Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 445

บทที่ 445

เจ้าชอบข้ามากขึ้นอีกนิดหรือไม่ 8

“ลู่อู๋[1]” ซือเฉินกล่าวออกมาสองคำ

ดวงตากู้ซีจิ่วเปล่งประกาย!

ลู่อู๋เป็นสัตว์วิเศษในตำนาน!

ในเทวตำนานยุคก่อน ถึงขั้นกล่าวว่ามันเป็นเทพเซียนของเขาคุนหลุน

แต่ในเทวตำนานของยุคปัจจุบัน มันคือเสือหน้าคนมีเก้าหาง ยามนี้มันเป็นเสือเก้าหางครบครัน แต่หน้าคนนั้น…

กู้ซีจิ่วมองเครื่องหน้าของเจ้าตัวน้อย เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่ายังคงเป็นหน้าเสือ! เพียงแต่กระจุ๋มกระจิ๋มพริ้มเพราเป็นพิเศษ ดวงตากลมโต ขนตายาวงอน

เทวตำนานถึงอย่างไรก็เป็นเพียงเทวตำนาน เป็นธรรมดาที่จะห่างไกลกับความเป็นจริงหลายหมื่นหลายพันลี้ ดังนั้นเจ้าลู่อู๋ที่อยู่เบื้องหน้าตัวนี้ไม่ค่อยเหมือนลู่อู๋ในตำนานก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้

ปลายนิ้วเธอเขี่ยศีรษะน้อยๆ ของลู่อู๋อย่างอดใจไว้ไม่ได้ เจ้าลู่อู๋ก็เลียปลายนิ้วเธอ จากนั้นกอดนิ้วมือเธอด้วยสองขาหน้าพลางซบหัวลงบนนั้นแล้วหลับใหล

“ซือเฉิน มันมีความสามารถอะไร?” กู้ซีจิ่วถามอย่างกระตือรือร้น

ผ่านไปสักพักก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากซือเฉิน กู้ซีจิ่วทนไม่ไหวจึงเงยหน้าขึ้น แต่กลับเห็นซือเฉินแหงนหน้ามองฟ้าอยู่ เสมือนไม่ได้ยินคำถามของเธอ

กู้ซีจิ่วจึงเงยหน้ามองฟ้าตามสัญชาตญาณ หัวใจพลันเต้นรัว!

หลังจากเธอเข้าสู่ป่าทมิฬแห่งนี้ ก็ไม่เคยได้เห็นท้องฟ้าอีกเลย ยามนี้ท้องฟ้านั้นกลับปรากฎขึ้นตามช่องว่างระหว่างคาคบไม้แล้ว!

ฟ้าครามเมฆาขาว อากาศแจ่มใส!

ไม่ได้เห็นท้องฟ้ามานานหลายวัน ยามนี้พอได้เห็นผืนนภาที่ปกติ กู้ซีจิ่วจึงสุขใจมาก “นึกไม่ถึงว่าอยู่ที่นี่จะมองเห็นท้องฟ้าปกติได้ เป็นวันที่แจ่มใสเหลือเกิน!”

เธออยากจะไปสำรวจรอบๆ สถานที่แห่งนี้ใจจะขาด

แต่บ่าพลันถูกกดทับ มือของซือเฉินกดลงบนบ่าเธอ “เสี่ยวซีจิ่ว เจ้ามองเห็นท้องฟ้าด้านนอกหรือ?”

พูดจาเพ้อเจ้อ ท้องฟ้าก็อยู่ตรงนั้นเธอจะไม่เห็นได้ยังไง? ไม่ได้ตาบอดเสียหน่อย!

กู้ซีจิ่วเหล่มองเขาแวบหนึ่ง สะบัดมือด้วยต้องการจะปัด ‘กรงเล็บ’ ที่ อยู่บนบ่าทิ้ง ทว่าซือเฉินกลับกุมมือเธอไว้อีก จ้องตาเธอเขม็ง “เด็กดี บอกข้าหน่อย กลางนภามีอะไร?”

น้ำเสียงเขาทุ้มต่ำดึงดูด ไพเราะกว่าเสียงเชลโล่มากนัก

ดวงตาคู่นั้นมืดมิดเหลือคณา ประหนึ่งสามารถมองทะลุเข้าไปในใจคนได้

กู้ซีจิ่วเหมือนถูกสะกดจิต ตอบไปส่งเดช “ฟ้าครามเมฆขาว แถมยังมีอาทิตย์รุ่งอรุณด้วย อ่า เมฆก้อนนั้นรูปร่างพิกลนัก ค่อนข้าง เหมือน…เหมือนกับลู่อู๋! เพียงแต่ดูมีชีวิตชีวากว่าลู่อู๋ของข้ามาก ซ้ำยังมีปีกคู่หนึ่งด้วย…”

“แล้วมีอะไรอีก?”

“ดวงอาทิตย์กลมมนเจิดจ้านัก แฝงด้วยรัศมีสีทอง อ๊ะ ไม่เหมือนดวงอาทิตย์ เหมือนดวงจันทร์ ไม่ถูกสิ ดวงจันทร์ไหนเลยจะเจิดจ้าถึงเพียงนี้! เมฆขาวทรงลู่อู๋วนเวียนพัวพันอยู่รอบๆ มัน…”

มือที่อยู่บนบ่าเหมือนจะกดหนักขึ้น กู้ซีจิ่วถูกเขากดจนเจ็บเล็กน้อย อดจะดิ้นรนไม่ได้ “นี่ ตี้ฝูอี…”

เมื่อเธอเอ่ยถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็ราวกับตื่นจากห้วงฝัน สมองที่ค่อนข้างสับสนมึนงงแจ่มใสขึ้นทันที เธอปัดมือบนบ่าทิ้ง “ซือเฉิน ท่าน…”

สีหน้าซือเฉินค่อนข้างซีดขาว แต่ดวงตาคู่นั้นกลับส่องประกายยิ่ง เขาขัดคอนาง “เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “ซือเฉินไง ทำไมหรือ?”

ซือเฉินหรี่ตามองนางอย่างสับสนว้าวุ่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพลันทอดถอนใจ “เจ้ามองออกว่าเป็นข้า ใช่หรือไม่?”

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน เม้มริมฝีปาก แต่ก็ไม่ปฏิเสธ “ใช่”

ถึงอย่างไรเธอก็เป็นนักฆ่ายอดอัจฉริยะ ความสามารถเชิงตรรกะและการวิเคราะห์แข็งแกร่งเหนือธรรมดา ถึงแม้ซือเฉินจะแตกต่างกับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอีมากไม่ว่าจะด้านบุคลิกหรือรูปโฉม แต่ ถึงอย่างไรกู้ซีจิ่วก็เคยคบค้าสมาคมกับตี้ฝูอีมาเนิ่นนานปานนั้น จึงจับพิรุธได้จากกิริยาท่าทางเล็กๆ น้อยๆ ของเขา จากที่สงลัยเล็กน้อยในที่สุดก็แน่ชัด เพียงแต่ไม่คิดจะเปิดโปง…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version