บทที่ 362
ไม่กลัวว่าที่คู่หมั้นของเขาจะหึงเอาหรือ?
จอกสุราหยกมันแพะใบนั้นแตกเป็นสองเสี่ยงแล้ว แม้แต่กาสุราที่สีเข้าชุดกับจอกสุราใบนั้นเขาก็ไม่ต้องการอีก
ฝ่ามือแตะลงบนกาสุราแวบหนึ่ง กาสุราที่สวยสดงดงามพลันกลายเป็นธุลีสลายหายไป ทำให้กู้ซีจิ่วเห็นแล้วปวดใจยิ่งนัก
มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่ากาสุราใบนี้เป็นสมบัติลํ้าค่าที่มีค่าควรเมือง เขากลับทำลายได้โดยไม่กะพริบตาเลย! ช่างล้างผลาญนัก!
เพียงแต่ของที่เขาผลาญนั้นเป็นของของเขา ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ ดังนั้นกู้ซีจิ่วผู้ชาญฉลาดจึงเลือกที่จะสงบปากสงบคำ
รอให้เขาหยิบกาสุราอีกชุดออกมา
คนผู้นี้พกชุดกาสุราติดกายไม่น้อย กู้ซีจิ่วเคยเห็นมาแล้วสองชุด แต่ชุดที่ถูกทำลายทิ้งยามนี้มิใช่หนึ่งในสองชุดนั้น
แล้วตี้ฝูอีก็หยิบกาสุราออกมาอีกชุดจริงๆ
กู้ซีจิ่วใจเต้นแวบหนึ่ง!
กาสุราชุดนี้เธอเคยเห็น! แถมยังมีความหลังอันลึกซึ้งด้วย!
กาสุราทรงดอกจักรพรรดิตูม จอกสุราทรงดอกจักรพรรดิตูม วางพราวระยับจับตายิ่งนักอยู่ตรงนั้น
เหตุการณ์เมื่อครึ่งปีก่อนแวบเข้ามาในสมองเธอ ยามที่เขาพาเธอกลับเมืองหลวงครานั้นเคยเคาะจอกสุราใบนี้บรรเลงเป็นทำนองเพื่อให้เธอร้องเพลง เธอดื่มสุราจากกาสุราใบนี้จนเมามาย…
ความหลังดั่งเมฆา ถาโถมเข้ามาในสมองเธอ
“รินสิ” ตี้ฝูอีสั่ง
กู้ซีจิ่วมองจอกสุราสองใบที่อยู่บนโต๊ะ ถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก “รินทั้งสองใบเลยหรือ?”
ยามเขาดื่มสุราคราวนั้นก็หยิบจอกสุราออกมาแค่ใบเดียว ตอนที่ เธอขอเขาดื่มสุราก็ใช้จอกของตัวเอง ครั้งนี้หยิบออกมาสองใบทำไม?
หากผู้อื่นหยิบออกมาสองใบเช่นนี้ กู้ซีจิ่วคงคิดว่าอีกใบหนึ่งเตรียมไว้ให้ตัวเองแน่นอน
แต่อีกฝ่ายคือตี้ฝูอี เธอเลยไม่คิดเช่นนั้น
วิธีคิดของคนผู้นี้คาดเดาตามตรรกะสามัญไม่ได้ ซ้ำยังผิดแผกจากการคาดเดาตามตรรกะสามัญไปไกลลิบ ดังนั้นเธอเลยถามเพื่อความแน่ใจ
ตี้ฝูอีตอบเธอเพียงคำเดียว “แน่นอน”
ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วจึงยื่นมือไปรินสุราทั้งสองใบให้เขาจนเต็มเปี่ยม
ทุกคนในตำหนักเฝ้ามองทางด้านนี้อย่างเงียบๆ ทุกคนต่างรู้สึกว่า ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเจาะจงขานชื่อว่าต้องการให้กู้ซีจิ่วรินสุราให้เขา จะต้องเป็นเพราะทักษะการรินสุราของกู้ซีจิ่วลํ้าเลิศอย่างยิ่งแน่ๆ ลํ้าเลิศจนทำให้ท่านทูตสวรรค์ผู้นี้จำได้ไม่เลือน
แต่พอได้เห็นฝีมือการรินสุราของนาง คนทั้งหลายล้วนส่ายศีรษะอยู่ในใจ
ฝีมือการรินสุราของแม่นางน้อยผู้นี้ช่างธรรมดาเหลือเกิน ไม่น่าตื่นตาตื่นใจสักนิด ไม่ต่างกับสาวใช้ทั่วไปเลย
ฝีมือห่างชั้นกับนางกำนัลคนก่อนหน้านี้ที่มีหน้าที่รินสุราให้ทูตสวรรค์ซ้ายโดยเฉพาะอย่างลิบลับ…
กู้ซีจิ่วช่วยรินสุราให้เขาจนเต็ม แล้วเลื่อนจอกทั้งสองใบไปไว้เบื้องหน้าเขา จากนั้นก็ถอยหลังไป ยืนในตำแหน่งที่นางกำนัลรินสุราผู้นั้นเคยยืน
“นั่งลง” ตี้ฝูอีเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง “เจ้าเป็นศิษย์เทพศักดิ์สิทธิ์ แตกต่างกับผู้อื่น ถึงอยู่ต่อหน้าข้าก็ไม่จำเป็นต้องยืน นั่งเถิด”
เดิมทีโต๊ะนี้ของเขาก็เป็นโต๊ะสำหรับสองคนอยู่แล้ว เลยมีที่นั่งสองที่ เมื่อกู้ซีจิ่วจะนั่งจึงไม่ต้องจัดที่นั่งเพิ่ม
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน เขาให้ตนนั่งข้างกายเขาหรือ? ไม่กลัวว่าที่คู่หมั้นของเขาจะหึงเอาหรือไร?
เธอเงยหน้ามองอวิ๋นซิงหลัวแวบหนึ่ง อวิ๋นซิงหลัวสวมหน้ากากไว้ มองไม่เห็นว่าสีหน้าเป็นเช่นไร แต่พอเห็นมือนางที่พลันกุมจอกสุราไว้แน่นก็คาดเดาความคิดของนางในยามนี้ได้ ย่อมต้องไม่สบอารมณ์แน่นอน
กู้ซีจิ่วสายตาเฉียบไวยิ่งนัก ถึงแม้ท่าทีของอวิ๋นซิงหลัวจะไม่มาก แต่จากกริยาท่าทางทั้งหมดของนางก็มองออกว่านางชมชอบตี้ฝูอี…
กู้ซีจิ่วจึงยืนลังเลเล็กน้อยอยู่ตรงนั้น
“ท่าไมไม่นั่ง? กลัวข้าจะกัดเจ้ารีไง?” ตี้ฝูอีมองเธออย่างเฉื่อยชา
“ต้องขอบคุณท่านแล้ว” กู้ซีจิ่วทำได้เพียงกล่าวขอบคุณแล้วนั่งลง