Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 247

บทที่ 247

ถ้าดื่มสามร้อยจอกจริงเจ้าคงท้องแตกตาย

เพลงที่เธอร้องคือเพลง ‘ผลาญความรุ่งโรจน์, ของเส่าซือมิ่ง

สามารถสัมผัสอารมณ์ของเธอได้อย่างชัดเจนในขณะที่ร้องเพลงนี้ เธอทั้งตั้งใจ และร้องได้ยอดเยี่ยมน่าประทับใจ

เมื่อเพลงจบ ตี้ฝูอีก็ยื่นสุราจอกหนึ่งมาทันที “ครั้งนี้ไม่เลวเลย! สุรานี้เป็นของเจ้าแล้ว”

ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ได้ดื่มสุรานี้แล้ว รสชาติยอดเยี่ยมจริงๆ ทำให้กระเพาะที่ถูกนทีลืมเลือนทำลายล้างของเธอสบายขึ้นมาบ้าง

สุราหนึ่งจอกลงกระเพาะไปแล้ว เธอยื่นจอกกลับไปอีกครั้ง “เอามา อีกจอก!”

ตี้ฝูอีพูดคำไหนเป็นคำนั้น เมื่อร้องดีก็มอบสุราให้เธอสามจอกจริงๆ

เมื่อทั้งสามจอกลงกระเพาะไป ในท้องก็พลันอุ่นวาบ ราวกับมีลมปราณสดชื่นไหลเวียนอยู่ในร่างกาย เธอรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที ถอนหายใจด้วยความอิ่มเอม “สุราดี!”

พอเคยลิ้มรสสิ่งที่ขมที่สุด ถึงได้ทราบว่ากลิ่นสุราชั้นเลิศมอมเมาคนได้ถึงเพียงนี้ ทำให้เธออยากดื่มสามร้อยจอกเพื่อดื่มด่ำความสำราญ

เธอร้องเพลงแล้วเพลงเล่า ดื่มสุราจอกแล้วจอกเล่า

กาสุราใบน้อยของตี้ฝูอีเสมือนอ่างสะสมทรัพย์ที่ไม่มีวันหมดสิ้น สุราด้านในก็ไม่มีวันแห้งเหือด ดื่มได้เรื่อยๆ

“ต้มแพะเชือดวัวเพื่อความสำราญ พบกันวันนี้ต้องดื่มหมดสามร้อยจอก!” เมื่อกู้ซีจิ่วดื่มถึงจอกที่ 20 ก็เริ่มร่ายบทกวี ชูสามนิ้วส่ายไปมาเบื้องหน้าตี้ฝูอี

ตี้ฝูอียื่นมือไปจับนิ้วน้อยนุ่มนิ่มของนาง “ถ้าดื่มสามร้อยจอกจริง เจ้าคงท้องแตกตาย!”

โต๊ะตัวไม่ใหญ่ เดิมทีกู้ซีจิ่วนอนคว่ำอยู่บนโต๊ะเล็ก บัดนี้ถูกจับนิ้วไว้ ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายนัก จึงดึงกลับมากะทันหัน!

ทว่าอีกฝ่ายจะปล่อยให้เธอดึงกลับได้อย่างไร?

ยื้อยุดกันอยู่ครู่หนึ่ง เธอกลับพุ่งไปด้านหน้า แทบจะซุกเข้าไปในอ้อมอกเขาแล้ว!

ตี้ฝูอีใช้แขนข้างหนึ่งประคองร่างเล็กๆ ของนาง “เด็กน้อย หนนี้เจ้าเมาจริงหรือว่าแกล้งเมากัน?”

เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ระแวดระวังนางอยู่ ประคองนางพลางจับมือน้อยๆ ของนางไว้ด้วย เลี่ยงไม่ให้เด็กสาวผู้นี้ฉวยโอกาสแทงเขา!

แต่ค่อยยังชั่ว ในมือของกู้ซีจิ่วว่างเปล่า เล็บก็สะอาดสะอ้าน ไม่ได้ซุกซ่อนยาพิษหรือมีดไว้

เห็นได้ชัดมากว่าครั้งนี้นางไม่ได้คิดปองร้ายเขา

สาวน้อยแก้มแดงระเรื่อ ลมหายใจอวลกลิ่นสุรา ดวงตาก็พร่าเลือน นางทิ้งโต๊ะเล็กแสนเกะกะอย่างไม่ ใยดี เตะให้พ้นทาง แล้วยืนอย่างสง่าผ่าเผยเบื้องหน้าเขา “ฉันไม่ได้เมา! ฉันเคยดื่มพันจอกไม่เมามายด้วย!”

เขานั่ง นางยืน ส่วนสูงของทั้งคู่จึงไม่ต่างกันนัก กู้ซีจิ่วถึงขั้นสูงกว่าตี้ฝูอีเล็กน้อยด้วย

นางก้มมองเขา ท่าทีดุดันหาเรื่อง!

นิสัยตามปกติของเธอเย็นชา ราวกับผู้ใดหรือเรื่องใดก็ไม่สามารถยั่วยุให้เธอโกรธได้จริงๆ

ทว่ายามเมานิสัยเธอจะเปลี่ยนเป็นอีกแบบ แสงอาทิตย์สาดส่องผ่าน ส่องกระทบวงหน้าเธอ เธอดูทะนงองอาจดั่งหงส์เพลิงตัวน้อยที่สยายปีกอยู่กลางเวหา “ไม่มีใครมอมฉันได้ ทุกครั้งที่ฉันเมาเป็น การแสร้งทำทั้งนั้น ฉันต้องกำจัดเกราะป้องกันของผู้คนทิ้งเพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง…”

ตี้ฝูอีมองนาง “ที่แท้เจ้าแสร้งเมาหลายหนแล้ว ภารกิจที่เจ้าต้องทำให้สำเร็จคืออะไร?”

“ฆ่าคน!” กู้ซีจิ่วกล่าวอย่างเย็นยะเยือกสองคำ เคลื่อนไหวแวบหนึ่ง ไม่รู้ว่าดึงมีดสั้นออกจากที่ใดมาทาบเข้าที่ลำคอตี้ฝูอี

ดวงตาตี้ฝูอีฉายแววลึกลํ้าแวบหนึ่ง ทำราวกับไม่มีมีดสั้นแนบคอของตนอยู่ มองเพียงแค่นาง “เจ้าฆ่าคนบ่อยหรือ?”

หากมิใช่เห็นนางดื่มสุรามากมายถึงเพียงนั้น ทั้งยังทราบว่าฤทธิ์ของสุรานี้แรงอย่างยิ่ง ต่อให้มีแบบนางห้าคนก็ต้องล้มพับอยู่ดี ถ้ามองจากความคล่องแคล่าของนางอย่างเดียว ตี้ฝูอีคงนึกว่านางแสร้งเมาแล้ว

กู้ซีจิ่วเอียงคอมองเขา ไม่ได้ตอบคำถามเขา กลับถามเขาแทนว่า “นายเป็นใคร ทำไมถึงมาอยู่ใต้มีดฉันได้?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version