Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 821

บทที่ 821 เป็นตั่งให้นางเป็นเตียงให้นาง

ด้านนอกสายลมพัดใบไม้จนเกิดเสียงดังซู่ๆ ค่อนข้างหนาวเย็นอยู่บ้าง แต่ภายในศาลากลับอบอุ่นปานฤดูใบไม้ผลิ เขาและนางหนึ่งนั่ง หนึ่งนอน คนหนึ่งหลับสนิทลํ้าลึก คนหนึ่งเฝ้าอยู่ด้านข้างอย่างอบอุ่น

อย่างไรเสียตั่งคนงามนี้ก็ค่อนข้างแข็ง หลังจากนางนอนไปสักพักคงจะรู้สึกเมื่อยขบอยู่บ้าง คิ้วของนางขมวดนิดๆ พลิกตัวทีหนึ่ง

ตี้ฝูอีมองตั่งคนงามตัวนั้นแล้วมองนางอีกที คิดเล็กน้อย อุ้มนางขึ้นมาเบาๆ โอบนางไว้ในอ้อมแขน…

ร่างเขาย่อมสบายกว่าตั่งคนงามมาก ทั้งนิ่มทั้งอุ่น นางพลิกตัวนิดๆ สองแขนกอดเอวเขาตามสัญชาตญาณ แบบนี้ก็สบายกว่าเดิมแล้ว

ตี้ฝูอีแข็งทื่อไปแล้ว รู้ดีว่าท่าทางนี้ของนางแค่เป็นไปตามสัญชาตญาณ เขารู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก ในใจคล้ายถูกลูบไล้ด้วยมือน้อยๆ ที่แสนอบอุ่น

นางคงจะเชื่อใจเขากระมัง?

เขาไม่ขยับเขยื้อน นั่งอยู่เช่นนั้น กอดนางไว้ เป็นตั่งให้นาง เป็นเตียงให้นาง…

….

กู้ซีจิ่วหลับสนิททั้งคืน ยามตื่นขึ้นมาก็ติดนิสัยมองไปที่เตียงข้างๆ…

สิ่งที่เธอเห็นมิใช่เตียงใหญ่หลังนั้นของตี้ฝูอี แต่เป็นตั่งคนงาม เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็จำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ จำได้ว่าตนออกจากเรือนพักของเขา ที่นอนอยู่ยามนี้คือศาลากลางนํ้า…

“ตื่นแล้วหรือ?”

เสียงหนึ่งดังมาจากด้านข้าง เธอหันมองตามสัญชาตญาณ เห็นตี้ฝูอีนั่งอยู่หน้าโต๊ะเล็กไม้ชิงชันตัวหนึ่งด้านข้างเธอ กำลังร่างภาพบางอย่างอยู่

กู้ซีจิ่วค่อนข้างมึนงง “ท่านมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

ตี้ฝูอียิ้มแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไร ร่างภาพอยู่ตรงนั้นต่อไป

อันที่จริง ฉากนี้พบเห็นอยู่เป็นประจำในหลายวันที่ผ่านมา หลังจากกู้ซีจิ่วใช้ชีวิตอยู่กับเขามาสิบกว่าวัน ก็ทราบว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ยุ่งมากจริงๆ ทุกวันมีเอกสารมากมายที่เขาต้องสะสาง กู้ซีจิ่วไม่รู้เลยว่าเขาเอาเวลาที่ไหนมาจัดการเอกสารมากมายถึงเพียงนี้ ทุกวันยามเช้าตรู่มู่เฟิงจะหอบเอกสารกองใหญ่เข้ามาส่งให้เสมอ…

หลายวันมานี้ทุกเช้ายามเธอตื่นนอนก็จะเห็นเขา แผ่นหลังเขา นั่งสะสางเอกสารอยู่ตรงนั้นประจำ

แน่นอน ตอนนั้นเขาอยู่ในร่างของเธอ แผ่นหลังที่เธอมองเห็นก็คือแผ่นหลังของเธอเอง…

ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ต่อให้ตอนนั้นเขาใช้ร่างของเธอ ทว่ายามที่นั่งอยู่ตรงนั้นกลับ มอบความรู้สึกมั่นคงน่าพึ่งพายิ่งนักแก่ผู้อื่น

กู้ซีจิ่วส่ายหัว สะบัดความรู้สึกนี้ทิ้งไป เธอลุกขึ้นนั่ง เสื้อคลุมตัวหนึ่งลื่นไถลจากร่างเธอ เธอคว้าเสื้อคลุมตัวนอกที่กำลังจะร่วงไว้ทันที หยิบขึ้นมาดู เป็นของเขา…

ดูเหมือนเขาจะตามมาหลังจากเธอหลับไปแล้ว เกรงว่าเธอจะหนาวเลยเอาเสื้อคลุมตัวนอกมาห่มให้เธอ ยามที่เขาอบอุ่นขึ้นมาช่างอันตรายโดยแท้!

ทำให้หัวใจที่เธอพยามสงบไว้อย่างยากลำบากมีแนวโน้มว่าจะสั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง เธอสูดลมหายใจนิดๆ ข่มความรู้สึกอันน่าพิศวงของตนไว้

กระแอมคราหนึ่งพลางยืดกายขึ้น ยื่นเสื้อคลุมกลับไปให้เขา ยิ้มอย่างผ่อนคลายแวบหนึ่ง “ขอบคุณสำหรับเสื้อคลุมของท่าน ขอบคุณนะ”

ตี้ฝูอีมองนางแวบหนึ่ง ทราบว่านางกำลังพยายามดึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคนกลับไปอยู่ในระดับของสหายทั่วไป ดวงตายฉายแววลํ้าลึกแวบหนึ่ง ยิ้มออกมาเช่นกัน “เจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้าเช่นนี้อยู่เสมอ”

กู้ซีจิ่วทำเป็นฟังความนัยของเขาไม่ออก มองสิ่งที่เขาวาดอยู่บนโต๊ะ นั่นคือค่ายกลอย่างหนึ่ง…

“ติดตั้งไว้ด้านนอกแล้วหรือ?” เธอถาม

ตี้ฝูอีชี้ผังค่ายกลที่อยู่บนโต๊ะ “ซีจิ่ว ผังค่ายกลนี้ข้าทำเสร็จสมบูรณ์ไปบ้างแล้ว เจ้ามาดูสิว่ามีอะไรต้องเพิ่มเติมหรือไม่?”

เมื่อพูดจาเข้าประเด็น กู้ซีจิ่วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เข้าไปดูผังค่ายกลนั้นจริงๆ ฟังเขาอธิบายก่อนก้มหน้าพิจารณาอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง เริ่มเสนอแนะความคิดเห็นของตน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version