บทที่ 300
เส้นทางเวียนว่ายตายเกิดของนางจะได้ไม่แปดเปื้อน
การโจมตีสองครานี้ทำให้กู้เซี่ยเทียนเสียหน้านัก แค้นเคืองอย่างยิ่ง ย่อมปฏิบัติต่อกู้ซีจิ่วอย่างเลวร้าย ทุกครั้งที่เห็นกู้ซีจิ่วเขาจะนึกถึงภรรยาที่หักหลังตน ผนวกกับตอนกู้ซีจิ่วอายุสามขวบผลทดสอบ ปรากฏว่าเป็นร่างสวะไร้พลัง ยิ่งทำให้เขาไม่พอใจมากขึ้นไปอีก… ก่อให้เกิดผลลัพธ์เช่นในวันนี้
ในที่สุดกู้เซี่ยเทียนก็เล่าเรื่องราวหนหลังเหล่านั้นจบแล้ว ภายในห้องค่อนข้างเงียบงัน กู้ซีจิ่วยกนํ้าเปล่าขึ้นจิบอึกหนึ่ง ไม่ออกความเห็นสักประโยค
กู้เซี่ยเทียนก็ดื่มชาอึกหนึ่ง แล้วถอนหายใจ “จิ่วเอ๋อร์พ่อเสียใจยิ่ง!”
“เสียใจอันใด?” แววตากู้ซีจิ่วคมกริบอยู่บ้าง
“ยามนั้นพ่อไม่ควรหมางเมินนาง ไม่ควรนำนางไปขังไว่ในเรือนอื่นแล้วไม่เหลียวแล ทำให้นางที่ตั้งครรภ์หลายเดือนต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานเช่นนั้น…”
กู้ซีจิ่วแย้มยิ้ม ยิ้มอย่างเยาะหยัน “ท่านเสียใจแค่สิ่งนี้หรือ?”
กู้เซี่ยเทียนตะลึงงัน “แน่นอน ยังมีอีกมาก…สิ่งที่พ่อเสียใจที่สุดก็คือคำพูดในวันที่นางกระโดดหน้าผา พ่อไม่ควรบีบคั้นนางถึงเพียงนั้น ซ้ำยังพูดว่าจะถอดถอนตำแหน่งฮูหยินเอกแล้วให้นางเป็นอนุ ใจจริงของพ่อ นางคือภรรยาของพ่อตลอดไป ไม่เคยคิดจะให้เป็นอนุเลย…พ่อแค่อยากขู่นาง กลัวว่านางจะไม่ต้องการพ่อ ถึงได้…ถึงได้ ขู่เช่นนั้น…”
กล่าวถึงประโยคหลัง นํ้าเสียงเขาสั่นเครือเล็กน้อย
กู้ซีจิ่วคร้านแม้แต่จะยิ้มหยันแล้ว เอื้อมมือไปยกถ้วยชา “แม่ทัพกู้ ดึกดื่นแล้ว ดื่มชาถ้วยนี้อีกครั้งแล้วเชิญกลับไปเถิด ไม่ต้องคิดถึงมารดาข้าอีกแล้ว ถึงอย่างไรข้างกายท่านก็มีสาวงามวัยกำดัดมากมาย ซ้ำยังเชื่อฟังไม่น้อย เหตุใดต้องคิดถึงนางทำให้นางไม่เป็นสุขด้วยเล่า? ข้าคิดว่าหากวิญญาณนางอยู่บนสวรรค์ย่อมไม่ต้องการให้ท่านคะนึงหานางอีก”
วาจานี้แทบเรียกได้ว่าเฉียบคม กู้เซี่ยเทียนอํ้าอึ้ง “จิ่วเอ๋อร์..เจ้าก็คิดว่าพ่อทำผิดในเรื่องเหล่านี้ใช่ไหม? ตะ…แต่นางก็มีความผิดเหมือนกัน หากมิใช่นางคิดจะหลบหนีไปกับศิษย์พี่ของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า…”
“นางมีความผิดจริง!” กู้ซีจิ่วเอ่ยขัดเขา กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ความผิดของนางก็คือสมัยก่อนหน้ามืดตามัว มองคนผิด ฝากชีวิตผิดคน รักบุรุษที่ไม่ควรค่าให้รัก!”
กู้เซี่ยเทียนตกตะลึง
ใบหน้าแก่ๆ ของเขาเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด “จิ่วเอ๋อร์ เจ้า…เจ้าพูดเช่นนี้กับบิดาของตนได้อย่างไร? พ่อ…”
“มิใช่ว่าท่านอยากฟังความคิดแท้จริงที่ข้ามีต่อเรื่องนี้หรอกหรือ? นี่ก็คือความคิดที่แท้จริงของข้า! กล่าวกันตามจริงแล้ว แม่ทัพกู้ ภายภาคหน้าท่านก็อย่าไปร้องไห้หน้าหลุมฝังศพของนางเลย เส้นทาง เวียนว่ายตายเกิดของนางจะได้ไม่แปดเปื้อน เอาละ สิ่งที่ควรพูดข้าก็พูดไปสิ้นแล้ว เชิญแม่ทัพกู้กลับไปเถิด ดึกดื่นแล้ว ข้าอยากพักผ่อน”
กู้เซี่ยเทียนนิ่งงัน
บุตรสาวคนนี้ปากคอเราะร้ายเหลือเกิน ด่าจนเขาขุ่นเคืองหน้าดำหน้าแดงไปหมด
เขาโกรธจนอยากตบโต๊ะ แต่พอเห็นสายตาเยียบเย็นของกู้ซีจิ่วก็ระบายโทสะออกมาไม่ได้ “จิ่วเอ๋อร์”‘หลายปีที่ผ่านมาพ่อรู้ว่าพ่อหมางเมินและไม่ยุติธรรมกับเจ้า ทำให้เจ้าขุ่นข้องหมองใจ แต่พ่อก็ชดเชยให้แล้ว…เจ้าไม่ควรด่าทอพ่อด้วยอารมณ์ส่วนตัวเช่นนี้ ถึงแม้…ถึงแม้พ่อจะรู้สึกผิดต่อแม่ของเจ้า แต่ก็มิเคยลืมเลือนนางเลย ปรารถนาให้นางฟื้นคืนชีพอย่างยิ่ง หากนางฟื้นคืนชีพขึ้นมาพ่อจะดีต่อนางโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ จะไม่ให้นางได้รับความไม่เป็นธรรมอีกสักเศษเสี้ยว จะให้นางเป็นฮูหยินแม่ทัพดังเดิม…”
กู้ซีจิ่วอดยิ้มออกมาไม่ได้ เพียงแต่รอยยิ้มนี้เย้ยหยันยิ่งนัก “ท่านคิดว่านางต้องการตำแหน่งฮูหยินแม่ทัพของท่านนักหรือ? ช่างเถิด ท่านไม่เคยรู้เลยว่าตนผิดที่ตรงไหน ท่านไปเสียเถอะ! ข้าง่วงแล้ว!”
เธอเอ่ยไล่ติดกันหลายครั้งแล้ว กู้เซี่ยเทียนยังอยากโต้แย้งกับนาง อีกหลายประโยค แต่พอมองสีหน้าที่เห็นได้ชัดเจนว่าง่วงงุนแล้วของนาง และนึกถึงว่าอีกครึ่งปีให้หลังนางยังต้องเข้าสู่ป่าทมิฬ หัวใจก็อ่อนยวบลง