Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 532

บทที่ 532

ความโปรดปรานของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ 2

กู้ซีจิ่วก้มหน้าเรียบเรียงถ้อยคำครู่หนึ่ง “มีสองสามประเด็นต่อไปนี้ที่ซีจิ่วคิดไม่ตก ข้อแรก ฟังจากสิ่งที่เหล่าศิษย์ในชั้นเรียนเมฆาคล้อยแฉออกมาเพราะต้องพิษเจ้าหอยยักษ์ อาจารย์จือผู้นี้ชอบแทะโลมศิษย์ เนื้อในค่อนข้างชอบสาวงาม ส่วนหูชิงชิงถึงแม้วรยุทธ์จะสูงส่งยิ่ง แต่รูปโฉม…ไม่ค่อยดีจริงๆ ด้วยรสนิยมอันสูงส่งของอาจารย์จือ นางจะยั่วยวนเขาได้อย่างไร? นอกเสียจากอาจารย์จือผู้นี้จะมีรสนิยมเฉพาะ… ข้อที่สอง หูชิงชิงมีปากเสียงกับข้าอยู่หลาย ประโยคจริงๆ ในใจย่อมปรารถนาจะขับไล่ข้าออกไปแน่นอน แต่ด้วยนิสัยหยิ่งยโสของนาง คงไม่ถึงกับใช้วิธีเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเล็กๆ เช่นนี้กระมัง? แน่นอน ซีจิ่วก็มิคุ้นเคยกับหูชิงชิงผู้นี้ ไม่ทราบลักษณะนิสัยยามปกติของนาง ดังนั้นข้อที่สองนี้พักไว้ชั่วคราว…”

ความสามารถเชิงตรรกะวิเคราะห์ของสาวน้อยช่างเยี่ยมยอดเหนือธรรมดาจริงๆ!

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์นั่งลงบนศิลาเขียวก้อนหนึ่ง ฟังเธอพูดต่อไป

“ข้อที่สาม หลังจากอาจารย์จือกล่าวออกมาว่า ‘เจ้ามาแล้ว…’ ก็เกิดเพลิงเผาผลาญตนทันที่ ‘เจ้า’ ที่ว่านี้น่าจะเป็นคนที่เขาไว้ใจที่สุด เช่นนั้น ‘เจ้า’ ที่ว่านี้สื่อถึงผู้ใด? เกี่ยวข้องกับแผนการนี้หรือไม่? แน่นอน ผู้ที่เขาไว้วางใจที่สุดก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคนร้ายที่บงการอยู่เบื้องหลัง แต่เขาแผดเผาตนหลังจากกล่าวประโยคนี้จบพอดี บังเอิญงั้นหรือ? หรือว่าบนร่างเขาถูกผู้ใดติดตั้งอาคม ประหลาดหรือวิชากู่อันใดเอาไว้พอดี? เมื่อเอ่ยข้อมูลของอีกฝ่าย เลยทำให้เขาถูกธาตุไฟเข้าแทรกทันทีใช่หรือไม่? ซีจิ่ว…ซีจิ่วได้ยินว่ามีหนอนกู่ชนิดหนึ่ง ที่มีความสามารถเช่นนี้ หนอนกู่ชนิดนี้จะถูกฝังลงไปในหัวใจมนุษย์สามารถดักฟังทุกความเคลื่อนไหวของเจ้าของร่างได้ ด้วยเหตุนี้จึงบรรลุเป้าหมายในการควบคุมเจ้าของร่าง เมื่อเจ้าของร่างเอ่ยเรื่องที่เกี่ยวกับผู้บงการกู่ออกมาแม้เพียงเล็กน้อย เจ้าของร่างผู้นี้ก็จะดับอนาถ แม้กระทั่งวิญญาณก็แตกสลาย…อาจารย์จือเผาผลาญตนเอง แถมการเผาผลาญยังรวดเร็วปานนั้น ต่อให้ภายในร่างของเขาถูกกู่ตัวนี้แฝงอยู่ ก็คงมอดไหม้ไปพร้อมกับเลือดเนื้อของเขานานแล้ว ไม่มีหนทางตรวจสอบ…”

“เจ้าทราบเรื่องราวไม่น้อยเลยจริงๆ” นัยน์ตาท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เรียบเฉย ทว่าแฝงแววหยอกเย้าอยู่เล็กน้อย “เปิ่นจุนได้ยินมานานแล้วว่าเจ้าทราบความรู้พิสดารมากมายยิ่งนัก เมื่อก่อนยามจักรพรรดิซวนถามเจ้า เจ้าตอบว่าเป็นความสามารถที่สวรรค์ประทานให้…โอ้ ความจริงปรากฏชัดว่าเจ้ามิได้รับความสามารถมาจากสวรรค์ และเปิ่นจุนก็ไม่เคยสอนเรื่องเหล่านี้ให้เจ้าเลย เช่นนั้น สรุปแล้วว่าเจ้าได้ความรู้เหล่านี้มาจากไหนกันแน่?”

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน ดูเหมือนท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะทราบเรื่องราวของเธอแจ่มแจ้งแล้ว!

เช่นนั้นเธอควรพูดความจริงหรือไม่? กล่าวว่าตนยืมศพคืนวิญญาณงั้นหรือ? แบบนั้นเขาจะจับเธอยัดกรงหมูถ่วงน้ำไหมนะ?

หรือเธอควรโป้ปดต่อไป? เธอนึกถ้อยคำดีๆ ที่แนบเนียนไร้ช่องโหว่ ไม่ออกไปชั่วขณะจริงๆ

เธอกระอักกระอ่วนไปครู่หนึ่ง ไม่พูดอะไร

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มองใบหน้าที่ซีดขาวเล็กน้อยของนาง “เจ้ายืมศพคืนวิญญาณเรื่องนี้ไม่ต้องพูดแล้ว เปิ่นจุนมองปราดเดียวก็ดูออกแล้ว”

กู้ซีจิ่วเบิกตากว้าง เขามองออกนานแล้วหรือว่าเธอยืมศพคืนวิญญาณ?! แต่เธอก็ยังทำให้เรื่องมันรุงรังวุ่นวาย!

นี่คือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและไม่กล้าพูดออกไปที่สุดของเธอ ยามนี้ในเมื่อเขาทราบเรื่องแล้ว แถมเขายังไม่มีสาเหตุว่าจะสังหารเธอด้วยเรื่องนี้ เช่นนั้นเธอก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว

ดังนั้นเธอจึงพูดไปตามจริง บอกเล่าที่มาของตนแบบย่อๆ

แน่นอน เธอไม่บอกว่าเธอมีบุญคุณความแค้นกับหลงซี และไม่ได้บอกว่าตนเคยเป็นมนุษย์โคลนนิ่ง บอกเพียงว่าตนเคยเป็นมือสังหาร เนื่องจากปฏิบัติภารกิจล้มเหลวเลยสิ้นชีพแล้วทะลุมิติมาเข้าร่างกู้ซีจิ่วในปัจจุบัน…

เดิมทีเธอไม่คิดจะกล่าวให้มากความ ดังนั้นจึงเล่าคร่าวๆ แต่เห็นได้ชัดว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มิใช่คนที่จะหลอกได้ง่ายๆ เขาตะล่อมถามเธออย่างช้าๆ ไม่ก็ประโยค สิ่งที่ถามล้วนเป็นใจความสำคัญทั้งสิ้น ทำให้เธอจนปัญญาจะหลบเลี่ยง

ยกตัวอย่างเช่นภารกิจเช่นใดที่ทำให้เธอล้มเหลวได้?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!