Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 547

บทที่ 547

ผู้บงการตัวจริงเผยกาย

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก…

การพูดคุยทำให้ใจลอย กู้ซีจิ่วเหม่อเพียงเล็กน้อย แสงกระบี่สายหนึ่งของอวิ๋นซิงหลัวก็ฟาดฟันเข้ามา เกือบจะฟันถูกหน้าผากกู้ซีจิ่วแล้ว!

กู้ซีจิ่วรีบหลบทันที แต่ความเร็วของอีกฝ่ายว่องไวเกินไป เธอจึงหลบไม่พ้น เมื่อเห็นกระบี่นั้นกำลังจะฟันถูกแขนเธอ หลงซือเย่ก็พุ่งเข้ามาอย่างไม่สนใจอันตราย โผเข้าหาร่างกู้ซีจิ่ว คิดจะใช้แผ่นหลังต้านรับกระบี่นี้แทนเธอ ลำแสงสีรุ้งสายหนึ่งร่วงลงมาจากฟ้า…

แสงสีรุ้งนี้ไม่เพียงแต่สกัดกั้นคมกระบี่ของอวิ๋นซิงหลัวออกไปเท่านั้น ยังลากกู้ซีจิ่วให้ถอยหลังไปหลายก้าวด้วย สองแขนของหลงซือเย่ที่อ้าออกเตรียมโอบกอดกู้ซีจิ่วจึงโผเข้าใส่ความว่างเปล่า

ทูตเฉิงเอ้อปรีดายิ่งนัก “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์!”

หลงซือเย่เงยหน้าขึ้น หัวใจพลันเต้นรัว!

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ในอาภรณ์ขาวยืนอยู่ตรงนั้น ส่วนร่างของกู้ซีจิ่วก็ถอยไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาพอดี ถูกเขาโอบไว้ในวงแขน ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ยืนได้มั่นคง

“วรยุทธ์อ่อนหัดถึงเพียงนี้จะพุ่งไปอยู่ข้างหน้าทำไม? รนหาที่ตายหรือ?” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์กล่าวตำหนิ พลางดึงเธอไปอยู่ด้านหลัง

กู้ซีจิ่วไม่พูดอะไร

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว สถานการณ์ย่อมพลิกผัน

ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ได้เห็นท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ออกโรง

กล่าวได้เพียงว่าสมกับเป็นตัวตนระดับเทพจริงๆ บนโลกนี้ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเทียมได้

เขาไม่เคลื่อนไหว แสงเจ็ดสีแผ่พุ่งไปทั่วพื้นที่ โอบล้อมองค์ชายหรงเช่อและอวิ๋นซิงหลัวที่บ้าคลั่งไว้ด้านใน

ในอดีตยามต่อสู้กู้ซีจิ่วจะพุ่งไปอยู่ข้างหน้าตลอด เธอจะเป็นหหารแนวหน้าเสมอ คนอื่นๆ ล้วนยอมรับเธอเป็นผู้นำ ตะลุยเข้าไปอย่างเลือดร้อน ต่อให้อยู่กับหลงซี เธอก็จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เขา

นี้เป็นครั้งแรกที่เธอถูกปกป้องไว้ด้านหลัง ผู้ที่อยู่เบื้องหน้านี้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยยิ่งนัก

และไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด เธอจึงนึกถึงตี้ฝูอีขึ้นมาอีก ถึงแม้นิสัยของคนผู้นั้นจะคาดเดายาก แถมยังกลั่นแกล้งเธอเพื่อความสำราญอีกต่างหาก แต่ยามที่เขาอยู่ข้างกายเธอ เธอก็รู้สึกปลอดภัยเช่นเดียวกัน

ราวกับขอเพียงมีเขาอยู่ข้างกาย อันตรายใดล้วนม่าหวั่นเกรง อันตรายใดล้วนไม่กล่ำกรายมาถึงเธอ

เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าบุคลิกของตี้ฝูอีและท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ต่างกันลิบลับ แต่เธอก็มีความรู้สึกอยู่เสมอว่าพวกเขาเหมือนจะเป็นคนแบบเดียวกัน

มิน่าเล่าในบรรดาสานุศิษย์สวรรค์ทั้งห้า ตี้ฝูอีถึงใกล้ชิดกับท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่บ้าง ที่แท้เป็นเพราะนิสัยของพวกเขาค่อนข้างใกล้เคียงกัน ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็เลยชื่นชมตี้ฝูอีเป็นพิเศษกระมัง?

กู้ซีจิ่วมองไปที่สนามรบอีกครั้ง

การต่อสู้ครั้งนี้แทบจะไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว

แทบจะเป็นการโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว…

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ขอรับ พวกเขาถูกควบคุม!” ทูตเฉิงเอ้อเกรงว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะโกรธจนสังหารสองคนนี้ จึงรีบร้องบอก

ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่พูดอะไร องค์ชายหรงเช่อและอวิ๋นซิงหลัวที่บ้าคลั่งถูกแสงสีรุ้งควบคุมไว้ กดไว้บนพื้นจนใบหน้ามอมแมม

“จับไว้!” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ยกมือปลดแสงสีรุ้งออก ทูตเฉิงเอ้อรีบเข้าไปทันที ใช้เชือกพิเศษชนิดหนึ่งมัดพวกเขาสองคนนี้ไว้

คนทั้งสองยังคงดิ้นรน ดีดดิ้นอยู่บนพื้นราวกับปลา

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ สรุปแล้วสองคนนี้ถูกคุณไสยอันใดหรือขอรับ? จวบจนยามนี้ก็ยังไม่ได้สติ” ทูตเฉิงเอ้อขมวดคิ้วมองคนทั้งสองที่เกลือกกลิ้งคลุกฝุ่นอยู่บนพื้น ไม่เข้าใจอย่างยิ่ง

ลำแสงสีรุ้งของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงสังหารศัตรูได้เท่านั้น ยังสามารถคลายคุณไสยทุกอย่างได้ด้วย แต่ยามนี้ถึงแม้จะควบคุมสองคนนี้ไว้ได้ แต่เห็นได้ชัดว่าคุณไสยยังไม่คลายออก…

เมื่อครู่ศักยภาพของสองคนนั้นลํ้าเลิศนัก พลังกายและพลังวิญญาณถูกกระตุ้นขึ้นมาเต็มที่ บัดนี้ขุมพลังกล้าแกร่งนั้นเสื่อมถอยลงแล้ว ถ้าหากพวกเขามีสติอยู่ เกรงว่ายามนี้คงอ่อนล้าจนกระอักเลือดเพียงนิดก็ขยับกายไม่ได้แล้ว

แต่ตอนนี้พากเขาราวกับไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด ดิ้นรนอย่างหนัก ดิ้นจนเชือกเส้นนั้นเกิดเสียงเสียดสี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!