Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 776

บทที่ 776 ฉากนี้อบอุ่นเหลือเกิน

ทุกวินาทีช่างแสนทรมานนัก นางกลั้นจนเวียนหัวตาลาย หูอื้อ สมองเบลอ…

วินาทีสุดท้ายนางกลั้นไว้ไม่ไหวอีกต่อไป สูดหายใจอย่างอดไว้ไม่ได้ จากนั้นก็สำลักนํ้า…

ไม่ง่ายเลยกว่าร่างกายจะได้อิสระคืนมา ยามที่นางตะเกียกตะกายว่ายขึ้นมา นางสำลักจนทั้งร่างสั่นเทา

การสำลักและไอทำให้ปอดที่ได้รับบาดเจ็บของนางบาดเจ็บหนักขึ้น รอจนยามที่นางปีนขึ้นฝั่งมาได้ อาการคนก็ไม่ดีแล้ว…

….

ยามที่กู้ซีจิ่วตื่นขึ้นมาบนเตียงใหญ่กว้างขวางอ่อนนุ่มหลังนั้น ท้องฟ้าด้านนอกก็เป็นสีดำแล้ว

มู่เฟิงที่อยู่ด้านนอกเคาะประตูเบาๆ “นายท่าน?”

กู้ซีจิ่วบิดเอวอย่างเกียจคร้าน มองร่างกายของตนอย่างปวดใจ เธอยังคงอยู่ในร่างของตี้ฝูอี มิใช่เนื่องจากนอนหลับเพียงตื่นเดียวก็สามารถกลับร่างได้ ตอนนี้เธอยังคงเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้สูงส่ง เธอลองตรวจสอบร่างกายดู ภายในร่างเริ่มมีพลังวิญญาณไหลเวียนเอื่อยๆ แล้ว ดูเหมือนร่างนี้กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟู และความเร็วในการฟื้นฟูก็ไม่นับว่าช้า

ตั้งแต่เธอเข้าอยู่ในร่างนี้ ก็รู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างขี้เซา ตอนเที่ยงหลังจากเข้าร่วมพิธีปักปิ่นเสร็จกลับมาในยามบ่าย เดิมทีคิดจะพลิกดูตำราในมิติเก็บของของตี้ฝูอีเสียหน่อย ดูว่ามีวิชาที่เหมาะใช้สลับร่างคืนหรือไม่ แต่รู้สึกอ่อนล้ายิ่งนัก จึงนอนหลับไปเสียดื้อๆ…

นอนหลับมาจนถึงตอนนี้

“นายท่าน? ตื่นหรือยังขอรับ?” มู่เฟิงที่อยู่ด้านนอกเคาะประตูต่อ

“เข้ามาเถอะ” กู้ซีจิ่วเอ่ย หมุนตัวไปนั่งลงหน้าโต๊ะ

มู่เฟิงมาพบทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเพื่อคุยธุระด้วยเสมอ ดังนั้นพอเขาเข้ามา ก็เข้าประเด็นทันที “นายท่าน พรุ่งนี้ท่านมีสอนในชั้นเรียนเมฆาม่วงห้องหนึ่ง ต้องการให้ข้าน้อยจัดเตรียมสิ่งใดหรือไม่ขอรับ?”

สมองกู้ซีจิ่วส่งเสียงดังหึ่งๆ “มีสอน?”

หนนี้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาด้วยธุระการงานมิใช่หรือ?

มีสอนอะไร?

“นายท่าน ท่านรับปากอาจารย์ใหญ่กู่ไว้ว่าจะอยู่สอนที่นี่สามเดือน สอนวิชาเหินหาวเป็นหลักขอรับ…”

กู้ซีจิ่วนิ่งไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็แจ้งความประสงค์ “เจ้าสามารถเตรียมเนื้อหาการบรรยายให้ข้าได้”

ถึงเธอจะไม่รู้วิชาเหินหาวอะไรนั้น แต่ขอเพียงมีเนื้อหาบรรยายเธอก็สามารถวาดกระบวยตามนํ้าเต้าได้

มู่เฟิงลำบากใจ “นายท่าน วิชานี้นายท่านเพิ่งจะบรรยายเป็นครั้งแรก ข้าน้อยก็ไม่รู้วิชานี้เช่นกันขอรับ”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “…เช่นนั้นเจ้าเตรียมอะไรให้ข้าได้บ้าง?”

มู่เฟิงรีบตอบทันที “ข้าน้อยเทนํ้ารินชาให้นายท่านได้ เรียกเหล่าศิษย์มารวมตัวให้นายท่านได้ ตอนเรียนวิชานี้น่าจะต้องเตรียมอุปกรณ์บางอย่าง ข้า น้อยสามารถจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าได้ขอรับ”

กู้ซีจิ่วนวดคลึงหว่างคิ้ว “ข้าต้องใคร่ครวญดูหน่อย เจ้าออกไปก่อนเถอะ”

มู่เฟิงส่งเสียงตอบรับ ขณะที่กำลังจะหันหลังจากไป กู้ซีจิ่วก็เอ่ยถามอีก “แล้ว…แม่นางกู้อยู่ที่ใด?”

“โอ้ นางน่าจะพักอยู่ในเรือนของตนขอรับ ใช่แล้ว ยามนี้อาการแม่นางกู้ดีขึ้นมาแล้วขอรับ เย็นวันนี้นางออกไปตกปลามาด้วย จนพลบค่ำถึงได้กลับ มา”

กู้ซีจิ่วลุกขึ้นแล้วเดินออกไปด้านนอก “ข้าจะไปเยี่ยมนาง”

….

กู้ซีจิ่วยังไม่ทันก้าวเข้าไปในเรือนเล็กหลังนั้นก็ได้กลิ่นหอมของปลาย่าง

เมื่อผลักประตูเข้าไปแล้วมองแวบหนึ่ง ก็เห็นตี้ฝูอีนั่งขัดสมาธิอยู่บนม้านั่งหินตัวหนึ่ง ด้านหน้าคือกองไฟกองหนึ่ง บนกองไฟย่างปลาไว้ ถัดไปคือเจ้าหอยยักษ์ที่อาสาเฝ้ารออยู่ตรงนั้นอย่างเรียบๆ ร้อยๆ ลู่อู๋น้อยก็นั่งอยู่บนฝาหอย ดวงตาคู่นั้นจับจ้องปลาย่างอยู่เช่นกัน ส่วนเพรียกวายุแกว่งหางเงียบๆ อยู่ด้านข้าง

ฉากนี้อบอุ่นเหลือเกิน กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปาก ทอดถอนใจอยู่ภายในใจ

ฉากอันอบอุ่นนี้เดิมทีควรเป็นของเธอ

เจ้าหอยยักษ์ ลู่อู๋น้อย เพรียกวายุ เดิมทีก็เป็นสัตว์เลี้ยงของเธอ ยามนี้กลับไปห้อมล้อมรอบกายตี้ฝูอี ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกไม่สบอารมณ์นัก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!