บทที่ 476
พบพานในบ่อน้ำพุร้อนอีกครา 4
จู่ๆ ตี้ฝูอีก็ซัดฝ่ามือลงไปในสระนํ้าพุร้อน! ซัดจนเกิดกระแสนํ้าวนขนาดใหญ่โตมโหฬาร เสียงดังสนั่นจนผืนดินใต้ฝ่าเท้าสั่นสะเทือนตาม!
มู่เหลยที่อยู่ด้านนอกแทบถูกแรงสั่นสะเทือนทำให้ล้มคะมำ เพียงแต่ ขารีบยึดเสาไว้แล้วยืนให้มั่นคง
ในใจเขาเลื่อมใสท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง!
ยามที่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เพิ่งมาถึงสระนํ้าพุร้อน สีหน้ายังซีดขาวอยู่บ้าง ถึงขั้นก้าวโซเซเล็กน้อย แต่หลังจากแช่อยู่ด้านในชั่วระยะหนึ่ง ก็กลับมาทรงพลังดุจพยัคฆ์ผาดมังกรโผนแล้ว!
แข็งแกร่งเหลือเกิน เทพศักดิ์สิทธิ์!
เขายกย่องท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่ในใจ!
บัดนี้เทพศักดิ์สิทธิ์ที่มู่เหลยชมเชยนั่งอยู่ริมสระแล้ว ไม่รู้ว่าเขานึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหยิบกระจกโบราณบานนั้นขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากกระจกโบราณถูกเปิดใช้งานก็ส่องแสงวาบ ใบหน้าที่สวมหน้ากากไว้ของมู่เฟิงปรากฎขึ้นมา มู่เฟิงค่อนข้างประหลาดใจ “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์?”
“นางเป็นอย่างไรบ้าง?” ตี้ฝูอีถามเข้าประเด็น
“หือ?” มู่เฟิงงุนงงเล็กน้อย เหลียวมองด้านในแวบหนึ่งตามสัญชาตญาณ แล้วค่อยตอบ “ก่อนหน้านี้แม่นางกู้หลับอยู่ เพิ่งตื่นขึ้นมายามนี้…ดูเหมือนสีหน้านางจะค่อยยังชั่วแล้ว อาการบาดเจ็บบนร่างนางก็น่าจะดีขึ้นไม่น้อยแล้วขอรับ”
“ทำให้ป้ายหยกล่องหนแล้วส่งเข้าในห้องโดยสาร” ตี้ฝูอีสังการสั้นๆ
ถึงแม้มู่เฟิงจะสับสนงุนงง ไม่ทราบว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มีจุดประสงค์ใด แต่ก็ร่ายวิชา ทำให้ป้ายหยกล่องหน แล้วจึงดีดเข้าไปในห้องโดยสารเงียบๆ…
ยามที่มู่เฟิงพูดคุยผ่านป้ายหยกเป็นการใช้วิธีสื่อสารอย่างลับๆ คนนอกจะไม่ได้ยิน ดังนั้นกู้ซีจิ่วที่อยู่ในรถม้าจึงไม่ได้ยิน
เห็นได้ชัดว่าป้ายหยกชิ้นนี้มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถล่องหนซ่อนร่องรอยได้ ยามเข้าไปในห้องโดยสารก็เงียบเชียบไร้สุ้มเสียง ถึงขั้นที่ว่าแม้แต่ม่านรถยังไม่เลิกขึ้นด้วยซ้ำ คนที่อยู่ในรถย่อมสัมผัสไม่ได้
ส่วนตี้ฝูอียังนั่งอยู่ที่เดิม มองเห็นทุกสิ่งภายในห้องโดยสารผ่านกระจกโบราณอย่างชัดเจน ได้ยินแม้กระทั่งบทสนทนาภายในห้องโดยสาร
…………………………
เมื่อกู้ซีจิ่วตื่นขึ้นมาก็เหงื่อโชกไปทั้งร่าง
เธอพลิกกายลุกขึ้นนั่ง หัวใจที่อยู่ภายในทรวงอกเต้นกระหน่ำไม่หยุด ราวกับสั่นสะเทือนอยู่ในแก้วหู
เธอมองไปรอบๆ ตามสัญชาตญาณ เพื่อยืนยันว่าตัวเองยังอยู่ในรถม้าจริงๆ เมฆาขาวและผืนฟ้ายามราตรีเคลื่อนผ่านนอกหน้าต่างไป…
สวรรค์ เธอฝันไป! เธอฝันไปเท่านั้น!
ซ้ำยังฝันถึงตี้ฝูอีด้วย ในฝันเธอไม่เพียงแต่มองร่างเปลือยของเขาเท่านั้น ยังถูกเขาจูบอย่างดูดดื่มอีก ถึงขั้นเกือบถูกปลํ้า…
บ้าเอ๊ย ร่างนี้ของเธอยังอายุไม่ถึง 15 ปีด้วยซ้ำ ฝันหวาบหวามเช่นนี้แล้วหรือ?!
ซ้ำยังเป็นความฝันที่สมจริงถึงเพียงนี้!
เบื้องหน้าคล้ายมีเรือนร่างตี้ฝูอีในสระน้ำพุร้อนปรากฎขึ้นมา…
ถึงแม้จะเห็นเพียงแวบเดียว แต่การมองเห็นของกู้ซีจิ่วยอดเยี่ยมมาก มองเห็นสรีระอันมีเอกลักษณ์ของเขาเต็มๆ
กระดูกสันหลังคมชัดงดงามสมบูรณ์ เส้นเชิงกรานได้สัดส่วน ผิวพรรณและกล้ามเนื้อขาวกระจ่างเปี่ยมด้วยพละกำลัง กล้ามหน้าท้องแปดส่วนแน่นกระชับทรงพลัง…
ชาติก่อนกู้ซีจิ่วเป็นนักฆ่า อีกทั้งรู้วิชาแพทย์ เมื่อก่อนองค์กร ฝึกอบรมพวกเธอให้เข้าใจโครงสร้างสรีระมนุษย์อย่างแจ่มแจ้ง ไม่รู้ว่ามีผู้ชายมากมายแค่ไหนที่ถูกสังหารเพื่อนำมาเป็นแบบให้พวกเธอศึกษา ร่างกายของผู้ชายพวกนั้นย่อมกำยำล่ำสันเช่นกัน มีแม้กระทั่งผู้ชายที่งดงามสมบูรณ์แบบ ประกอบกับยามที่เธอปฏิบัติภารกิจก็ต้องคลุกคลีกับผู้ชายที่แตกต่างกันไป ท่ามกลางคนเหล่านั้นก็มีชายรูปงามอยู่ไม่น้อย
แต่ผู้ชายทั้งหมดที่เธอเคยรู้จักมากลับไม่มีใครสมบูรณ์แบบได้ถึงครึ่งหนึ่งของตี้ฝูอีเลย!
เรือนร่างของคนผู้หนึ่งดุจผลงานชิ้นเอกที่แสนสมบูรณ์แบบของเทพเจ้า! ขนาดประติมากรรมเรือนร่างมนุษย์ที่สืบทอดกันมายาวนานก็ยังด้อยกว่าเขาเสียอีก!
เนื่องจากกู้ซีจิ่วเคยศึกษาโครงสร้างสรีระมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง ยามที่เธอมองดูผู้คนก็จะมองวิเคราะห์โครงสร้างสรีระของอีกฝ่ายตามสัญชาตญาณด้วย