพทย์กับวิชาแปลงโฉมนางสามารถถ่ายทอดให้เจ้าได้ แต่วิชาเคลื่อนย้ายจะถ่ายทอดให้ได้อย่างไร?
นั่นเป็นความสามารถพิเศษของนาง! ไม่สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้” กู้ซีจิ่วเม้มปากเล็กน้อย “อันที่จริงข้าใช้วิชาเคลื่อนย้ายได้ตั้งนานแล้ว แต่เกรงว่าคนในบ้านจะหาว่าข้าเป็นตัวประหลาด จึงไม่กล้าใช้ มาโดยตลอดเท่านั้นเอง”
หลงซือเย่กล่าว “…แต่นิสัยปัจจุบันของเจ้าแตกต่างกับเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง! เหมือนกับนางทุกประการ!”
“นิสัยของคนผู้หนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อก่อนข้าเพียงถูกคนกดข่มไว้ นิสัยเดิมไม่ได้เป็นเช่นนี้ ภายหลังแม่นางกู้ซีจิ่วในฝัน ก็บอกข้าอยู่เสมอว่าข้าจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ มิฉะนั้นจะถูกคนรังแกจนตาย เริ่มแรกข้ายังไม่เชื่อ ไม่ได้ทำตามที่นางบอก ต่อมาพอถูกเอาเปรียบติดต่อกันหลายครั้งเข้า ถึงได้รู้ว่าที่นางกล่าวล้วนถูกต้องทั้งสิ้น ข้าได้รับบทเรียนจากประสบการณ์อันขมขื่นในอดีต จึงแสวงหาการเปลี่ยนแปลง….” กู้ซีจิ่วพูดโกหกอย่างลื่นไหล ไม่มีพิรุธแม้แต่น้อย
หลงซือเย่มองเธออยู่พักใหญ่ “ทำไมเจ้าไม่พูดเช่นนี้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้?”
กู้ซีจิ่วทอดถอนใจ “อันที่จริงซีจิ่วขัดแย้งด้วยเรื่องนี้มาโดยตลอด ซีจิ่วโป้ปดว่าได้รับความสามารถจากสวรรค์ผลคือถูกท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไล่ล่าไม่ยอมปล่อย ซีจิ่วอยากหาสถานที่ปลอดภัยสักแห่งเพื่อซ่อนตัว ดังนั้นจึงปล่อยเลยตามเลย…”
“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าไม่ปล่อยเลยตามเลยต่อไป? ไยเลือกพูดออกมาในเวลานี้?”
“นั่นเพราะซีจิ่วไม่คิดว่าเจ้าสำนักหลงจะรักใคร่แม่นางกู้ซีจิ่วผู้นั้นอย่างลึกซึงถึงเพียงนี้ จะให้ข้าสวมรอยเป็นนาง รับความรักใคร่ผูกพันจากเจ้าสำนักต่อ ข้าก็ใจไม่แข็งพอ ด้วยเหตุนี้จึงสารภาพออกมา” กู้ซีจิ่วตอบอย่างลื่นไหล
หลงซือเย่จ้องมองเธอ นัยน์ตาแฝงแววเฉียบคมรางๆ
กู้ซีจิ่วจ้องกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน
ยามนี้เธอลบวัตถุแปลงโฉมออกหมดแล้ว และจ้องมองคนด้วยใบหน้าที่แท้จริง ในดวงตาคู่นั้นของสาวน้อยเต็มไปด้วยความจริงจัง มองไม่เห็นพิรุธเลยสักเสี้ยว
ผ่านไปครู่หนึ่งหลงซือเย่ก็ละสายตาไป ไม่เอ่ยถึงประเด็นนี้ต่อ แต่กลับพูดเรื่องอื่นแทน “อยากกินปลาหรือไม่ ปลาในทะเลสาบแห่งนี้คือปลากระสวยเขียว คล้ายคลึงกับปลาสี่เหงือกที่เจ้าชอบกินมากที่สุด ในเมื่อเจ้าอยากตอบแทนข้า เช่นนั้นก็ทำโต๊ะจีนปลาล้วนให้ข้าสักโต๊ะดีไหม?”
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน
โต๊ะจีนปลาล้วนที่อลังการต้องมีทั้ง ตุ๋น ผัด ต้ม ทอด และน้ำแดง
…………………………
[1] แตงที่ฝืนเด็ดย่อมไม่หวาน อุปมาถึง การกระทำโดยฝืนใจหรือ ฝืนกำลัง ผลลัพธ์มักออกมาไม่ดี