บทที่ 570 นางคือพญาหงส์ 2
เธอกับเชียนหลิงอวี่นัดหมายว่าจะพบกันเช้าวันรุ่งขึ้นโดยเขาจะมารายงานสถานการณ์การฝึกฝนให้เธอทราบ ผลคือเธอฝึกฝน
บทเรียนยามเช้าจนเสร็จก็ยังไม่เห็นเงาของเจ้าเด็กคนนั้น
เมื่อออกมาจากคฤหาสน์กลับ เห็นเขาวนไปวนมาอย่างร้อนใจอยู่นอกประตูใหญ่ ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นคือกู่ฉานโม่ก็รออยู่ที่นอก
ประตูด้วย…
พอเธอออกมาสองคนนี้ล้วนกรูกันเข้ามา
กู่ฉานโม่ถามเข้าประเด็นทันที “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่หรือไม่?”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว มองกู่ฉานโม่ กู่ฉานโม่ดูสิ้นท่าเล็กน้อย ใบหน้าซีดเซียวยิ่งนัก แต่อาภรณ์เป็นระเบียบเรียบร้อย เอวก็เหยียดตรงนัก
ไม่เหมือนคนที่เพิ่งรับโทษเสร็จเลยสักนิด
เมื่อคืนกู่ฉานโม่รับโทษแล้ว ก็คือโทษทัณฑ์เหล่านั้นที่รับปากไว้เมื่อคราวก่อน
บทลงโทษแรกก็คือบทลงโทษที่เคย ใช้กับเจ้าหอยยักษ์ก่อนหน้านี้
อาทิเช่นอดข้าว ใช้เข็มทิ่ม ใช้เตานาบ…
บทลงโทษเหล่านี้ เจ้าหอยยักษ์กำกับลงโทษด้วยตัวเอง ทำให้ศิษย์ของหน่วยลงทัณฑ์ที่เป็นผู้ลงทัณฑ์ไม่กล้าผ่อนปรนแม้แต่น้อย
เจ้าหอยยักษ์ เพิ่งกลับมาเช้านี้ ยามที่กลับมาค่อนข้างหน้าม่อยคอตกอยู่บ้าง กล่าวว่ายามที่มันรับโทษมันเจ็บจนร้องไห้โหยหวนชัดๆ แต่ยามที่กู่ฉานโม่ผู้นี้รับโทษ กลับเสมือนขอนไม้ท่อนหนึ่ง ไม่ร้องสักแอะ ทำให้เจ้าหอยยักษ์ รู้สึกไม่สาแก่ใจเป็นอันมาก เจ้าหอยยักษ์กล่าวว่ามันกำกับลงโทษจนเหนื่อย ดังนั้นหลังจากกลับมาถึงมันก็หลับใหลไป
แม้แต่ผู้ที่กำกับลงโทษอย่างเจ้าหอยยักษ์ยังเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้แต่กู่ฉานโม่ที่โดนลงโทษผู้นี้กลับดูเหมือนยังดีๆ อยู่ กู้ซีจิ่วรู้สึกว่า
อาจารย์ใหญ่ผู้นี้ช่างมากความสามารถเหลือเกิน
กู้ซีจิ่วค่อนข้างเลื่อมใสผู้ที่มีกระดูกเหล็กเช่นนี้มาตลอด ดังนั้นเธอจึงไม่แสดงสีหน้าให้เขาเห็น ตอบไปตามตรงว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่อยู่ ส่วนจะกลับมายามไหนรวมถึงกลับมาหรือไม่เธอไม่ทราบทั้งนั้น…
เห็นได้ชัด ว่ากู่ฉานโม่ไม่คุ้นชินกับอาการผีเข้าผีออกของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ การมาของเขาคราวนี้ก็ไม่ได้มีเรื่องสำคัญอื่นใด แค่มาคารวะทักทายเท่านั้น
ยามนี้ในเมื่อท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่อยู่ เขาย่อมไม่มีอะไร นอกเหนือไปจากนี้ขณะที่กำลังจะจากไปก็นึกอะไรขึ้นมาได้ หยิบ
แผ่นป้ายสีดำออกมาจากอกเสื้อมอบให้กู้ซีจิ่ว บอกเธอว่านี้คือหลักฐานยืนยันการเป็นศิษย์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ ใช้สิ่งนี้ไปเบิกข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจาวันที่ฝ่ายธุรการได้ และใช้รับอาหารที่โรงอาหารได้
แน่นอน ฐานะของเธอในยามนี้คือศิษย์สังเกตการณ์ อาหารทั้งหมดที่ได้รับจะเป็นเช่นเดียวกับศิษย์ในชั้นเรียนเมฆาคล้อย
ข้าวของในชีวิตประจาวันอยู่ที่นี่กู้ซีจิ่วมีครบแล้ว แต่เธอยังต้องการอาหารอีกมาก เธอสามารถใช้สิ่งนี้เป็นบัตรทานอาหารได้
เธอรับมาแล้วกล่าวขอบคุณด้วยความจริงใจ จากนั้นก็ไถ่ถามอย่างจริงใจว่าอาจารย์ใหญ่ต้องไปรับโทษจำคุกเมื่อไหร่?
สีหน้าอาจารย์ ใหญ่กู่ดำคล้ำ ตอบเธอประโยคหนึ่ง “วันนี้! นี่คือสาเหตุที่อาจารย์ใหญ่เช่นข้ามาขอตัวลาท่านเทพศักดิ์สิทธิ์วันนี้”
หลังจากเขาถูกจำคุกก็ไม่สามารถมาคารวะทักทายท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว…
กู้ซีจิ่วยิ้มนิดๆ “เมื่อท่านเทพศักดิ์สิทธิ์กลับมา ซีจิ่วจะรายงานเรื่องนี้แก่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เจ้าค่ะ อาจารย์กู่โปรดรับโทษอย่างวางใจเถิด”
กู่ฉานโม่มองรอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กสาว จู่ๆ ก็รู้สึกว่าแม่นางน้อยคนนี้มใช่คนที่จะยุแหย่ได้ง่ายๆ โดยแท้…
เขาหันหลังจากไป เงาหลังนั้นโศกสลดและเซื่องซึมยิ่งนัก
พอเขาจากไปแล้ว เชียนหลิงอวี่ก็ขำกลิ้งทันที นี่เป็นครั้งแรกที่ เขาเห็นอาจารย์ใหญ่กู่ที่เคร่งขรึมน่าเกรงขามเหลือคณามาตลอดต้องอัดอั้นตันใจเช่นนี้รู้สึกปลอดโปร่งยิ่งนักขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
แน่นอน เขาค่อนข้างปวดใจเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
อย่างไรเสียเมื่อก่อนอาจารย์ใหญ่กู่ผู้นี้ก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างดี ตอนที่เขาเพิ่งถูกธาตุไฟเข้าแทรก อาจารย์ใหญ่กู่ผู้นี้คอยเฝ้าเขาอยู่
สามวันสามคืน ร่ำลือกันว่าไม่เคยจากไปเลยแม้แต่ครู่เดียว
ต่อมายังเชิญหมอมารักษาเขาด้วย ใส่ใจยิ่งกว่าบิดาแท้ๆ ของเขาเสียอีก…
จวบจนเขาเริ่มเหยียดหยามไร้สัมมาคารวะต่อผู้อื่น หาเรื่องต่อยตี หลังจากกลายเป็นศิษย์มีปัญหา อาจารย์ใหญ่กู่ผู้นี้เกลี้ยกล่อมอย่างไรเขาก็ไม่ฟัง ด้วยเหตุนี้จึงลงโทษเขาอยู่หลายครั้ง ภายหลังหมดหนทางกับเขาแล้ว จึงยอมแพ้จากเขาอย่างสมบูรณ์…