Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 444

บทที่ 444

เจ้าชอบข้ามากขึ้นอีกนิดหรือไม่ 7

เจ้าตัวน้อยมีขนาดครึ่งหนึ่งของแมวโตเต็มวัย เส้นขนทั้งร่างนุ่มลื่น มันวาวดั่งแพรต้วน เมื่อกู้ซีจิ่วประคองมันไว้ก็รู้สึกเพียงว่าตัวมันทั้งอุ่นทั้งนุ่ม

หางทั้งหมดของเจ้าตัวน้อยพันอยู่รอบข้อมือกู้ซีจิ่ว ใบหน้าถูไถฝ่ามือเธอ ทว่ารู้สึกว่ายังสนิทชิดเชื้อไม่พอ จึงแลบลิ้นเลีย อุ้งเท้านุ่มนิ่มทั้งสี่ข้างคู้หมอบกลางฝ่ามือเธอ ส่งเสียงร้องแง้วๆ ผ่านไปครู่หนึ่งมันก็กรนเบาๆ หลับไหลไปแล้ว

น่ารักเหลือเกิน!

หัวใจกู้ซีจิ่วอ่อนยวบ หันไปมองซือเฉินอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ “มัน…”

ซือเฉินก็มองเธออยู่เช่นกัน แววตาซับซ้อนยากจะคาดเดา สีหน้าก็เหมือนจะผิดปกติไปบ้าง

ท่าทางผิดแผกไปยิ่งนัก กู้ซีจิ่วถูกเขามองจนตัวแข็งค้าง แม้แต่ประโยคหลังที่คิดจะเอ่ยก็หลงลืมไปเสียแล้ว เธอถามออกไปประโยคหนึ่ง “อะไรกัน? ท่านมองข้าเช่นนี้ทำไม?” ซ้ำยังหยอกเขาเล่นอีก “ท่านคงมิได้ริษยาที่ข้าสยบสัตว์ขั้นแปดได้อยู่กระมัง?”

ซือเฉินละสายตาไป มองเจ้าตัวน้อยในมือนางครู่หนึ่ง แล้วแย้มยิ้ม “อาเซิง ยินดีด้วย มันจดจำเจ้าเป็นมารดาแล้ว”

กู้ซีจิ่วหน้าดำทะมึน “มันคงคิดว่าข้าเป็นเจ้านายกระมัง?”

“แง่ว…” เจ้าตัวน้อยปรือตาขึ้นมา ใบหน้ากลมๆ ถูไถฝ่ามือเธออีกครั้ง เหมือนเด็กน้อยที่ออดอ้อนมารดา

เวรเอ๊ย ท่าทางมันจะเห็นเธอเป็นแม่ตามสัญชาตญาณแรกเกิดไปแล้วจริงๆ!

กู้ซีจิ่วนึกถึงเพรียกวายุตัวนั้น ผู้ที่เหน็ดเหนื่อยทุ่มเทฟูมฟักเจ้าตัวน้อยของบ้านอื่นไว้ในกระเป๋าหน้าท้อง…

“พวกเราขึ้นไปกันเถอะ!” กู้ซีจิ่วพลันดึงซือเฉิน หิ้วเจ้าหอยยักษ์ตัวนั้นขึ้นมาด้วย แล้วเคลื่อนย้ายขึ้นไปด้านบนด้วยกัน

กู้ซีจิ่วไม่นึกว่าเจ้าเพรียกวายุตัวนั้นจะยังมีชีวิตอยู่ดี ขณะนี้มันกำลังยืดคอยาวมองลงไปในโพรงขนาดใหญ่ ส่งเสียงร้องอย่างร้อนรน ถึงขั้นมีท่าทีว่าจะอยากจะกระโดดลงไปด้วยซ้ำ

หลังจากกู้ซีจิ่วเคลื่อนย้ายขึ้นมาด้านบน ดวงตาของมันก็หยุดอยู่ที่เจ้าตัวน้อยในมือกู้ซีจิ่ว เลียบๆ เคียงๆ เข้ามาใกล้เธอ ปากก็ส่งเสียงร้องอูๆ

ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะชอบเจ้าตัวน้อยในมือมาก แต่เมื่อเห็นว่าดวงตาเจ้าเพรียกวายุตัวนั้นเปี่ยมด้วยความรักใคร่อาทรของมารดาอย่างชัดเจน เธอก็รู้สึกว่าจะตัดโอกาสพบหน้าระหว่างแม่ลูกของผู้อื่นไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงวางเจ้าตัวน้อยลงบนพื้น เจ้าตัวน้อยค่อนข้างงุนงง มองเธอแล้วก็มองเพรียกวายุตัวนั้น

กู้ซีจิ่วลูบขนมันอย่างเมตตา ชี้ไปที่เพรียกวายุ “ไปสิ ตรงนั้นถึงจะเป็นแม่ของเจ้า” จากนั้นดันมันไปทางเพรียกวายุ

แววตาเพรียกวายุสดใส ยื่นศีรษะใหญ่มาหวังจะใกล้ชิดกับเจ้าตัวน้อย คิดไม่ถึงว่าเจ้าตัวน้อยกลับร้อง ‘แง้ว’ คราหนึ่ง ทั่วร่างเปล่งแสงสีม่วง

เพรียกวายุตัวนั้นตกใจจนคอหด ถอยไปหลายก้าว มองเจ้าตัวน้อยอย่างละล้าละลัง

เจ้าตัวน้อยราวกับจะแสดงอำนาจบารมี หลังจากพุ่งเข้าใส่เพรียกวายุแล้วร้อง ‘แง้วๆ’ ต่อเนื่องกันหลายครา จากนั้นก็หันหลังแล้วกระโดดขึ้นไปบนมือกู้ซีจิ่วอีกครั้ง หางทั้งเก้าพันรอบข้อมือเธอ หัวกลมๆ พยายามถูไถนิ้วมือกู้ซีจิ่วสุดชีวิต ประหนึ่งจะอวดความเก่งกาจ

เพรียกวายุตัวนั้นไม่ถอดใจ ร้องเสียงต่ำแล้วเขยิบเข้ามาอีกครั้ง เจ้าตัวน้อยเงยหน้าขึ้นทันที แยกเขี้ยวยิงฟันราวกับข่มขู่มัน

ด้วยเหตุนี้เพรียกวายุจึงหยุดชะงัก ทำได้เพียงมองดูเจ้าตัวน้อย สีหน้างงงวยและปวดร้าว

กู้ซีจิ่วยิ้มอย่างจนปัญญา ดูเหมือนสัญชาตญาณแรกเกิดของเจ้าตัวน้อยจะรุนแรงนัก เห็นเธอเป็นแม่ไปแล้วจริงๆ!

ไม่โทษพันไม่โทษหมื่น ต้องโทษเพียงโพรงที่เจ้าหอยยักษ์ขุดขึ้น ทำให้ลูกสัตว์ที่ยังไม่ทันออกจากเปลือกตัวนี้กลิ้งเข้ามา…

น่าแปลก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่ายามนั้นเธอกับซือเฉินยืนอยู่ข้างกัน แต่หลังจากเจ้าตัวน้อยลืมตาก็แล่นมาหาเธอทันที สิ่งแรกที่มันเห็นคือเธอจริงๆ น่ะหรือ?

เธอมองเจ้าสัตว์ประหลาดตัวน้อยที่อยู่ในมือ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามซือเฉิน “ซือเฉิน ที่แท้แล้วเจ้าตัวนี้คือสัตว์ชนิดใด?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version