Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 792

บทที่ 792 ดูราวกับเหรินเยา

กู้ซีจิ่วรั้งเขาไว้ “ท่านจะไปไหน?”

“ไปบอกความจริงกับเขา”

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว ไม่คิดจะปล่อยมือ “ช่างเถอะ!”

นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถอนหายใจอีกครา “ช่างเถอะ! มากเรื่องมิสู้น้อยเรื่อง ภายหน้าข้าค่อยไปบอกเขาด้วยตัวเองก็ได้”

ตี้ฝูอีหลุบตามองนางที่รั้งมือตนไว้ นัยน์ตาฉายแววปีติแวบหนึ่ง เขายิ้มน้อยๆ ปล่อยให้นางจับไว้อย่างว่าง่าย สุ้มเสียงอ่อนโยน “ซีจิ่ว ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงข้า”

กู้ซีจิ่วใจเต้นแรงแวบหนึ่ง เธอปล่อยมือ ลุกขึ้นมาแล้วกล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจ “ท่านคิดมากไปแล้ว ข้าแค่คิดว่าถึงอย่างไรท่านก็ได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยเหลือข้า เลยจะตอบแทนนํ้าใจท่านเท่านั้น”

พลางหันหลังสาวเท้าออกไป เธอต้องออกไปสูดอากาศก่อนเพื่อให้สมองแจ่มใส

เธอเดินเข้าเดินออกวนเวียนอยู่ภายในลานบ้านหลายรอบ

พบว่ารูปแบบของเรือนหลังนี้ที่ตี้ฝูอีสร้างเล็กกะทัดรัดนัก สามก้าวทิวทัศน์ก็เปลี่ยนแปลง ห้าก้าวสีสันแปรเปลี่ยน

เมื่อก่อนท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็เคยสร้างไว้ที่นี่หลังหนึ่งเหมือนกัน สวนขวัญแห่งนั้นแตกต่างกับหลังนี้อย่างชัดเจน เพียงแต่ล้วนสูงส่งยิ่งนักเช่นกัน

ดูเหมือนว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายและท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะเป็นเช่นเดียวกัน ไปที่ใดล้วนชอบใช้เพียงข้าวของของเขาเอง แม้แต่ที่พักก็ไม่เว้น ล้วนสร้างเรือนเดี่ยวขึ้นชั่วคราว เพียงแต่เรือนเดี่ยวหลังนี้จะตระหง่านอยู่ที่นี่ได้นานสักแค่ไหน?

บางทีอีกครึ่งปีให้หลังเมื่อเขาจากไป เรือนน้อยหลังนี้คงถูกทุบทิ้ง ที่นี่ก็กลายเป็นซากปรักหักพังเช่นเคย…

มองเห็นเรือนก่อร่างขึ้นมา มองเห็นเรือนกลับพังทลาย

ทุกอย่างที่นี่ก็เหมือนภาพมายาหลอนลวง บางทีเมื่อแสงอรุณสาดส่องมา ภาพมายาทั้งหมดล้วนมลายหายไป…

เมื่อก่อนยามอาศัยอยู่ในเรือนเดี่ยวหลังนั้น เธอยังโยกย้ายดอกไม้พืชพรรณในหุบเขามาอย่างกระตือรือร้นสนใจอยู่เลย คิดจะสร้างสวนดอกไม้ของตนสักแห่ง ยามนั้นถึงขั้นที่ว่าพบเห็นโขดหินแปลกๆ ในหุบเขาเธอก็ปรารถนาจะขนกลับมาตกแต่งในสวนด้วย

เพียงแต่เธอยังไม่ทันได้เคลื่อนย้ายมาใช้งาน คฤหาสน์หลังนั้นก็ถูกท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ส่งคนมารื้อถอนเสียก่อน เขาทำลายอย่างไม่เสียดาย ทว่าเธอกลับต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่หลายวัน ถึงจะทำให้ตนไม่หวนคำนึงถึงเรือนหลังนั้น

ตอนนี้เธออาศัยในเรือนที่วิจิตรงดงามหลังหนึ่งอีกครั้ง ทว่าไม่สนใจจะจัดแต่งทิวทัศน์เพราะปลูกพืชพรรณเหมือนเมื่อก่อนแล้ว…

อีกอย่างใครจะรู้ได้เล่าว่าเรือนหลังนี้จะคงอยู่ได้อีกนานแค่ไหน?

กี่วัน?

กี่สัปดาห์?

กี่เดือน?

บางทีเมื่อเธอมีกำลังมากพอ ยามที่สามารถก่อบ้านสร้างเรือนได้ไม่ว่าในยามไหน เธอค่อยออกแบบให้ดีอีกครั้งก็ยังไม่สาย

สำหรับข้าวของที่ไม่ใช่ของตน เธอไม่จำเป็นต้องเสียเวลาด้วยเลย!

“เรือนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

มีเสียงแว่วขึ้นด้านหลัง

กู้ซีจิ่วหันไป มองเห็นตี้ฝูอียืนอยู่ไม่ไกลจากด้านหลังตน กำลังพิงราวกั้นแผงหนึ่งอย่างเกียจคร้านพลางมองเธอยิ้มๆ

ยามที่เจ้าคนผู้นี้อยู่ด้านนอก เมื่อรับบทเป็นกู้ซีจิ่วทุกอากัปกริยาล้วนเหมือนเธอทุกประการ นอกจากการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเฉยเมยแล้ว อย่างอื่นล้วนมองไม่ออกเลยว่าเขาเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม

แต่พอกลับมาอยู่ในเรือนหลังนี้ เขาก็เปิดเผยนิสัยดั้งเดิมของเขาออกมาอย่างสบายอกสบายใจ ทุกกิริยาท่าทีล้วนเป็นนิสัยของตี้ฝูอี บางครั้งทำให้คนที่เห็นรู้สึกว่าเขาน่าหมั่นไส้ยิ่งนัก…

“เหตุใดถึงมองข้าเช่นนี้เล่า? ร่างนี้เป็นของเจ้านะ หรือเจ้าหลงเสน่ห์ตัวเองเข้าแล้ว?” ตี้ฝูอีก้าวเข้ามาทันที ซํ้ายังหมุนตัวอยู่ตรงจุดเดิมรอบหนึ่ง “ข้า สวมมันแล้วพิเศษกว่าผู้อื่นมากใช่หรือไม่?”

ถูกเขาหยอกเย้า มาเนิ่นนาน กู้ซีจิ่วเลยด้านชาไม่น้อยแล้ว “พิเศษกว่าผู้อื่นจริงๆ ดูราวกับเหรินเยา(กะเทย)!”

ตี้ฝูอีแย้มยิ้ม “เด็กน้อย ท่าทางที่เจ้าจีบปากจีบคอพูดในร่างของข้าสิถึงจะเหมือนเหรินเยาจริงๆ”

เขาเดินมาหยุดข้างกายกู้ซีจิ่ว จับจูงมือเธอ “ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าเดินเล่นรอบๆ ที่นี่ สวนขวัญแห่งนี้ข้าออกแบบด้วยตัวเองงดงามหรือไม่?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version