Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 707

บทที่ 707 หมอชายแผนกนรีเวช…

“ก่อนหน้านี้เจ้าต้องการให้หลงซือเย่จัดการบาดแผลภายนอกให้เจ้า มิต้องถอดเสื้อผ้าก็ได้หรือไง?” ตี้ฝูอีถามกลับ

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก

“กู้ซีจิ่ว ยามนี้เจ้าเก็บความคิดสับสนอลหม่านในสมองเจ้าไปก่อน ให้ความร่วมมือในการรักษากับข้า!” ตี้ฝูอียื่นมือไป บนดวงตากู้ซีจิ่วมีแพรดำเพิ่มขึ้นมาเส้นหนึ่ง บดบังการมองเห็นของเธออย่างสมบูรณ์ “ในเมื่อเขินอาย เช่นนั้นก็ไม่ต้องมองแล้ว”

กู้ซีจิ่วสีหน้าอึมครึม! นี่มันต่างกับปิดหูขโมยกระดิ่งตรงไหน?

ไม่รู้ว่าแพรดำของเขาทำมาจากวัสดุชนิดใด หลังจากผูกตาเธอไว้ เธอก็มองไม่เห็นอะไรเลยแม้กระทั่งแสงสว่างสักเสี้ยวก็มองไม่เห็น

สายตาคนมองไม่เห็น ทว่าประสาทสัมผัสยังคงเฉียบคมนัก ขอบคุณฟ้าดิน มือของเขามิได้สัมผัสถูกส่วนที่น่าอายของเธอแล้ว แต่แตะลงบนด้ามกระบี่เล่มนั้นช้าๆ จากนั้นก็ค่อยๆ กุมไว้ นี่ทำให้เธอเจ็บปวดจนสั่นสะท้านขึ้นมาอีกหน “ท่าน…ระงับความเจ็บปวดให้ข้าก่อนได้หรือไม่?”

“ไม่ได้!” ตี้ฝูอีตอบอย่างเย็นชา

“เพราะอะไร?” กู้ซีจิ่วไม่เข้าใจ

“ทำให้เจ้าหลาบจำไปอีกนาน!” นํ้าเสียงตี้ฝูอีเยียบเย็นกว่าเดิม

กระบี่นี้เดิมทีนางไม่จำเป็นต้องรับเลย แต่กลับจงใจพุ่งไปรับไว้!

ชัยชนะสำคัญถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?

สำคัญจนนางต้องเอาชีวิตเข้าแลกเลยหรือ?

นางนึกว่าตัวเองทำมาจากเหล็กจริงๆ หรืออย่างไร?

เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่านางสามารถเอาชนะในรอบที่สามได้!

“เจ้าโชคดีที่ป้องกัน วใจไว้ได้ ไม่ต้องรวบรวมพลังวิญญาณใดๆ ผ่อนคลายไว้ ผ่อนคลาย…” นํ้าเสียงมืดมนของตี้ฝูอีดังอยู่ข้างหู เสียงนั้นสงบยิ่ง แฝงอานุภาพที่ทำให้คนสงบใจได้ ชะล้างความเฉยชาก่อนหน้านี้ไป

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว ยังไม่หลงลืมเจตนารมณ์ตน “ตี้ฝูอี ข้าบอกแล้วไงว่าไม่ยอมรับเงื่อนไขของท่าน!”

“อืม แล้วอย่างไรเล่า? หลงซือเย่ยอมรับก็พอแล้ว กู้ซีจิ่ว ชีวิตเจ้าไม่อาจกลับชาติมาเกิดใหม่ได้อีกครั้ง หากครั้งนี้ถูกทำลายไป เจ้าจะกลายเป็นสวะไร้ค่าจริงๆ แล้ว! อย่าได้ถือทิฐิอีก ว่าง่ายๆ ให้ความร่วมมือกับข้า เชื่อฟังข้าซะ”

กู้ซีจิ่วไม่พูดอะไรอีก เอาเถิด! ถึงอย่างไรวาจาไม่น่าฟังก็กล่าวออกมาต่อหน้าแล้ว! เขาจะช่วยเช่นนั้นก็เรื่องของเขา…

เธอสูดลมหายใจเข้านิดๆ ไม่ต่อปากต่อคำกับเขาอีก เริ่มให้ความร่วมมือตามที่เขาชี้นำ…

นํ้าเสียงเขารื่นหูดั่งธารใสไหลริน แว่วอยู่ริมหูเธอเป็นครั้งคราว ชี้แนะอยู่ทุกขั้นตอน เธอพยายามข่มกลั้นความอับอายที่ตนต้องเปลือยกายอยู่ใต้

ฝ่ามือเขา ถึงแม้บนดวงตาจะมีแพรดำผูกไว้ แต่เธอก็ยังคงหลับตาลงตามสัญชาตญาณ ให้ความร่วมมือตามที่เขาบอกอย่างเต็มที่ทุกขั้นตอน

ขั้นตอนเหล่านั้นซับซ้อนมาก และขอเพียงเธอใจลอยไปแม้แต่น้อยเขาก็สามารถสัมผัสได้ ส่งเสียงเตือนสติทันที

ค่อยๆ ผ่านไปทีละขั้น เธอรู้สึกว่าความแสบร้อนในส่วนที่ได้รับบาดเจ็บตรงทรวงอกค่อยๆ แผ่ออกมาทีละชุ่นๆ รู้สึกว่ากระบี่เล่มนั้นคล้ายว่าเริ่มหดเล็กลงนิดหน่อยแล้ว

ดวงตาเธอมองไม่เห็น จึงไม่ทราบว่าตี้ฝูอียกมือผนึกจิตสำนึกของหยกนภาไว้ก่อนแล้ว ไม่ทราบว่ามือของเขาที่กุมกระบี่ไว้ปรากฏแสงสีรุ้งเจิดจ้าพร่าตา ไม่ทราบว่าเขากุมกระบี่ไว้จนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปน ไม่ทราบว่าระยะเวลาชั่วครู่หยาดเหงื่อผุดซึมออกมาจากขมับเขาไม่ขาดสาย ไม่ทราบว่าใบหน้าเบื้องหลังหน้ากากของเขาซีดขาวปานหิมะ ไม่ทราบว่าระหว่างที่โคจรพลังยุทธ์อยู่ เขาฝืนกลํ้ากลืนโลหิตที่พุ่งขึ้นมาในลำคอลงไปมากน้อยเพียงใด และไม่ทราบว่าส่วนของกระบี่เล่มนั้นที่เสียบอยู่ในร่างเธอ ค่อยๆ สลายหายไปภายใต้ฝ่ามือเขาทีละชุ่นๆ ราวกับถูกบังคับให้

ระเหยเป็นไอ และไม่ทำให้ร่างกายเธอบาดเจ็บเลยสักนิด…

ระยะเวลาที่เขาโคจรพลังยุทธ์นั้นไม่นาน ประมาณครึ่งเค่อเท่านั้น

ในที่สุดเมื่อกู้ซีจิ่วสัมผัสถึงความเจ็บปวดเจียนตายที่ราวกับถูกแมงป่องต่อยไม่ได้แล้ว เธอก็ถูกวางลงบนฟูกเตียง เธอรับรู้ได้ว่ากระบี่ที่เสียบอยู่ตรงอกตนหายไปแล้ว แถมเขายังจัดการบาดแผลตรงหน้าอกให้เธอด้วย…

บาดแผลของเธออยู่ในตำแหน่งที่น่าอาย แต่ในยามที่ต้องช่วยเหลือคนนอกจากต้องเสี่ยงดวงแล้ว เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!