Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 746

บทที่ 746 ได้! ฟังคำเจ้า

กู้ซีจิ่วทำได้เพียงละวางความคิดที่จะสังหารพวกมันให้สาสมไป วิ่งไปข้างกายตี้ฝูอีทันที เขาลืมตาแล้ว ภายใต้แสงจันทร์ นัยน์ตาเขาสุกสกาวดั่งแสงดาว มองเธออย่างแจ่มใสหาใดปาน “ซีจิ่ว เจ้าทิ้งข้าไม่ลงจริงๆ ด้วย!”

กู้ซีจิ่วชะงักฝีเท้า คร้านจะพูดไร้สาระกับเขา และยามนี้ก็ไม่มีเวลามาพูดไร้สาระแล้วด้วย เธอก้มลงโอบประคองเขาขึ้นมา อาศัยจังหวะที่เสือพวกนั้นยังไม่รู้สึกตัวดี พยายามใช้วิชาเคลื่อนย้ายสุดกำลัง เลือนหายไปจากจุดเดิม

….

คืนนี้กู้ซีจิ่วยุ่งนัก เธอเหนื่อยแทบตาย ซํ้ายังบาดเจ็บสาหัสอยู่ ดังนั้นการเคลื่อนย้ายในครั้งแรกที่เธอโอบตี้ฝูอีผู้ตัวหนักอึ้งไว้จึงเคลื่อนย้ายได้ไม่ไกลนัก เป็นระยะทางเพียงสองลี้เท่านั้น ระยะนี้ย่อมมิใช่ระยะห่างที่ปลอดภัย ด้วยเหตุนี้เธอจึงพักหายใจครู่หนึ่งแล้วเคลื่อนย้ายต่อ หนนี้คืบหน้าขึ้นมาหน่อย เคลื่อนย้ายได้สามลี้

การเคลื่อยย้ายติดต่อกันสองครั้งทำให้เธอตาลายจนเห็นดาว ก้มมองเขาที่ถูกลากอยู่ อดไม่ได้ที่จะออกความเห็น “ตี้ฝูอี ข้าว่าท่านควรลดนํ้าหนักได้แล้ว!”

อันที่จริงเรือนร่างของตี้ฝูอีสมส่วนอย่างยิ่ง ชนิดที่ว่าเพิ่มหนึ่งส่วนก็ท้วมไป ลดหนึ่งส่วนก็ผอมไป หากเป็นคนอื่นปรามาสว่าเขาอ้วน คาดว่าเขาคงซัดคนผู้นั้้นออกนอกจักรวาลไปแล้ว แต่ยามนี้เป็นกู้ซีจิ่วที่ปรามาส เขากลับรู้สึกหวานชื่น ยิ้มน้อยๆ กล่าวด้วยนํ้าเสียงนุ่มนวล “ได้! ฟังคำเจ้า”

กู้ซีจิ่วตะลึง ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่ปากร้ายมาตลอดเปลี่ยนเป็นว่าง่ายเช่นนี้ ทำให้กู้ซีจิ่วไม่ชินยิ่งนัก เธอมองไปด้านหน้า ยังต้องเคลื่อนย้ายอีกสามครั้งถึงจะส่งตี้ฝูอีกลับเรือนได้…

เสียงคำรามของพยัคฆ์แว่วมา เป็นอันชัดเจนว่าเสือพวกนั้นฟื้นคืนสติแล้ว น่าจะไล่ตามมาได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ กู้ซีจิ่วจึงใช้วิชาเคลื่อนย้ายอีกครั้ง

ด้วยการเคลื่อนย้ายต่อเนื่องกันสามครั้งเช่นนี้ กู้ซีจิ่วถึงพาตี้ฝูอีเข้ามาในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ได้ มองเห็นประตูใหญ่ของคฤหาสน์หลังนั้นอยู่ไกลๆ…

มารดาเถิด ในที่สุดก็กลับมาได้แล้ว!

กู้ซีจิ่วถอนหายใจยาวๆ ด้วยความโล่งอก หนนี้กู้ซีจิ่วสิ้นเรี่ยวแรงแล้วจริงๆ ยามนี้จิตใจผ่อนคลาย เบื้องหน้าพลันมืดมัวล้มลงไปเสียงดังตึง วินาทีที่ล้มลงไปหน้าผากของเธอบังเอิญโขกลงบนหน้าผากตี้ฝูอีพอดี ชนเข้ากับแถบแพรนัยน์ตาจิ้งจอกบนหน้าผากเขา…

เบื้องหน้าเธอพร่าเลือนเห็นดาววิบวับ จากนั้นก็ไม่ทราบอะไรอีกเลย

….

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด เมื่อกู้ซีจิ่วฟื้นจากการสลบ จมูกก็ได้กลิ่นหอมอ่อนจางสายหนึ่งเป็นอันดับแรก ทว่ากลิ่นหอมนั้นคุ้นเคยยิ่งนัก เป็นเอกลักษณ์ของตี้ฝูอี!

การลืมตาช่างกินแรงเธอเหลือเกิน สิ่งที่ปรากฏในครรลองสายตาคือ ม่านระย้าสีเงิน…

สมองเธอค่อนข้างทึ่มทื่อไปชั่วขณะ ค่อยๆ กะพริบตา รับรู้ได้ช้าๆ ว่าม่านเตียงนี้มิใช่ม่านเตียงที่เธอนอนเป็นประจำ เตียงของเธอไม่มีของหรูหราเลอค่าเช่นนี้…

ด้วยเหตุนี้เธอจึงกะพริบตาอีกครั้ง ตั้งสติ หันมองรอบข้าง

นอกเหนือจากม่านเตียงที่โปร่งแสงแล้ว เธอเห็นว่าห้องนี้จัดแต่งอย่างดงามและมีรสนิยมยิ่งนัก ฉากกั้นลม เครื่องเรือน แจกัน ดอกไม้ กระถางกำยาน…

ข้าวของทุกชิ้น ล้วนบ่งบอกถึงรสนิยมและความพิเศษของผู้เป็นเจ้าของ

กู้ซีจิ่วยกมือขึ้นเคาะจุดไท่หยาง[1]ตามสัญชาตญาณ ผู้ที่สามารถจัดแต่งห้องให้ประณีตงดงามถึงเพียงนี้ได้ยามนี้ย่อมมิใช่ใครอื่น

ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี!

ที่นี่คล้ายจะเป็นห้องนอนของตี้ฝูอี!

ฉากก่อนที่จะสลบไปแวบขึ้นมาในสมอง เธอก็ทราบแจ่มแจ้งแล้ว เธอพาตี้ฝูอีกลับมาได้ แล้วสลบไปที่หน้าเรือน ในที่สุดก็ทำให้มู่เฟิงตกอกตกใจ ช่วยเหลือทั้งสองกลับมา…

ไม่ถูกสิ!

ช้าก่อน!

หากว่าทั้งสองคนล้วนถูกช่วยกลับมา เช่นนั้นตามหลักแล้วควรจะจัดให้เธอไปอยู่ที่ ห้องพักแขกสิ มิใช่ในห้องนอนของตี้ฝูอี!

เธอนอนอยู่ที่นี่ เช่นนั้นตี้ฝูอีไปนอนที่ไหน?

——————————————————————

[1] จุดไท่หยาง เป็นจุดที่อยู่ตรงขมับบริเวณหางคิ้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!