Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 561

บทที่ 561 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์หนุนหลังนาง 3

คนเหล่านั้นพูดคุยกันอยู่ตรงนั้นอย่างดุเดือด ค่อนข้างคล้ายกับพวกนักเลงที่เก่งแต่ลับหลัง

เจ้าหอยยักษ์ยิ่งฟังยิ่งวิตก

ศิษย์ที่ล้อมมันไว้เหล่านี้คืออัจฉริยะของทวีปนี้นิ ทุกคนล้วนมีพลังวิญญาณขั้นหกขึ้นไป ซ้ำยังมีคนหนึ่งที่ใกล้จะบรรลุขั้นแปดแล้ว

เมื่อครู่ตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขามันเสียเปรียบยิ่งนัก เมื่อใช้พิษมายาหลอนลวงกลับถูกคนหนึ่งในหมู่พวกเขาแก้ได้ ผลคือเมื่อคนเหล่านี้ได้สติขึ้นมาก็ทุบตีจนข่มมันลงได้…

มันจึงทำได้เพียงเอ่ยวาจาข่มขู่ ทว่าไม่นึกถึงว่าพวกเขาจะไม่หลงกลมัน ถึงขั้นมีท่าทีว่าคิดจะฆ่าปิดปากมันเสียด้วยซ้ำ

เจ้าหอยยักษ์ร้อนรน กล่าวอย่างโกรธขึ้ง “คิดจะสังหารข้ารึ? เช่นนั้นข้าก็จะสู้ตายกับพวกเจ้า!”

เจ้านายของมันห้ามไม่ให้มันกินมนุษย์มาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อครู่เจ้าหอยยักษ์จึงดึงพวกเขาเข้าสู่มายาหลอนลวงเท่านั้น ไม่ได้คิดจะกินพวกเขาจริงๆ แค่อยากจะมอบบทเรียนให้พวกเขาเสียบ้าง มิเช่นนั้นพวกเขาคงไม่หลุดออกมาได้รวดเร็วปานนี้…

“ข้าว่าพวกเจ้าอย่าทำเกินไปเลยดีกว่า! หอยตัวนี้เป็นหอยวิญญาณ ถ้ามันได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจริงๆ กู้ซีจิ่วไม่ยอมรามือจากพวกเจ้าแน่…” จู่ๆ เสียงหนึ่งก็แว่วมาจากด้านหลังเจ้าหอยยักษ์ คนผู้หนึ่งพยายามฝืนทรงตัวขึ้นมา

กู้ซีจิ่วที่อยู่ไกลออกไปหรี่ตาลงนิดๆ

เชียนหลิงอวี่! เด็กหนุ่มที่ช่วยเธอมุงหลังคาคนนั้น!

เห็นได้ชัดเจนว่าเขาก็บาดเจ็บเช่นกัน สีหน้าซีดขาวอย่างยิ่ง “พวกเจ้าควรบันยะบันยังเสียบ้าง!”

“เหอะๆ สวะอย่างเจ้าฟื้นขึ้นมาแล้วสินะ ไสหัวไปซะ! นี่ไม่ใช่เรื่องของเจ้า! ถ้ายังพล่ามออกมาอีก ข้าจะเล่นงานเจ้าให้อ่วมเสีย!” เด็กหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“เชียนเฟิงเทียน เจ้าอย่าได้กำแหงเกินไป! เป็นพวกเจ้าทำไม่ถูกก่อนชัดๆ วิ่งเข้ามาชิงอาณาเขตของพวกเรา…” เชียนหลิงอวี่ ตะโกนอย่างโกรธแค้น

เด็กหนุ่มคนนั้นรูปโฉมละม้ายคล้ายเชียนหลิงอวี่อยู่บ้าง ทว่าหน้าตาดุดันองอาจกว่าเล็กน้อย ร่างกายก็กำยำกว่าเชียนหลิงอวี่ เขาหัวเราะเหอะ “พวกเจ้าหรือ? เจ้ากับหอยตัวนี้นับเป็น ‘พวกเรา’ งั้นรึ? อาณาเขตแห่งนี้เดิมทีก็เป็นของพวกข้าอยู่แล้ว เป็นพวกเจ้าที่ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง เข้ามายึดครองที่นี่ไว้…”

“ข้าผู้เป็นคุณชายอยู่ที่นี่ก่อน!” เชียนหลิงอวี่แย้งด้วยเหตุผล

“อยู่ที่นี่ก่อนแล้วอย่างไร? สวะของชั้นเรียนเมฆาคล้อยอย่างเจ้า กล้ามาแย่งชิงอาณาเขตกับคนของชั้นเรียนเมฆาม่วงอย่างพวกเรารึ? เชียนหลิงอวี่ เมื่อครู่เจ้าควรจะพาหอยตัวนี้ไสหัวไปซะ เป็นเจ้าเองที่ไม่รู้ดีรู้ชั่ว หรือว่าที่โดนซ้อมไปเมื่อกี้ไม่ได้ทำให้เจ้ามีสมองขึ้นมาเลย? ยังคิดจะปกป้องเจ้าหอยชั่วตัวนี้อยู่อีกหรือ?”

“เชียนเฟิงเทียน…” เชียนหลิงอวี่กัดฟัน “เจ้าอย่าได้รังแกกันมากเกินไป!”

“สวะอย่างเจ้า ต่อให้รังแกเจ้าแล้วจะทำไม?” เชียนเฟิงเทียนยิ้มน่าชัง “ยังมีอีก ข้าจะบอกอีกครั้ง ตอนนี้ข้าคือเชียนหลิงเทียน ไม่ใช่เชียนเฟิงเทียนอีกต่อไป ถ้าเรียกชื่อข้าผิดอีก ข้าจะซ้อมเจ้าจนบิดามารดาจำหน้ามิได้! จะไม่แค่ซ้อมเจ้าให้สลบไปง่ายๆ เหมือนเมื่อกี้อีก…”

“หลิงเทียน จะพูดจาไร้สาระกับเขาไปทำไม? ฆ่าเจ้าหอยตัวนี้ก่อนเถอะ!” เหล่าสหายของเชียนหลิงเทียนทนรอไม่ไหวแล้ว

มุมปากของเชียนหลิงเทียนยกขึ้น หยักยิ้มเหี้ยมเกรียม “ได้ ตั้งค่าย! ผดุงธรรมแทนสวรรค์ สังหารเจ้าหอยซะ!”

เงาร่างห้าสายวูบไหว ต่างคนต่างยืนประจำตำแหน่งของตน การต่อสู้ฉากใหญ่ระหว่างคนกับหอยกำลังจะปะทุขึ้น

‘แปะ! แปะ! แปะ!’ เสียงปรบมือสามคราดังกังวานมาจากส่วนลึกของป่า นํ้าเสียงกระจ่างใสสายหนึ่งหัวเราะออกมาแผ่วๆ “ผดุงธรรมแทนสวรรค์ประโยคนี้กล่าวได้ดี! ฆ่าหอยตัวหนึ่งก็นับว่าผดุงธรรม แทนสวรรค์แล้วหรือ?”

เสึยงใสกระจ่างดั่งกระดิ่งเงินสั่นไหวกลางสายลม ไพเราะเกินบรรยาย

ทุกคนหน้าเปลี่ยนสี พวกเขาเหล่านี้ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ ตามปกติแล้วต่อให้มียุงตัวหนึ่งบินผ่านในรัศมีสามลี้พวกเขาก็จะสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว ยามนี้จู่ๆ ในป่ามีมนุษย์ตัวเป็นๆ ปรากฏตัวขึ้นมาโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!