Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 411

บทที่ 411

ร่วมเป็นร่วมตาย 2

คุณชายซือเฉินลืมตาขึ้นมาคล้ายสะดุ้งตกใจ หดขากลับไปนิดๆ “เจ้า…ทำอะไร?”

กู้ซีจิ่วยังจับน่องเขาไว้ ไม่เงยหน้าขึ้น “อย่าขยับ! ทายาให้ท่านไง เดียวก็ดีขึ้นแล้ว”

ขณะกู้ซีจิ่วก้มหน้าอยู่ เขาจ้องเรือนผมดำขลับเนียนนุ่มของนาง ดวงตาฉายแววซับซ้อนรางๆ

นางน่าจะจำเขาไม่ได้ สำหรับนางแล้วเขาคงเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่เคยพบกันแค่หนสองหน แต่เมื่อครู่นี้ยามที่เขากอดแขนนางไว้ นางก็ดูเหมือนไม่ได้คิดจะขัดขืนจริงๆ จังๆ ยามนี้ถึงขั้นเลิกขากางเกงเขาขึ้นข้างหนึ่งเพื่อทายาให้ ไม่รู้สึกถึงความไม่เต็มใจเลยสักนิด…

ในใจของนางไม่มีความคิดเกี่ยวกับชายหญิงเลยหรือ?

หากเป็นบุรุษอื่นมาพัวพันนางเพียงนี้ นางก็จะไม่ระมัดระวังเช่นนี้หรือ?

แววตาเขาเฉียบคม ทว่าวาจาที่กล่าวออกมากลับแผ่วเบาและเหมือนจะตะกุกตะกักเล็กน้อย “พวกเรา…ชายหญิงมิควรใกล้ชิดกัน”

กู้ซีจิ่วจัดการบาดแผลให้เขาด้วยความว่องไว แล้วดึงขากางเกงเขาลง ตอบอย่างไม่อินังขังขอบว่า “สถานการณ์ฉุกละหุก ข้าไม่ถือสาหรอก แล้วท่านจะถือสาทำไม?”

“ได้อย่างไรกัน ชื่อเสียงของเด็กสาวสำคัญเป็นที่สุด ข้ารู้สึกว่าข้าต้องรับผิดชอบเจ้า” ซือเฉินกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวผ่าเผย

มุมปากกู้ซีจิ่วกระตุกนีดๆ “ไม่ต้อง! ถ้าดูบาดแผลให้บุรุษสักคนแล้วคนผู้นั้นต้องรับผิดชอบ เช่นนั้นข้าคงออกเรือนไป 800 หนแล้ว!”

ซือเฉินนิ่งไปครู่หนึ่ง “เจ้าเห็นขาบุรษมามากน้อยเพียงใดแล้ว?”

“นับไม่ถ้วน ไม่เคยนับด้วย ต่อให้ไม่ถึงร้อยก็น่าจะมีสัก 80” นํ้าเสียงกู้ซีจิ่วไม่อนาทรร้อนใจเช่นเคย

ซือเฉินเงียบงัน

กู้ซีจิ่วยืดตัวตรง เพ่งพิศดวงหน้าเขาสักครู่ “พิษสลายไปเกือบหมดแล้ว แต่ยังมีพิษตกค้างอยู่ในร่างกายนิดหน่อย ดังนั้นสีหน้าจึงยังไม่กลับเป็นปกติอย่างสมบูรณ์ รออีกครึ่งชั่วยามเมื่อยาออกฤทธิ์ก็จะไม่เป็นไรแล้ว”

ซือเฉินเงียบงัน สายตาเขาจับจ้องเธอ “เจ้าไม่ถือสาจริงหรือ?”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว ตบไหล่เขาเบาๆ “ไม่มีอะไรต้องถือสา วางใจเถอะ ข้าไม่นับว่าเจ้าเป็นบุรุษ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลว่าข้าจะให้เจ้ารับผิดชอบ”

จู่ๆ ซือเฉินก็กระตุกมือเธอกะทันหัน เมื่อกู้ซีจิ่วล้มใส่อ้อมแขน เขาก็โน้มศีรษะลงไปจะจูบเธอ…

ริมฝีปากเขายังไม่ทันได้สัมผัสริมฝีปากเธอ ต้นคอก็พลันเย็นวาบ มีดเล่มหนึ่งจ่ออยู่ตรงนั้น น้ำเสียงกู้ซีจิ่วเยียบเย็นยิ่งกว่าใบมีด “ถ้าขยับเขยื้อนวุ่นวายอีกครั้ง ถึงข้าจะรู้จักเจ้า แต่มีดของข้าไม่รู้จัก!”

คมมีดแนบชิดผิวหนังเขาเบาๆ เขาจึงเอนไปด้านหน้าเล็กน้อย ด้วยเกรงว่าจะถูกปาดคอ

ที่แท้นางยังมีขีดจำกัดอยู่ มิได้ยินยอมให้ผู้อื่นเอาเปรียบ

ดวงตาซือเฉินเหมือนฉายแววยิ้มหัว “นี่คือท่าทีที่เจ้าปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตไว้หรือ?”

“บุญคุณที่ท่านช่วยชีวิตข้ากำลังใช้คืน ข้าสามารถชดใช้ให้ท่านได้แม้กระทั่งชีวิตนี้ แต่ไม่ได้เหมารวมว่าข้าจะยอมให้ท่านเอาเปรียบ ถ้ามือไม้ท่านอยู่ไม่สุขอีก ข้าก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะทำอันใดต่อท่าน!” กู้ซีจิ่วกล่าวอย่างจริงจัง

แววตาซือเฉินวูบไหวเล็กน้อย นิ่งไปครู่หนึ่งก็คลี่ยิ้ม ปล่อยตัวเธอก่อน แล้วถอยหลังไป “ขออภัยด้วย ล่วงเกินแล้ว” เขากลับไปเป็นคุณชายผู้สุภาพอีกครั้ง

เด็กสาวผู้นี้กระทำการใดล้วนไม่อ้อมค้อม ซื่อตรงเปิดเผย ดูเหมือนเขาจะชอบนางยิ่งกว่าเดิมแล้ว…

กู้ซีจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง คนผู้นี้หยั่งเชิงเธอหรือ?

เธอไม่พูดอะไรอีก หันไปจัดการกับตะขาบพิฆาตสองตัวนั้น

เดิมทีแก่นพลังของตะขาบชนิดนี้ก็เป็นตัวยาที่ลํ้าค่าอย่างยิ่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะตะขาบยักษ์ที่ฝึกบำเพ็ญมานานกว่า 500 ปีอย่างเจ้าสองตัวนี้ แก่นพลังของมันจึงยิ่งเป็นสิ่งพบเจอได้แต่มิอาจร้องขอมา

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าครั้งนี้ตนได้กำไรแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version