Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 287

บทที่ 287

เป็นเพราะหลงซือเย่หรือ?

ฮวาอู๋เหยียนก็เบิกตากว้าง โพล่งออกมาประโยคหนึ่ง “ฝูอี ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่รับศิษย์ นางจะทำได้อย่างไร? จะอาจเอื้อมไปผูกสัมพันธ์กับท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ได้ที่ไหน?”

ตี้ฝูอีกล่าวอย่างเฉยชา “ข้าแค่บอกว่าพลังยุทธ์ของนางสัมพันธ์กับเทพศักดิ์สิทธิ์ มิได้บอกว่านางเป็นศิษย์ของเขาเสียหน่อย…”

เขาหันไปมองกู้ซีจิ่ว “คุณหนหก ข้าขอถามเจ้า วิทยายุทธ์ทั้งหมด เจ้าได้รับมาจากในฝันใช่หรือไม่?”

ก่อนหน้านี้กู้ซีจิ่วเคยกล่าวประโยคนี้ไว้ ยามนี้ย่อมไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่!”

“เจ้ายังจดจำรูปลักษณ์ของผู้ที่5jายทอดวิชาให้เจ้าในฝันได้หรือไม่? เจ้าลองอธิบายมาให้ชัดเจน”

‘เจ้านาย คล้อยตามที่เขาพูดมาสิ! เร็ว! เร็วเข้า!’หยกนภาส่งเสียง เร่งเร้าอยู่ในสมองกู้ซีจิ่ว

กู้ซีจิ่วย่อมไม่ทำให้ตัวเองลำบาก ดังนั้นจึงกล่าวรูปลักษณ์ของรูปสลักหยกที่เคยพบในถํ้าบนภูเขาออกมา “สวมชุดขาวปักลายเมฆา เรือนร่างสูงสง่า สวมหน้ากาก…”

เธออธิบายได้ละเอียดมากจริงๆ นอกจากรูปลักษณ์ที่เธอจำได้เลือนรางแล้ว อย่างอื่นล้วนไม่มีปัญหา

ถึงอย่างไรคนส่วนมากก็ไม่เคยพบเห็นเทพศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่ทราบว่าที่เธอกล่าวมาใช่หรือไม่ ทว่าฮวาอู๋เหยียนกับเชียนเยวี่ยหร่านเคยพบเทพศักดิ์สิทธิ์มาก่อน พอได้ยินกู้ซีจิ่วอธิบายอย่างละเอียดเช่นนั้ก็สิ้นข้อสงสัยเลย!

คนชุดขาวที่ถ่ายทอดวิชาให้กู้ซีจิ่วในฝันผู้นั้นก็คือเทพศักดิ์สิทธิ์! นางได้รับความโปรดปรานเอ็นดูจากเทพศักดิ์สิทธิ์ ถึงได้ถ่ายทอดวิชาให้นางในความฝัน…

ฮวาอู๋เหยียนและเชียนเยวี่ยหร่านรู้สึกเหมือนฝันอยู่ พวกเขาทราบแจ่มแจ้งยิ่งนักว่าเทพศักดิ์สิทธิ์ผูกมิตรได้ยากเย็นเพียงใด ปกติแล้ว อยากพบหน้าเทพศักดิ์สิทธิ์สักครั้งยังยากยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก ต่อให้พวกเขาเป็นสานุศิษย์สวรรค์เบื้องบน เป็นผู้เลิศลํ้าของโลกนี้ แต่เทพศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้รับพวกเขาเป็นศิษย์ อย่างมากคือ แค่เอ่ยปากชี้แนะพวกเขาไม่กี่ประโยคเท่านั้น แค่ไม่กี่ประโยคก็เพียงพอให้พวกเขาใคร่ครวญไปนานหลายปีแล้ว!

แต่เด็กสาวที่อยู่เบื้องหน้ากลับทำให้เทพศักดิ์สิทธิ์ใช้วิชาเข้าฝันมาถ่ายทอดวิชาให้ได้ ซ้ำยังถ่ายทอดให้ตั้งหนึ่งปีเต็มอีกด้วย!

ไม่แปลกเลยที่วิชาแพทย์ของนางจะสูงส่งถึงเพียงนี้ ใช้วรยุทธ์พิเศษเพียงเล็กน้อยก็ทำให้คนตาพร่าได้แล้ว ที่แท้เป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้เลิศลํ้าทุกด้านถ่ายทอดให้ทั้งหมด…

ฮวาอู๋เหยียนถามกู้ชีจิวอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ “ในฝันท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ได้รับเจ้าเป็นศิษย์หรือไม่?”

เนื่องจากยังมีเงามืดจากหลงซือเย่ผู้เป็นครูฝึกเมื่อชาติก่อน กู้ซีจิ่วจึงรู้สึกไม่ดีต่อคำว่า ‘อาจารย์”’ เป็นอย่างมาก เธอมุ่นคิ้วเล็กน้อย “ในฝันเขาแค่ถ่ายทอดวิชาไม่กี่อย่างแก่ข้าเท่านั้น ไม่ได้กล่าวเรื่องรับศิษย์’เลยเจ้าค่ะ หากพวกท่านไม่บอก ข้าคงไม่ทราบกระทั้งว่าเขาคือเทพศักดิ์สิทธิ์…”

ตี้ฝูอีมองนางแวบหนึ่ง ดวงตาทอประกายรางๆ ดูเหมือนเด็กสาวผู้นี้จะไม่อยากกราบผู้ใดเป็นอาจารย์…

เป็นเพราะหลงซือเย่หรือ?

ยามนี้แม้แต่เทพศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ต้องการ…

มู่เฟิง มู่อวิ๋น มู่เหลย และมู่เตียนที่อยู่บนแท่นพยายามคงสีหน้านิ่งเฉยไว้สุดความสามารถ เพื่อเลี่ยงไม่ให้นายท่านผู้จู้จี้คิดว่าพวกเขาหัวเราะเยาะ…

ฮวาอู๋เหยียนยังดูคล้ายไม่กล้าจะเชื่อ “ฝูอี เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ข้าว่าควรไปพบท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอคำยืนยัน”

เชียนเยวี่ยหร่านก็กล่าวด้วย “เจ้าสำนักฮวากล่าวได้ถูกต้อง ควรขอคำยืนยัน”

ตี้ฝูอียิ้มน้อยๆ “เช่นนั้นผู้ใดจะไปขอคำยืนยันจากเทพศักดิ์สิทธิ์?”

ฮวาอู๋เหยียนและเชียนเยวี่ยหร่านพูดไม่ออก

ดินแดนของเทพศักดิ์สิทธิ์ปิดอยู่ตลอดปี ต่อให้เป็นสานุศิษย์ของสวรรค์เบื้องบนเช่นพวกเขาก็ไม่ได้พบง่ายๆ กล่าวได้ว่าในรอบหลายปีก็ไม่แน่ว่าจะได้พบสักหน ทุกครั้งเทพศักดิ์สิทธิ์มีธุระถึงจะ เรียกพวกเขาไปพบเป็นครั้งคราว หากพวกเขาเป็นฝ่ายไปพบก่อน มีความเป็นไปได้เก้าในสิบที่จะไม่ได้พบ ต่อให้พวกเขากระทำความผิด ก็ทำได้เพียงไปคุกเข่าอยู่นอกประตูแดนศักดิ์สิทธิ์ ศิษย์ของเทพศักดิ์สิทธิ์จะเป็นผู้ลงโทษแทน…

ภายใต้สถานการณ์เช่นมี ใครจะมีหนทางได้พบท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ทันทีเล่า?

ฮวาอู๋เหยียนมองตี้ฝูอี “ท่านก็ไม่มีหนทางหรือ?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!