Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 248

บทที่ 248

ข้าเดาว่าเจ้าคงเมาไม่บ่อยแน่ๆ…

ตี้ฝูอีนิ่งเงียบ

กู้ซีจิ่วหรี่ตาเล็กน้อย มีดในมือซ้ายยังแนบบนลำคอเขาเหมือนเดิม นิ้วมือขวาเชยคางเขาขึ้นมา “เติบโตขึ้นมาเช่นนี้…ปกติฉันจะลงมือต่อคนงามอย่างปราณี มีดนี้ของฉันไวมาก เชือดแค่นิดเดียว หัวสวยๆ ของนายก็จะกลิ้งลงมา! ตุ้บ หล่นอยู่บนพื้น แบบนั้นก็ไม่สวยอีกต่อไปแล้ว…”

ตี้ฝูอีตะลึงงัน เขาหรี่ตาเล็กน้อยมองดูนาง กล่าวด้วยนํ้าเสียงเนิบนาบว่า “ข้าเดาว่าเจ้าคงเมาไม่บ่อยแน่ๆ…”

มินะนั้นอาการมึนเมาเช่นนี้ของนางคงทำให้คนทั่วไปตกใจแทบตาย…

เด็กสาวที่ยามปกติสงบเยือกเย็นพอเมากลับดุร้ายป่าเถื่อนเยี่ยงนี้ ตี้ฝูอีรู้สึกไม่โปรดปรานสุรานี้ขึ้นมาทันที!

ด้วยเหตุนี้เขาจึงปล่อยให้นางเชยคางเขาราวกับแทะโลมสตรีดีงามก็มิปาน ทั้งยังกะพริบตาปริบๆ ใส่ “เจ้าคิดจะทำอะไร?”

มือน้อยๆ ของกู้ซีจิ่วลูบไล้ดวงตาเขา สบตาเขาอย่างจริงจัง เสมือนศึกษาคันคว้าอยู่ “นี่คือดวงตาล่มเมือง สามารถเกี่ยววิญญาณได้… รู้จักกันในนาม…”

ดูเหมือนสมองนางจะรวนไปครู่หนึ่ง “…รู้จักกันในนามดวงตาอันเย้ายวน เล่าลือในว่าในเมืองเอ็กซ์…ดาราชายเมืองเอ็กซ์คนหนึ่งก็มีดวงตาเย้ายวนเหมือนกัน ทำให้คนนับพันนับหมื่นเคลิบเคลิ้มหลงใหลเขา…”

“เมืองเอ็กซ์? ดาราชาย? ทำให้คนนับพันนับหมื่นเคลิบเคลิ้มหลงใหลเขา…” ตี้ฝูอีทวนหลายคำนี้ซ้ำ นํ้าเสียงยากจะคาดเดา

หลายคำแรกเห็นได้ชัดว่าแปลกใหม่ส่าหรับเขา แต่ประโยคหลังเขาเข้าใจแจ่มแจ้ง ดังนั้นจึงเดาได้ใกล้เคียงคร่าวๆ ว่า บุรุษคนหนึ่งทำให้คนนับพันนับหมื่นหลงใหลได้…

ด้วยเหตุนี้เขาเลยจับใจความสำคัญสองสามอย่างมาสอบถามต่อเล็กน้อย “ดาราชายเมืองเอ็กซ์? ใครกัน? เมืองเอ็กซ์ฟังแล้วเหมือนชื่อสถานที่ บุรุษผู้นั้นนามว่าดาราชายหรือ?”

“นายนี่เฉิ่มจริงๆ” ใบหน้าน้อยๆ ของกู้ซีจิ่วฉายแววเหยียดหยาม “ออกมาจากซอกหลืบรูเขาที่ไหนกัน? ถึง…ถึงไม่รู้จักเมืองเอ็กซ์ ไม่รู้จักดาราชาย…”

นี่น่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตี้ฝูอีถูกคำว่า ‘เฉิ่ม’ ทำให้ขบขัน เขามองนางแล้วอยากยิ้ม และเขาก็ยิ้มออกมาจริงๆ เพียงแต่รอยยิ้มนี้ค่อนข้างเย็นเยือก ตี้ฝูอีกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เด็กดี เจ้าไม่เฉิ่ม ไหนลองอธิบายให้ข้าฟังหน่อย”

“อธิบาย? อธิบายอะไร?” เห็นได้ชัดว่ากู้ซีจิ่วเลอะเลือนอีกแล้ว

“ผู้ที่มีดวงตาเย้ายวน ดาราชายเมืองเอ็กซ์ที่ทำให้คนนับพันนับหมื่นเคลิบเคลิ้มใหลหลงคือใคร?”

“เหลียงหมิงเฉิง” กู้ซีจิ่วเอ่ยชื่อดาราคนหนึ่งในยุคนั้นของเธอ

“เขาน่ามองกว่าข้าหรือ?”

กู้ซีจิ่วหรี่ตามองเขา “นาย…นายน่ามองกว่าเขา…”

ตี้ฝูอียิ้มแล้ว หนนี้ยิ้มอย่างพึงพอใจยิ่งนัก “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว บนโลกนี้ไม่มีใครน่ามองกว่าข้าหรอก ตรงไหนที่ข้าน่ามองกว่าเขา?”

ล้วนกล่าวกันว่าพอดื่มสุราแล้วจะพูดความจริง ในยามปกติคิดจะง้างความจริงออกมาจากปากเด็กสาวคนนี้ก็ยากเย็นยิ่งกว่าไต่ขึ้นสวรรค์เสียอีก บัดนี้ถือโอกาสตอนนางเมาอยู่ ล้วงข้อมูลให้มากหน่อยแล้วกัน

ไม่ทราบว่าโต๊ะเล็กตัวนั้นถูกตี้ฝูอีปลดทิ้งไปตั้งแต่ยามใด กู้ซีจิ่วส่ายโงนเงน ราวกับจะล้มคว่ำได้ทุกเมื่อ

แต่นางก็ยังฝืนยันไว้ไม่ให้ล้ม ยังจับมีดมั่นคงยิ่งตลอดเวลา นางเอียงคอมองเขาสักพักแล้ว เมื่อตี้ฝูอีคิดว่านางคงไม่ตอบคำถามของตนแล้ว นางพลันเปิดปากเอ่ย “นาย…นายมีสามหัว มากกว่าเขาสองหัว…”

ตี้ฝูอีตกตะลึง

รอยยิ้มบนใบหน้าเขาเลือนหายไปทันที!

ยื่นมือไปประคองนาง ทำให้นางยืนอย่างมั่นคง “ข้าก็มีหัวเดียว ที่เจ้าเห็นเป็นสามเพราะเจ้าตาลายแล้ว! เอ้า ตั้งใจมองใหม่อีกที!”

กู้ซีจิ่วถูกเขาจับให้ตรงแน่วดุจท่อนไม้ท่อนหนึ่ง เธอกะพริบตา เพ่งมองสุดชีวิต ในที่สุดก็เห็นแจ่มชัดแล้ว “นายมีหัวเดียวจริงๆ ด้วย…”

“เช่นนั้นข้ายังน่ามองกว่าเขาอยู่ไหม?”

“น่า…น่ามอง นะ…นายสวยกว่าสาวๆ ด้วยซ้ำ เขา…เขาเป็นชายที่หล่อเหลาแบบผู้ใหญ่…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version