Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 234

บทที่ 234

เขาถูกทิ้งให้เปล่าเปลี่ยวอยู่ที่นี่เสียแล้ว

ตี้ฝูอีถูกเธอทำให้สะอึกอีกครั้ง จ้องมองเธอด้วยสายตายากจะคาดเดา

หลงซือเย่กลับมาเร็วยิ่ง เพียงครู่เดียวเขาก็กลับมาแล้ว

เขาวางไหสุราสีแดงฉานไว้บนโต๊ะ “นี่คือพิภพเมามาย บ่มหลายสิบปีถึงจะได้หนึ่งไหนี้ เจ้าวังดีค่อยๆ ดื่มเถิด”

แล้วจึงวางขวดสีแดงเข้มอีกขวดไว้เบื้องหน้ากู้ซีจิ่ว “เอ้า นี้คือเหล้าองุ่นแดงที่เจ้าชอบ”

หัวใจกู้ซีจิ่วสั่นไหวเล็กน้อย เธอชอบดื่มเหล้าองุ่นจริงๆ

หลังจากเธอมาถึงโลกนี้ ก็นานมากแล้วที่ไม่ได้ลิ้มรสของสิ่งนี้ ยามนี้พอได้เห็นก็พลันคิดถึงขึ้นมาบ้างจริงๆ

แววตาของเธอเจิดจ้าเล็กน้อย รอยยิ้มผลิบาน “สีสันไม่เลว ข้าจะลองชิมดู”

ขณะที่กำลังจะเปิดขวดแก้วผลึกที่บรรจุเหล้าองุ่นไว้ จุ่ๆ แขนเสื้อสีม่วงเข้มก็แวบผ่าน มือของกู้ซีจิ่วค้างอยู่ในอากาศ เหล้าองุ่นอันตรธานหายไป!

หมายความว่ายังไง?!

กู้ซีจิ่วเงยหน้ามองหัวขโมยผู้นั้น “นี่ท่านทำอะไร?”

เหล้าองุ่นของเธอถูกตี้ฝูอีสะบัดแขนเสื้อขโมยไป!

น่าชังนัก เธอยังไม่ได้ดมแม้กระทั่งกลิ่นด้วยซ้ำ!

ตี้ฝูอีพลิกข้อมือ ขวดกระเบื้องหยกใบหนึ่งโผล่ขึ้นมากลางฝ่ามือ แล้ววางลงเบื้องหน้ากู้ซีจิ่ว “เจ้ายังเป็นเด็กจะดื่มสุราได้อย่างไร ดื่มสิ่งนี้เถอะ”

ในขวดหยกใบนี้เของเขาบรรจุน้ำผลไม้สดเอาไว้ กลิ่นหอมหวนยิ่ง เด็กเล็กๆ ล้วนชอบดื่มกัน

นึกไม่ถึงว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้สูงส่งจะพกของหลอกเด็กติดตัวด้วย…

ตี้ฝูอีกวักมือไปทางหลงซือเย่ “มาเถิด เจ้าสำนักหลง พวกเรามาดื่มสุรากัน”

เขาว่าพลางแกะผนึกโคลนบนไหสุราทิ้ง กลิ่นสุราหอมหวนฟุ้งกระจายออกมาทันที

“เจ้าวังตี้ การทดสอบนี้จะดำเนินการเมื่อไหร่?” จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็ถามขึ้น

“พรุ่งนี้เถอะ วันนี้สายแล้ว”

กู้ซีจิ่วพยักหน้า “เช่นนั้นก็ดี พรุ่งนี้ข้าจะกลับไปกับท่าน”

จากนั้น มองหลงซือเย่ต่อ “สุราพิภพเมามายมีไหนี้ไหเดียวหรือ?”

หลงซือเย่กล่าวด้วยน้ำเสียงคลุมเครือเล็กน้อย “สุรานี้บ่มยากยิ่งนัก ได้มาไม่ง่าย”

กู้ซีจิ่วร้องอ้อคราหนึ่ง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สุรานี้ก็ควรมอบให้เจ้าวังตี้ ดื่มด่ำผู้เดียว ยังมีปลาเหล่านี้ด้วย เหลือไม่มากแล้ว ปลาที่เหลือพวกนี้ก็ขอเชิญเจ้าวังตี้สำราญแต่เพียงผู้เดียว เจ้าวังตี้มาเป็นแขกผู้มีเกียรติของที่นี่ ถึงอย่างไรก็ต้องให้แขกกินดื่มอย่างอิ่มหนำมิใช่หรือ?”

หลงซือเย่นิ่งเงียบ เขาไม่รู้ว่ากู้ซีจิ่วมีจุดประสงค์ใดอยู่ จึงยังไม่ส่งเสียงตอบรับ

ตี้ฝูอีเคาะโต๊ะเบาๆ พลางมองดูเธอ “ความหมายของเจ้าคือ?”

“เมื่อครู่เงื่อนไขที่เจ้าวังตี้กล่าวถึงก็คือได้ดื่มสุราพิภพเมามาย ได้ลิ้มรสโต๊ะจีนปลา บัดนี้ทั้งสองอย่างครบครันแล้ว เชิญเจ้าวังตี้ตามอัธยาศัยเถิด”

กู้ซีจิ่วลุกขึ้นยืน หันไปหาหลงซือเย่ที่อยู่ข้างกาย “เจ้าสำนักหลง ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ข้าจะมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่ ท่านกล่าวว่าทิวทัศน์หุบเขาท่านงดงามมากไม่ใช่หรือ มิสู้พาข้าไปเดินดูรอบๆ หน่อย?”

หลงซือเย่ย่อมตอบรับข้อเสนอนี้อย่างเบิกบาน เขาลุกขึ้น กล่าวด้วยนํ้าเสียงอ่อนโยนว่า “ได้สิ ข้าจะพาเจ้าไปเดินดูรอบๆ”

ทั้งยังส่งสัญญาณให้ตี้ฝูอีเล็กน้อย “เจ้าวังตี้ค่อยๆ ดื่มกินเถิด ข้าจะพานางไปเดินชมรอบๆ ก่อน วางใจได้ ข้าไม่พานางหนีไปอีกแน่ พรุ่งนี้พวกเราจะไปถึงแท่นเบิกสวรรค์ตรงตามเวลา”

ว่าแล้วก็จูงมือ กู้ซีจิ่วหันหลังจากไป

ตี้ฝูอีพูดอะไรไม่ออก เขาถูกทั้งให้เปล่าเปลี่ยวอยู่ที่นี่เสียแล้ว

สายลมหอบหนึ่งพัดผ่าน พัดกลิ่นสุราอาหารบนโต๊ะโชยเช้าจมูกเขา จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ากับแกล้มคาวเกินไป รสชาติสุราจืดจางเกินไป…

เขาหมุนจอกสุราในมือ แล้วมองปลาที่วางเต็มโต๊ะ แววตาลุ่มลึกว่าเดิม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!