บทที่ 328
เจ้านาย ท่านเจ้าเล่ห์จริงๆ
เพื่อความโปร่งใสเป็นธรรม เม็ดยาที่กู้ซีจิ่วหลอมได้ก่อนหนานี้จะวางไว้บนโต๊ะนํ้าแข็งที่อยู่ด้านข้าง โดยมีซานซิงเป็นผู้เฝ้า
เมื่อกู้ซีจิ่วเปิดเตารอบที่สาม เล่อเจียจวินก็พูดอะไรไม่ออกอย่างสิ้นเชิง!
ครั้งนี้เป็นเม็ดยาระดับห้าสองเม็ด เม็ดยาระดับสี่แปดเม็ด!
หยกนภากลายเป็นหยกวิกลจริตโดยสมบูรณ์ ‘เจ้านาย ท่านเปิดสูตรโกงหรือ? อ๋าๆๆ! หลายเดือนที่ข้าหลับไปเกิดอะไรขึ้นกันแน่?! เจ้านาย เตาในรอบแรกหลอมออกมาเป็นเช่นนั้นเพราะท่านจงใจอ่อนข้อให้ใช่ไหม? เพื่อลดความระแวงของนางลงสินะ?’
‘ข้าไม่ได้ให้ค่านางถึงเพียงนั้น เตาแรกเป็นเช่นนั้นเพราะข้ายังไม่คุ้นเคยกับเตาหลอมโอสถใบนี้’ กู้ซีจิ่วกล่าวเอื่อยๆ
หยกนภาอุทาน ‘…สุดยอดไปเลย!’
กู้ซีจิ่วชนะแล้ว ชนะอย่างไร้ซึ่งข้อกังขา
ถึงแม้ในใจของสตรีทั้งสองจะไม่พอใจ แต่ก็ยอมรับมนับถือทักษะการหลอมโอสถของกู้ซีจิ่วด้วยใจจริง!
เดิมทีถานเซี่ยวเกอยังเยาะเย้ยอยู่ว่ากู้ซีจิ่วสิ้นเปลืองดอกอสูรเหมันต์ เมื่อการประลองจบลงเช่นนี้ ผู้ที่ใช้สมุนไพรสิ้นเปลืองกลับกลายเป็นพวกนางเสียเอง
หลงซื่อจื่อมอบสมุนไพรอสูรเหมันต์ที่เหลือทั้งหมดให้กู้ซีจิ่วหลอม เนื่องจากวิธีหลอมโอสถของแต่ละสำนักล้วนแตกต่างกัน โดยเฉพาะวิธีหลอมโอสถระดับสูงที่เป็นความลับไม่แพร่งพรายถ่ายทอด ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นดูอยู่ด้านข้าง
หลงซื่อจื่อจึงเชิญสตรีทั้งสองออกไปอย่างสุภาพ แต่กู้ซีจิ่วกลับกล่าวว่า “ไม่เป็นไร คราวนี้ต้องหลอมกลั่นสมุนไพรเป็นจำนวนไม่น้อย หากพวกนางทั้งสองเต็มใจก็มาเป็นลูกมือช่วยข้าได้ หากไม่เต็มใจก็แล้วไปเถอะ”
สองพี่น้องคิดจะขโมยวิชาพอดี จึงย่อมตกปากรับคำเป็นลูกมือให้เธอ
‘เจ้านาย สองคนนี้เจตนาไม่บริสุทธิ์ ท่านอย่าเป็นแม่พระให้พวกนางขโมยวิชาอย่างเปิดเผยสิ!’ หยกนภาขุ่นเคือง
‘เอ๋ หยกวิเศษเช่นเจ้ามิใช่ว่าควรมีจิตใจเมตตากรุณาอย่างล้นเหลือหรอกหรือ? พูดจาเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?’ กู้ซีจิ่วหยอกเย้ามัน
หยกนภานิ่งไปครู่หนึ่ง
‘เหอะ ข้ารู้แล้ว เพราะพวกนางเป็นศิษย์สำนักถามสวรรค์ เป็นศิษย์หลานของหลงซือเย่ ดังนั้นท่านถึงปรานีให้พวกนางเป็นลูกมือเช่นนี้สินะ? ที่แท้กับหลงซือเย่แล้ว ท่านยังคง…’
‘เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว!’ กู้ซีจิ่วดัดบทมัน อธิบายให้ฟังในที่สุด ‘ต่อให้พวกนางยืนดูอยู่ข้างๆ ก็เรียนรู้ไม่ได้ เพราะข้าเสริมพลังวิญญาณธาตุลมเข้าไปในวิชาหลอมโอสถ พวกนางไม่มีพลังวิญญาณธาตุนี้แน่นอน! หากพวกนางใช้วิธีเดียวกับที่ข้าใช้ ก็สู้ใช้วิธีของพวกนางเองไม่ได้…’
ที่แท้เป็นเช่นนี้!
หยกนภาสบายใจแล้ว มันชมเชยกู้ซีจิ่วประโยคหนึ่ง ‘เจ้านาย ท่านเจ้าเล่ห่จริงๆ!’
การหลอมโอสถเปลืองพลังยุทธ์ยิ่งนัก มิใช่จะหลอมให้เสร็จสื้นได้ทั้งหมดในระยะเวลาสั้นๆ
ทุกคนอยู่ว่างๆ ไม่ได้ทำอะไร จึงจับกลุ่มพูดคุยอยู่ตรงนั้น
คนเหล่านี้ท่องอยู่ในยุทธภพตลอดปี ข่าวสารย่อมฉับไวอย่างยิ่ง
ครั้งนี้พวกเขาสนทนาถึงทูตสวรรค์’ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอีที่เป็นดั่งมังกรเห็นหัวไม่เห็นหางผู้นั้น กล่าวกันว่าทูตสวรรค์’ฝ่ายซ้ายไม่ปรากฏตัวที่อาณาจักรเฟยซิงหลายเดือนแล้ว ซานซิงพบเห็นร่องรอยของเขาเข้าโดยบังเอิญ “ตอนนี้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอยู่ที่อาณาจักรเฮ่าเยวี่ย! ข้าเห็นรถม้าของท่านทูตสวรรค์เมื่อครึ่งเดือนก่อน!”
พวกเขากระตือรือร้นขึ้นมาทันที ต่างให้เขาเล่าอย่างละเอียด “ท่านทูตฝ่ายซ้ายไปที่อาณาจักรเฮ่าเยวี่ยทำไมกัน? หรือจะเกิดเรื่องประหลาดอะไรขึ้น?”
ซานซิงพยักหน้าเล็กน้อย “เกิดเรื่องประหลาดขึ้นจริงๆ ร่ำลือกันว่า อาณาจักรเฮ่าเยวี่ยก็มีสตรีประหลาดผู้หนึ่งอ้างตัวว่าเป็นศิษย์สวรรค์เบื้องบนเช่นกัน”
ทูกคนตกตะลึง
มีบางคนหลุดขำออกมา “นี่มันอะไรกัน? เหตุใดผู้ที่แอบอ้างว่าเป็นศิษย์ของสวรรค์เบื้องบนถึงโผล่มาทีละคนสองคน? แถมยังเป็นสตรีทั้งสิ้น ไม่กลัวตายกันจริงๆ สินะ?”
“ใช่แล้ว ถึงแม้ผู้ที่อยู่ในอาณาจักรของพวกเราจะไม่ใช่ศิษย์สวรรค์เบื้องบน แต่เป็นศิษย์ของเทพศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ยังต้องเตรียมตัวถูกโยนเข้าไปใช้ชีวิตตามยถากรรมในป่าทมิฬอีกครึ่งปี ให้หลัง แล้วสตรีอาณาจักรเฮ่าเยวี่ยผู้นั้นเป็นใครกัน? หรือว่าไม่ต้องการชีวิตแล้วจริงๆ?”