Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 842

บทที่ 842 ไม่เคยมีใครเกี้ยวเขาได้

ศิษย์ของชั้นเมฆาม่วงห้องหนึ่งล้วนเป็นเด็กหัวกะทิ สุ่มเลือกมาสักคนก็ล้วนเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ทั้งสิ้น ตามธรรมดาแล้วเหล่าอัจฉริยะล้วนใจกล้า ยิ่ง กล้าคิดกล้าทำ ต่อให้เป็นเด็กผู้หญิงก็ซื่อตรงเปิดเผยมากเช่นกัน

ในบรรดาคนเหล่านี้ดูเหมือนเล่อจื่อซิ่งแฝดสาวผู้น้อยจะโดดเด่นที่สุด สาวน้อยนางนี้ปราดเปรื่องอย่างยิ่ง เมื่อก่อนเป็นรองเพียงอวิ๋นชิงหลัวเท่านั้น

สายตานางยกสูงเหนือศีรษะ[1] มีเด็กหนุ่มเลอเลิศเป็นสหายร่วมชั้น สหายร่วมสำนักอยู่มากมายก่ายกองนางล้วนไม่เหลือบแลทั้งสิ้น ชมชอบเพียงตี้ฝูอีเท่านั้น แต่เมื่อก่อนถูกกั้นขวางไว้ด้วยความรักหวานซึ้งของกู้ซีจิ่วและตี้ฝูอีรวมถึงเห็นแก่หน้าอวิ๋นชิงหลัวด้วย นางจึงเก็บรู้สึกนี้ไว้ในใจ ไม่แสดงออกมา

ต่อมาเมื่อทราบว่าตี้ฝูอีกับกู้ซีจิ่วแค่ร่วมกันเล่นละครฉากหนึ่งเท่านั้น หัวใจนางก็หวั่นไหวขึ้นมา วันต่อมาหลังจากละครปิดฉากลงนางก็มาหากู้ซีจิ่ว ถามอย่างตรงไปตรงมา “ก่อนหน้านี้เจ้ากับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแค่เล่นละครกันจริงๆ หรือ?”

กู้ซีจิ่วยังไม่ทันอ้าปากตอบ หลานไว่หูที่อยู่ข้างๆ ก็ตอบแทนเธอแล้ว “ใช่แล้ว ซีจิ่วชมชอบเจ้าสำนักหลงด้วยใจจริง กับท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแค่เล่นละครเท่านั้น วันนั้นก็พูดชัดแล้วนี่”

เล่อจื่อซิ่งโล่งใจ เอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ซีจิ่ว ข้าต้องการไล่ตามท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย!”

หลานไว่หูตาโต “เจ้าจะไล่ตามท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายหรือ? ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเกี้ยวยากเป็นที่สุด ยังไม่เคยมีใครเกี้ยวเขาได้เลย…”

เล่อจื่อซิ่งเอ่ยยิ้มๆ “ไม่ว่าจะไล่ตามได้หรือไม่ข้าก็จะลองดู ไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไร?”

ด้วยเหตุนี้ นับตั้งแต่นั้นมาเล่อจื่อซิ่งก็เริ่มดำเนินการไล่ตามทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ไม่เคยขาดเรียนคาบของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ตอบคำถามอย่าง

กระตือรือร้น และยามที่ตอบคำถามทุกครั้งก็สามารถอนุมานต่อยอดได้อีกด้วย

เป็นเช่นนี้อยู่สักพัก ตี้ฝูอีก็เรียกให้นางตอบบ่อยๆ นางกลายสตรีที่ถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายถามมากที่สุดในชั้นเรียน

นางสร้างเหตุบังเอิญพบสารพัด ยกตัวอย่างเช่น เดินผ่านหน้าประตูเรือนตี้ฝูอี ตี้ฝูอีชอบเดินหมากอยู่ในป่าเฟิงแห่งหนึ่ง ฝีมือเดินหมากของนางก็ยอดเยี่ยมมาก จึงขอไปเสนอตัวประลองหมากกับตี้ฝูอี

ตี้ฝูอีคงจะเดินหมากคนเดียวจนเบื่อแล้วเช่นกัน ดังนั้นพอนางขอประลองหมากกับเขา เขาจึงไม่ปฏิเสธ

เล่อจื่อซิ่งคงจะเคยศึกษาพิธีชงชามา ทักษะการชงชายอดเยี่ยม ยามที่ประลองหมากนางก็ได้มอบชาถ้วยหนึ่งที่ตนชงแก่เขา

ถึงแม้ตี้ฝูอีผู้นี้จะรักสะอาด ไม่เคยดื่มกินสิ่งของจากผู้อื่นเลย แต่นางก็ยังกระทำอย่างไม่รู้จักหน่าย

ฝีมือเดินหมากของตี้ฝูอีลํ้าเลิศนัก อยู่ข้างนอกยามที่เล่อจื่อซิ่งเดินหมากกับผู้อื่นก็นับว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาถูกสังหารล้างกระดานเป็นประจำ ก็มีสีหน้าหดหู่อับอาย แต่จิตใจของนางนั้นยิ่งแพ้ยิ่งกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้พ่ายแพ้ก็ต้องการประลองหมากกับเขาต่อไป

บางครั้งกู้ซีจิ่วกับหลานไว่หูก็เดินผ่านที่นั่นบ้างเป็นครั้งคราว เห็นตี้ฝูอีกำลังประลองหมากกับเล่อจื่อซิ่ง เล่อจื่อซิ่งเพิ่งจะแพ้ไปตาหนึ่ง ดวงหน้าน้อยๆ แดงกํ่าด้วยความร้อนใจ เหงื่อไหลลงมา หยาดเหงื่อหยดลงบนกระดานหมาก ตี้ฝูอีโยนผ้าเช็ดหน้าไหมสีขาวผืนหนึ่งให้นาง วาจาที่เอ่ยสั้น ห้วนยิ่ง “เช็ดซะ!”

ดังนั้นเล่อจื่อซิ่งจึงรับผ้าเช็ดหน้าไหมสีขาวผืนนั้นมาซับเหงื่อด้วยดวงตาเปล่งประกาย…

น่าจะเป็นเพราะยามที่เดินผ่านหลานไว่หูลงเท้าหนักไปหน่อย สองคนนั้นจึงหันมามองพวกเธอที่อยู่ด้านนี้แวบหนึ่ง ตี้ฝูอีสีหน้าไร้อารมณ์ เล่อจื่อซิ่งก็แค่พยักหน้าให้พวกเธอเท่านั้น

ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ฐานะสูงส่ง ดังนั้นต่อให้เดินผ่าน ในเมื่อพบหน้าเขาแล้ว ก็ควรจะทำความเคารพหรือเอ่ยทักทาย

หลานไว่หูจึงวิ่งเข้าไปคารวะ ส่วนกู้ซีจิ่วก็ประสานมือทำความเคารพตี้ฝูอี

ตี้ฝูอีเพียงพยักหน้าอย่างเฉยชา ไม่ได้มองกู้ซีจิ่วเป็นพิเศษเอ่ยเพียงว่า “ไปเถิด”

ด้วยเหตุนี้กู้ซีจิ่วกับหลานไว่หูเลยจากไป

ด้านหลังมีเสียงสนทนาของตี้ฝูอีกับเล่อจื่อซิ่งแว่วมาเบาๆ สองคนนั้นก็ไม่ได้สนทนาอื่นใด เล่อจื่อซิ่งขอคำชี้แนะเกี่ยวกับปัญหาในหลักสูตรจากเขา ตี้ฝูอีก็ตอบอย่างฉาดฉาน

——————————————————————

[1] สายตายกสูงเหนือศีรษะ อุปมาถึง ใฝ่สูงหรือเย่อหยิ่งจองหอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version