บทที่ 352
ทหารมาใช้ขุนพลต้าน น้ำมาใช้ดินกั้น
จักรพรรดิซวนปรายตามององค์ชายหรงฉู่แวบหนึ่ง เขายังคงขุ่นเคืองที่เมื่อครู่เจ้าลูกคนนี้หักหน้าตน จึงจงใจเอ่ย “เจ้าสี่ เมื่อครู่มิใช่ว่าเจ้าไม่อยาก…”
เขายังพูดไม่ทันจบก็ถูกองค์ชายหรงฉู่เอ่ยขัดอย่างร้อนรน “เมื่อครู่เสด็จพ่อคิดจะจัดให้คุณหนูซีจิ่วนั่งข้างกายลูก ยามนี้ย่อมไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง คุณหนูซีจิ่วมีฐานะเช่นนี้ จะเลือกที่ให้ส่งๆ มิได้ อีกทั้งนั่งด้านนี้ก็เหมาะสมอยู่”
เขาลุกจากโต๊ะคล้ายเกรงว่ากู้ซีจิ่วจะปฏิเสธ เดินมาเพื่อจูงมือนาง
กู้ซีจิ่วพลันถอยหลังอย่างแคล่วคล่อง อย่าว่าแต่องค์ชายหรงฉู่จะจูงมือนางเลย แตะไม่โดนแม้แต่ชายเสื้อด้วยซ้ำ!
หลังจากจากกู้ซีจิ่วถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ก็บังเอิญถอยไปยังทิศทางขององค์ชายหรงเช่อพอดี ฝ่าเท้าคล้ายสะดุด ร่างกายซวนเซเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงข้างกายองค์ชายหรงเช่อพอดิบพอดี
องค์ชายหรงเช่อยื่นมือข้างหนึ่งช่วยพยุงนาง คลี่ยิ้มบางๆ “ขอบคุณมากที่คุณหนูกู้ให้เกียรติ เชิญนั่งๆ”
ฝ่ามือเขาอบอุ่น เมื่อกุมข้อมือเธอไว้ราวกับมีกระแสความอบอุ่นไหลผ่าน
กู้ซีจิ่วชักมือตนกลับเงียบๆ แล้วแย้มยิ้ม “ขอบพระทัยเพคะ”
ทว่าในใจกลับสั่นไหวเล็กน้อย เมื่อครู่เธอไม่ได้คิดจะนั่งตรงนี้เลย แต่ยามที่ถอยมาถึงตรงนี้เท้าดันโค้ง ไปชนมุมโต๊ะโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นก็มึนงง ถ้าเธอไม่ถือโอกาสนั่งลง คาดว่าคงพุ่งเข้าสู่อ้อมอกขององค์ชายแปดผู้นี้ไปแล้ว!
บังเอิญรึ? หรือว่าองค์ชายแปดแอบเล่นเล่ห์กล?
คงไม่ค่อยเป็นไปได้ที่จะแอบเล่นเล่ห์กระมัง?
ในใจเธอทราบเรื่องวรยุทธ์ขององค์ชายแปดผู้นี้เพียงตื้นเขิน เหนือกว่าองค์ชายหรงฉู่เล็กน้อย ด้อยกว่าองค์รัชทายาทหรงเจียหลัวไม่มาก ด้วยเหตุนี้จึงคาดเดาความสามารถได้ไม่แม่นยำ…
ด้วยวรยุทธ์ของเขา หากว่าลอบลงมือเธอย่อมจับสัมผัสได้
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญ
องค์ชายหรงฉู่ได้รับความอับอาย ยืนอยู่ตรงนั้นขณะใบหน้าหล่อค่อนข้างอึมครึม แต่จำต้องระงับโทสะไว้ จ้องกู้ซีจิ่วแวบหนึ่งพลางแสร้งยิ้ม “ที่แท้คุณหนูหกกู้ก็ถูกใจที่ของเจ้าแปดนี่เอง”
กู้ซีจิ่วยิ้มน้อยๆ “สุราบนโต๊ะนี้ไม่เลวเลย” เธอรินสุราใส่จอก จิบเข้าไปอึกหนึ่ง
องค์ชายหรงฉู่นิ่งงัน มิใช่ว่าสุราก็เหมือนๆ กันหรอกรึ?! ข้ออ้าง!
เพลิงโทสะในใจเขาสำแดงออกมาไม่ได้ จึงสะบัดแขนเสื้อเดินกลับโต๊ะตัวเองไป
ความจริงแล้วกู้ซีจิ่วมองเห็นแผนการที่แฝงเร้นไว้ของจักรพรรดิซวน ทั้งยังรู้อีกด้วยว่าเรื่องซุบซิบที่ได้ยินในโรงนํ้าชาวันนั้นเป็นความจริง จักรพรรดิซวนเจตนาจะจับคู่เธอกับองค์ชายหรงฉู่…
เช่นนั้นเธอก็ได้แต่ใช้กลยุทธ์ทหารมาใช้ขุนพลต้าน น้ำมาใช้ดินกั้น[1]
จำต้องใช้กลยุทธ์ที่เธอตกลงกับหรงเจียหลัวไว้จริง
ตำแหน่งโต๊ะขององค์ชายหรงเช่ออยู่ติดกับโต๊ะขององค์รัชทายาทหรงเจียหลัว ตำแหน่งที่กู้ซีจิ่วนั่งอยู่นี้ก็ใกล้กับเขามาก
องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวยกยิ้มบางๆ ชูจอกสุราให้เธอ กู้ซีจิ่วก็ชูจอกให้แก่เขา
เขาเย่อหยิ่งเย็นชามาโดยตลอด ผู้คนอยากเห็นรอยยิ้มเขายังยากยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก บัดนี้ได้เห็นเขาเผยรอยยิ้มบางๆ ทุกคนจึงล้วนตกตะลึง
รูปโฉมเขาหล่อเหลาหาใดเทียม พอแย้มยิ้มน้ำแข็งหิมะพลันหลอมละลาย สั่นสะเทือนห้วใจผู้คน สตรีที่อยู่ที่นี่มองจนแทบจะโง่งมแล้ว!
แน่นอนว่าในใจไม่สบอารมณยิ่ง
หญิงสาวเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นธิดาของขุนนางในราชสำนัก มีหลายคนที่บิดายศสูงกว่ากู้เซี่ยเทียน
พวกนางย่อมเคยได้ยินข่าวลือของกู้ซีจิ่ว และชื่อเสียงว่าเป็นสวะไร้ค่าแถมยังอัปลักษณ์!
กู้ซีจิ่วในสายตาของพวกนางเคยเป็นสัญลักษณ์ของความโง่เง่า ยามมองก็รู้สึกเหยียดหยามฐานะนาง…
นึกไม่ถึงว่าคนที่ยามปกติไม่เคยอยู่ในสายตาพวกนางจะพลิกสถานะครั้งใหญ่เพียงนี้!
ไม่เพียงรู้วิชาแพทย์เท่านั้น ยังเป็นศิษย์เทพศักดิ์สิทธิ์ด้วย…
แต่ก่อนพวกนางยังพอปลอบใจตนได้ คิดว่าต่อให้กู้ซีจิ่วเป็นศิษย์เทพศักดิ์แล้วอย่างไรเล่า?
รูปโฉมอัปลักษณ์เช่นนั้นย่อมไม่ได้รัมความชมชอบจากบุรุษ ดังนั้นพอพวกนางเห็นองค์ชายหรงฉู่ปฏิเสธคำขององค์จักรพรรดิเมื่อครู่ ในใจก็แอบยินดี รู้สึกว่าจิตใจสมดุลขึ้นไม่น้อย
…………..
[1] ทหารมาใช้ขุนพลต้าน นํ้ามาใช้ดินกั้น หมายถึง รับมือไปตามสถานการณ์