บทที่ 410
ร่วมเป็นร่วมตาย 1
ตะขาบพิฆาตคลุ้มคลั่งค่อนข้างคล้ายกับบอสในเกมที่บ้าคลั่งเมื่อ ถูกโจมตีจนเลือดแทบหมดหลอด ฝีมือของมันเหนือกว่าก่อนหน้านี้เป็นสองเท่า! มันโจมตีกู้ซีจิ่วอย่างบ้าคลั่ง ก่อให้เกิดสายลมกรรโชกพัดพาต้นไม้ใหญ่รอบข้างให้ล้มระเนระนาด พัดโหมทั่วสนามรบเหมือนพายุระดับ 12 ทุกอย่างที่เข้าใกล้ล้วนถูกพายุซัดออกไปโดยไม่มีข้อยกเวัน!
คุณชายซือเฉินผู้นั้นอาศัยท่าเท้าอันคล่องแคล่วเผ่นโผนโจนทะยานอยู่รอบๆ สนามรบ ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด พยัคฆ์รายที่ไล่กัดเขาไม่ยอมปล่อยเหล่านั้นถึงถูกหลอกล่อให้เข้าไปในสนามรบ ถูกพายุพัดกระเด็นซัดจนเกิดเสียงดัง ‘พลั่ก’…
วิกฤตด้านคุณชายซือเฉินจึงคลี่คลายลงชั่วคราว แต่สีหน้าเขากลับเขียวคลํ้าประหนึ่งภูตผี นั่งหอบหายใจอยู่ตรงนั้น เห็นได้ชัดว่าพิษออกฤทธิ์แล้ว หากถอนพิษไม่ทันกาลเกรงว่าคงถึงแก่ชีวิตแน่!
กู้ซีจิ่วเม้มปากแน่นพลางต่อกรกับตะขาบพิฆาต เธอดูเหมือนถูกตะขาบไล่ต้อนให้ถอยหลัง ทว่าความจริงเป็นการล่อให้อีกฝ่ายเปิดเผยจุดอ่อน…
ตะขาบพิฆาตตัวก่อนหน้านี้ถูกกู้ซีจิ่วแทงโดนตำแหน่งใดสักแห่งในปากเข้าโดยบังเอิญจนสิ้นชีพไป กล่าวอีกอย่างคือจุดอ่อนของเจ้าสิ่งนี้อยู่ในปาก
ดังนั้นตั้งแต่เริ่มสู้กับเจ้าตัวนี้ ปราณกระบี่ของกระบี่ลํ้าค่าในมือกู้ซีจิ่วก็โจมตีปากมันโดยตลอด
เจ้าสิ่งนี้ก็ฉลาดเช่นกัน ไม่ยอมอ้าปากง่ายๆ บางครั้งต่อให้ถูกปราณกระบี่ของกู้ซีจิ่วฟันปากก็จะมีเลือดซึมเล็กน้อยเท่านั้น ฟันไม่โดนจุดอ่อน…
ก่อนหน้านี้ยามที่กู้ซีจิ่วยังไม่เลื่อนระดับ ถึงกระบี่ลํ้าค่าฟันโดนปาก มันก็ไม่เหลือร่องรอยใดไว้ ตะขาบพิฆาตจึงไม่ใส่ใจนัก แต่หลังจากกู้ซีจิ่วบรรลุอีกขั้นแล้ว ทุกคมกระบี่ล้วนเรียกเลือดมันได้…
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ปากของตะขาบพิฆาตก็ถูกกู้ซีจิ่วฟาดฟันจนดูเหมือนดอกเบญจมาศโลหิตที่แย้มบาน…
สัตว์ร้ายตัวนี้เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ในที่สุดก็เริ่มอ้าปากกรีดร้อง กู้ซีจิ่วสบโอกาสจึงเสือกกระบี่แทงเข้าที่จุดเชื่อมต่อระหว่างเพดานและโพรงจมูก
ตรงนี้ก็คือจุดอ่อนของมัน ร่างกายมันสั่นสะท้าน ในที่สุดก็ล้มลงไปบนพื้นแน่นิ่งไม่ไหวติง
หากกล่าวว่าการสังหารตะขาบพิฆาตตัวก่อนอาศัยโชคช่วยเป็นส่วนใหญ่ เช่นนั้นการสังหารตะขาบพิฆาตตัวที่สองก็นับเป็นการอาศัยฝีมือที่แท้จริงของกู้ซีจิ่วล้วนๆ!
หยกนภาที่ไม่กล้าส่งเสียงมาโดยตลอดด้วยเกรงว่าจะรบกวนสมาธิเจ้านาย ในที่สุดก็ร้องออกมาอย่างยินดี ‘เท่มาก! เจ้านาย ท่านองอาจเหลือเกิน! สังหารตะขาบพิฆาตสองผัวเมียได้! ได้ยินมาว่าตอนนั้นยามที่เจ้าสำนักหยินหยางมีพลังวิญญาณขั้นเจ็ดได้พบกับพวกมันโดยบังเอิญ เกือบโดนพวกมันสังหารแล้ว โชคที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายช่วยไว้ มิเช่นนั้นคงไม่มีสำนักหยินหยางในปัจจุบันนี้หรอก!’
“เสี่ยวซีจิ่ว เจ้าร้ายกาจมาก! สามารถสังหารพวกมันได้ แก่นพลังของพวกมันยอดเยี่ยมนัก เป็นตัวยาหายาก” เสียงคุณชายซือเฉินแว่วมา
กู้ซีจิ่วหันไปทันที จ้องมองคุณชายซือเฉิน บางทีเขาอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉากสังหารเมื่อครู่ด้วย รังสีสังหารแผ่พุ่งออกมาจากนัยน์ตาเธอ!
“เจ้าโหดเหี้ยมมาก!” คุณชายซือเฉินคล้ายตกใจจนสะดุ้งโหยง หลังจากวิจารณ์แล้วก็ล้มลงพื้นเสียงดังตึง
……………………..
เมื่อหัวหน้าถูกสังหาร สัตว์ร้ายหี่เหลือย่อมหวาดกลัว ต่างหนีเตลิดไป
ที่แห่งนี้จึงปลอดภัยชั่วคราว กู้ซีจิ่วเหนื่อยล้าจนอยากเอนกายพักผ่อนบนพื้นใจจะขาด แต่ทำไม่ได้ เนื่องจากคุณชายซือเฉินยังสลบอยู่ตรงนั้น
เคราะห์ดีว่าพิษที่เขาโดนถึงจะดูเหมือนร้ายแรง ทว่ารักษาได้ไม่ยาก และเป็นพิษงู กู้ซีจิ่วรักษาให้หายขาดได้ บีบโลหิตพิษออกจากบาดแผลบนขาเขา แล้วทายารักษาพิษงูโดยเฉพาะลงไป สีเขียวคลํ้าบนใบหน้าของเขาก็ค่อยๆ จางหาย ในที่สุดคนก็ฟื้นขึ้นมา
จุดที่เขาถูกกัดคือหัวเข่า ยามที่เขาฟื้นขึ้นมากู้ซีจิ่วเพิ่งจะทายาให้เสร็จ ยังไม่ได้ดึงขากางเกงลงมา
…………………………………..
***ขัดอกขัดใจพระเอกมาก ชอบสร้างความลำบากให้นางเอกตลอด อยากตบหัวพระเอกซักล้านที แง่งงงงงงง***