Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 781

บทที่ 781 ร่วมห้องกับข้า

“อะไรนะ?” กู้ซีจิ่วได้ยินไม่ชัด

“ข้าบอกว่าถ้าต้องการสลับร่างคืน ต้องให้เจ้าเสียสละสักหน่อย”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “เสียสละอะไร?”

“ร่วมห้องกับข้า” ตี้ฝูอีปาระเบิดออกมาโดยตรง

กู้ซีจิ่วตะลึงงัน “อะไรนะ?”

ตอนนี้เธออยู่ในร่างของเขามีฐานะเป็นบุรุษ ส่วนเขามีฐานะเป็นสตรี ร่วมห้อง…หรือว่าจะให้ตนใช้ร่างนี้เล่นพลิกผ้าห่มกับเขา?

กู้ซีจิ่วตื่นตระหนกแล้ว!

ถึงเธอจะห้าวหาญดุดัน ถึงแม้จะเหมือนเด็กผู้ชายอยู่บ้าง แต่อย่างไรเสียเธอก็เป็นเด็กผู้หญิงมาเนิ่นนานปี ต่อให้ยามนี้เธอจะมีร่างกายเป็นชาย ทว่าเธอก็ไม่ได้มีความรู้สึกแบบผู้ชายจริงๆ เธอเกรงว่าพอถึงเวลาเธอจะ…จะไม่แข็งขึ้นมา…

แถมเธอก็คิดไว้แล้วว่าจะใช้ร่างกายอันผุดผ่องครองคู่โบยบินไปกับหลงซือเย่ ไม่ต้องการจะเสียความบริสุทธิ์ไปเพราะวิธีห่าเหวเช่นนี้

กล่าวอีกนัยคือ ให้ตัวเองขึ้นคล่อมตัวเอง…เกรงว่าเธอจะทำไม่ลงจริงๆ

ใบหน้าเธอเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด ขึงตามองตี้ฝูอี “เจ้าหลอกลวงข้ากระมัง?! ไหนเลยจะมีการใช้วิธีวิปริตเช่นนี้?!”

ตี้ฝูอีจ้องหน้าเธอครู่หนึ่ง อดไม่ได้ที่จะกุมขมับ “ซีจิ่ว ว่ากันตามจริง ข้าไม่คิดเลยจริงๆ ว่าใบหน้านั้นของข้า จะแสดงอารมณ์ได้หลากหลายปานนี้ เจ้าทำให้มันยุ่งเหยิงวุ่นวายมากเกินไปแล้ว”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก

ตี้ฝูอีพูดต่อไป “อีกอย่างก็แค่นอนร่วมห้องกันเท่านั้น วิปริตอย่างไร? ถ้าพวกเราอยากสลับร่างคืน จะต้องรอให้พลังวิญญาณในร่างนั้นของข้าฟื้นฟูกลับมาหนึ่งในสิบ ถ้าอยากให้ฟื้นฟูเร็วขึ้นก็จำเป็นต้องใช้วิธีฝึกฝนพิเศษอย่างหนึ่ง วิธีนั้นซับซ้อนมาก เจ้าฝึกฝนด้วยตัวเองไม่ได้ ทำได้เพียงให้ข้าจับตามองอยู่ข้างๆ ตลอด คอยชี้แนะเจ้าอยู่ตลอดเวลาถึงจะใช้ได้…”

ที่แท้การร่วมห้องที่เขาบอกมีความหมายเช่นนี้นี่เอง กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก ทำไมเขาไม่บอกให้เร็วกว่านี้!

ทำให้เธอเข้าใจผิดไป…

ตี้ฝูอีคล้ายจะนึกอะไรได้ ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา “คำว่าร่วมห้องนี้ที่โลกนั้นของเจ้ามีความหมายอื่นด้วยใช่หรือไม่?”

กู้ซีจิ่วตอบทันที “ไม่มี!”

ตี้ฝูอีจ้องเธออยู่ครู่หนึ่ง จ้องจนกู้ซีจิ่วแทบขนลุก จึงขึงตามองเขาอย่างขุ่นเคือง “มองอะไร? หน้านี้เป็นหน้าของท่านเอง ยังมองไม่พออีกหรือ?”

ตี้ฝูอีนั่งลงอีกครั้ง “ยืนมองจากมุมนี้ยังไม่นานมากเท่าไหร่”

จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพอใจ “ข้าช่างหล่อเหลาเหลือเกิน ไม่ว่าจะมองอย่างไรล้วนดูดียิ่งนัก”

กู้ซีจิ่วเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็มอบคำวิจารณ์ให้เขา “ตี้ฝูอี ข้ารู้สึกว่าไม่ว่าจะมองอย่างไรหนังหน้าท่านก็หนายิ่งนัก”

ตี้ฝูอีหัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง “ซีจิ่ว ยังคงเป็นเจ้าที่รู้จักข้าดี…”

ปลาในมือเขาย่างสุกแล้ว ยื่นไปใหกู้ซี้จิ่วอย่างคึกคักสนใจ “มาเถอะ ชิมฝีมือข้าดู”

ว่ากันตามจริง ปลาที่เขาย่างอร่อยไม่เท่าปลาที่กู้ซีจิ่วย่างจริงๆ แถมกู้ซีจิ่วก็ไม่เคยเกรงใจเขาอยู่แล้ว ชิมไปคำหนึ่งก็ส่ายหน้า “ไม่อร่อย! มิน่าเล่าเจ้าหอยยักษ์ถึงรังเกียจ”

ซํ้ายังกล่าวโจมตีเขาอีกครั้ง “ข้าว่าปลาตัวนี้ขนาดสุนัขยังไม่แลเลย”

ตี้ฝูอีได้รับความสะเทือนใจ…

เขาก็ท้อแท้เช่นกัน เขาย่างปลาตามขั้นตอนของกู้ซีจิ่วแล้วชัดๆ เหตุใดถึงไม่ได้ผลล่ะ?

“สาเหตุมาจากปลาตัวนี้หรือเปล่า? บางทีปลาตัวนี้อาจจะรสชาติไม่ดีแต่แรกอยู่แล้ว” ตี้ฝูอีเริ่มวิเคราะห์หาสาเหตุ

กู้ซีจิ่วปรายตามองเขาแวบหนึ่ง หยิบปลาออกมาจากข้องโดยไม่พูดพรํ่าทำเพลงอะไร เธอจะย่างปลาให้เขาเห็นหลายๆ ตัว การกระทำสำคัญกว่า

คำพูด!

เฮอะ!

การกระทำสำคัญกว่าคำพูดจริงๆ กู้ซีจิ่วย่างปลาออกมาหลายตัว ให้เขาชิมดู ตี้ฝูอีจึงไม่พูดอะไรอีก

ทั้งสองคนเฝ้ากองไฟกินปลาย่างไปหลายตัว ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็นึกถึงใครอีกคนขึ้นมาได้ “ใช่แล้วจิ้งจอกน้อยล่ะ?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!