บทที่ 83
เจ้าเห็นข้าเปลือยแล้ว…
เนื่องจากเป็นยามราตรี ใต้นํ้าจึงมืดมาก เมื่อกู้ซีจิ่วดำลงไปใต้นํ้าถึงได้เห็นอย่างลางๆ ว่าที่โฉมงามผู้นี้ก็สวมใส่เสื้อผ้าอยู่ มิได้เปลือยกายล่อนจ้อน
เสื้อคลุมตัวนั้นเป็นสีแดงสด มองเห็นได้ชัดเจนแม้จะอยู่ในนํ้า
เพียงแต่เสื้อคลุมตัวนั้นหลวมโพรก เมื่ออยู่บนกายจึง เปิดอ้าออกแล้วไปคล้องอยู่ตรงข้อแขน เผยให้เห็นแผ่นหลังกึ่งหนึ่ง ยามมองจากด้านบนผิวนํ้าจึงนึกว่านาง เปลือยกายอยู่
ปกติแล้วทักษะการว่ายน้ำของกู้ซีจิ่วนั้นไม่เลว กลั้นหายใจอยู่ใต้นํ้าหลายๆ นาทีได้ไม่มีปัญหา แต่ครั้งนี้ไม่ได้ เธอเพิ่งจะดำลงไปได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็รู้สึกอึดอัดอย่างยิ่ง
อยากจะโผล่ศีรษะขึ้นไปสูดอากาศจนแทบทนไม่ไหว แต่ยามนี้เห็นได้ชัดว่ายังไม่ได้หญิงรับใช้ที่นำเสื้อผ้ามาส่งเพิ่งจะเดินเข้ามา เสียงฝีเท้าแผ่วเบานั้นได้ยินแว่วเข้ามาในหูของกู้ซีจิ่วทว่านางกลับเชื่องช้ามากเสียจนน่าโมโห….
“องค์หญิง นี่คือชุดไหมเงินที่ท่านต้องการ ส่วนนี่คือเสื้อคลุมปักลาย…” เสียงของหญิงรับใช้คนนั้นใสกระจ่างดุจกระดิ่งเงิน เห็นได้ชัดว่าอายุยังน้อย เป็นสาวน้อยน่าเอ็นดูคนหนึ่ง
“วางไว้ แล้วออกไปซะ!” โฉมงามในบ่อนํ้าพุร้อนช่างน่าเกรงขามสมกับเป็นราชนิกูล ทุกวาจามีค่าดั่งทอง หนักแน่นยิ่งนัก
“องค์หญิงต้องการให้บ่าวช่วยบีบนวดผ่อนคลายให้หรือไม่? บ่าวเชี่ยวชาญด้านนี้มาก”
เห็นได้ชัดเจนว่าหญิงรับใช้คนนั้นคิดจะประจบประแจงองค์หญิงผู้นี้ เอาใจใส่ อย่างไม่เข้าท่า
“นามของเจ้าคือ?” ทันใดนั้นองค์หญิงคนงามก็ถามออกมาประโยคหนึ่ง
“บ่าวมีนามว่าซือฮว่า” หญิงรับใช้คนนั้นรู้สึกตื่นเต้น เสียงจึงสั่นเล็กน้อย
“ออกไปหาผู้ดูแลเย่อู่เฟิง หลังจากรับโทษโบยสามสิบไม้ ก็ขายทิ้ง” นํ้าเสียงโฉมงามผู้นั้นไร้อารมณ์ทว่าวาจาที่เอ่ยออกมากลับทำให้หญิงรับใช้ผู้นั้นรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าใส่!
หญิงรับใช้พลันคุกเข่าลงตรงริมบ่อเสียงดังตึง “องค์หญิง โปรดอภัยให้บ่าวด้วย…”
“หกสิบไม้” องค์หญิงคนงามเอ่ยออกมาอีกสามคำ
ใบหน้าของหญิงรับใช้คนนั้นซีดขาว ตัวแข็งค้างอยู่ตรงนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ไม่กล้าพูดอีกแม้แต่ประโยคเดียว โขกศีรษะไปทางบ่อคราหนึ่ง “บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้!”
นางลุกขึ้นยืนแล้วรีบจากไป
พอหญิงรับใช้ผู้นั้นออกไป กู้ซีจิ่วก็โผล่หัวขึ้นมาจากนํ้าทันทีแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ จนเกือบจะสำลักออกมา สูดลมหายใจเข้าออกอยู่หลายครั้ง ถึงได้รู้สึกว่าทรวงอกที่อึดอัดจนแทบจะระเบิดนั้นผ่อนคลายขึ้นมาบ้างนิดหน่อย
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าเรือนร่างบอบบางที่อยู่ภายใต้กริชเคลื่อนไหวเล็กน้อย เธอเลิกคิ้วขึ้น ขยับปลายนิ้วเตรียมจะลงมือ แต่กลับพบว่าองค์หญิงคนงามนั้นเพียงแค่หันกลับมา และไม่ได้เล่นลูกไม้อันใด ดวงตาของนางที่จ้องหน้ากู้ซีจิ่วเขม็งนั้นใสกระจ่างดุจสุรา
กู้ซีจิ่วโดนนางมองเสียจนใจเต้นรัว!
หรือวัตถุแปลงโฉมบนหน้าตนจะหลุดร่วงหมดแล้ว?
ไม่น่าจะใช่! วัตถุแปลงโฉมนี้สามารถกันนํ้าได้! ยามนี้ตนน่าจะยังอยู่ในสภาพหลังแปลงโฉมแล้ว
“ข้าจัดการแบบนี้ เจ้าพอใจหรือยัง?” จู่ๆ องค์หญิงคนงามผู้นั้นก็เอ่ยปากขึ้น
ที่แท้โฉมสะคราญผู้แสนงดงามหยาดเยิ้มมีความดุดันถึงเพียงนี้ เป็นแบบอย่างขององค์หญิงในตำนานโดยแท้
เพียงแค่สาวใช้ข้างกายคิดจะประจบเอาใจนางก็ยังได้รับโทษทัณฑ์ที่รุนแรงถึงเพียงนี้…
นี่คือความน่าเกรงขามของราชวงศ์สินะ?
กู้ซีจิ่วไม่มีเจตนาจะก้าวก่ายเรื่องส่วนขององค์หญิงผู้นี้ เลยแค่พยักหน้า “เรื่องในบ้านท่าน ไม่จำเป็นต้องถามข้าหรอกว่าพอใจหรือไม่ ข้าเองก็มิได้คิดก้าวก่าย”
กู้ซีจิ่วไม่คิดจะโอ้เอ้เสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อ เธอหลุบตาลงคิด จะใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาอีกครั้ง แต่ก็รู้สึกปวดแปลบที่หัวใจขึ้นมาโดยพลัน! ยังไม่สามารถใช้วิชานั้นได้เหมือนเคย
เพียงแต่เมื่อเธอลืมตาขึ้น ก็มองเห็นดวงตาใสกระจ่าง แวววาวขององค์หญิงผู้นั้นกำลังมองเธออยู่ นัยน์ตาฉายแววลุ่มลึก
กู้ซีจิ่วใจเต้นแรงขึ้นมาอีกครา จึงเลิกคิ้วขึ้น “ท่านมองอะไร?”
“เจ้าเห็นข้าเปลือยแล้ว…” องค์หญิงคนงามเอ่ยขึ้นช้าๆ ทุกคนล้วนเป็นสตรีเช่นเดียวกัน ต่อให้เธอเห็นนางเปลือยแล้วมันยังไง?
ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ถือว่าเป็นการเห็นตอนเปลือยด้วยซํ้า เพราะองค์หญิงผู้นี้ก็ยังสวมเสื้อคลุมสีแดงตัวใหญ่เอาไว้! อย่างมากสุดเธอก็เห็นแค่เนินอกและลาดหลังของอีกฝ่ายเท่านั้น…
แต่ก็ไม่นับว่าเป็นเนินอกซะทีเดียวด้านหน้านั้นเธอเห็นมากสุดก็แค่เลยกระดูกไหปลาร้าลงไปหนึ่งชุ่น ไม่เห็นแม้กระทั่งการกระเพื่อมไหวของหน้าอกด้วยซํ้า
เมื่อครู่ตอนอยู่ในนํ้าที่มืดสลัวเธอก็แค่กวาดตามองผ่านๆ อย่างไม่ตั้งใจ ถึงแม้จะมีเสื้อคลุมตัวหลวมบดบังอยู่ แต่เธอยังคงรู้สึกได้ว่าโฉมงามนางนี้น่าจะเป็นสาวจอแบน…
ยังไงซะยุคนี้ก็ยังเป็นยุคโบราณ สาวที่แบนราบดุจพื้นสนามบินจึงมีอยู่ไม่น้อย
อีกทั้งยุคนี้ยังไม่มีการผ่าตัดเสริมหน้าอก ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่องค์หญิงคนงามจะมีจุดต้อยเช่นนี้ กู้ซีจิ่วจึงไม่ข้องใจนัก