บทที่ 90
พวกเราสองคนมาพูดคุยกันอย่างสันติดีกว่า!
‘ไม่ยอมรับเจ้านายงั้นหรือ?’ กู้ซีจิ่วหมุนมันด้วยปลายนิ้วหลายๆ รอบ ‘ถ้าอย่างนั้นข้าเองก็ไม่ต้องการเจ้าแล้ว…’
แล้วโยนมันลงบนเตียงหยกเหมันต์!
‘อย่านะ!’ เมื่อกำไลหยกนภาร่วงลงบนเตียงหยกเหมันต์ ก็ตัวสั่นงันงกขดเป็นก้อนอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนว่ามันอยากกระโดดขึ้นมาจะแย่แล้ว แต่ร่างกายแข็งทื่อไปหมด มีเกล็ดนํ้าแข็งแผ่ขยายบนอัญมณีหลากสีอย่างรวดเร็ว คล้ายจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเตียงหยกเหมันต์…
กู้ซีจิ่วเองก็ไม่คิดว่าจะมีผลรุนแรงถึงขนาดนี้จึงเลิกคิ้วขึ้น เตรียมจะคว้ามันกลับมา
มีแสงสีฟ้าจางๆ แวบขึ้นมา ทันใดนั้นเองรูปลักษณ์ของกำไลหยกนภาเส้นนั้นก็เปลี่ยนไป กลายเป็นกำไลข้อมือสีฟ้าใสหมุนกลิ้งมา หล่นลงพื้นจนเกิดเสียงดังแกร๊ง
กู้ซีจิ่วหรี่ตามองเล็กน้อยแล้วเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา
‘หยกนภาใช่ไหม? ที่แท้เจ้าก็แปลงกายได้! มาเถอะ พวกเราสองคนมาพูดคุยกันอย่างสันติดีกว่า!’
จู่ๆ หยกนภาก็รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมา! มีลางสังหรณ์ไม่ดีเลย
หลังผ่านไปหนึ่งเค่อ
เมื่อผ่านการแลกเปลี่ยนกันอย่างลึกซึ้ง หยกนภาตกอยู่ในสภาพที่ถูกผู้อื่นกุมจุดอ่อนไว้จึงทำได้เพียงยอมรับเงื่อนไขอันน่าอดสูหลายข้อของกู้ซีจิ่ว
อย่างเช่นเรียกเธอว่าเจ้านาย หรืออย่างเช่นต่อไปจะต้องปรากฏตัวในรูปแบบคล้ายกำไลข้อมือ และกำไลนี้จะต้องเป็นกำไลหยกเขียวชนิดมองแล้วไม่โดดเด่นสะดุดตา
หยกนภาที่บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นกำไลหยกเขียวกำลังนอนนิ่งๆ อยู่ในมือของกู้ซีจิ่ว มันยังคงไม่ยินยอมอยู่เล็กน้อย ‘ข้ารู้สึกว่ารูปลักษณ์แบบนี้ไม่น่ามองเอาเสียเลย ไม่ค่อยเหมาะกับข้าเท่าไหร่…’
กู้ซีจิ่วจึงปลอบมันเล็กน้อย ‘รูปลักษณ์แบบนี้ของเจ้าคือ เรียบหรูดูแพง ติดตามข้าแล้วไม่ต้องโอ้อวดเช่นนกยูงรำแพนหาง แบบนั้นไร้รสนิยมมาก’
สตรีตาไร้แวว!
หยกนภาได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ไม่อาจคัดค้านความคิดของกู้ซีจิ่วได้ เพราะอย่างไรซะมันก็ต้องติดตามเธอ
กู้ซีจิ่วนั้นค่อนข้างพอใจกับรูปลักษณ์ปัจจุบันของมัน ร่างเดิมของเจ้าสิ่งนี้เตะตาเกินไป โอบล้อมด้วยรัศมีแสง หากเธอสวมมันเอาไว้ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็คงกลายเป็นเป้าสายตาของคนจำนวนมาก กลายเป็นตัวล่อเป้ามีชีวิต! ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องการในเวลานี้ก็คือความเรียบง่าย
‘หญิงสาว ตอนนี้เจ้าสวมข้าไว้บนข้อมือได้แล้ว’ หยกนภาใช้นํ้าเสียงราวกับกำลังประทานรางวัลให้
‘เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?’ นํ้าเสียงของกู้ซีจิ่วเย็นยะเยือก
‘เจ้านาย…’ หยดนภาจำใจต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่อย่างไม่เต็มใจนัก
แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย!
กู้ซีจิ่วจึงสวมมันไว้บนข้อมือขาวเนียนละเอียดของตน ข้อมือของเธอเพรียวบาง เมื่อสวมกำไลนี้เข้าไปแล้วเลยหลวมไปบ้าง เพียงกู้ซีจิ่วสะบัดมือเล็กน้อยมันก็แทบจะหลุดออกมา
มันรีบหดตัวให้เล็กลง จนในที่สุดก็มีขนาดพอดีกับข้อมือเธอ คล้องอยู่บนแขนเธออย่างมั่นคง
‘เสี่ยวชาง นอกจากเจ้าจะสื่อสารกับข้าผ่านทางจิตได้ สามารถเปลี่ยนเป็นเครื่องประดับทุกแบบได้ตามใจนึก แล้วยังมีความสามารถอะไรอีกไหม?’ กู้ซีจิ่วอยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับมันให้มากขึ้นอีกหน่อย เพราะอย่างไรเสียเจ้าสิ่งนี้ก็อวดอ้างว่าตัวเองเป็นของวิเศษ
เสี่ยวชางคือชื่อที่กู้ซีจิ่วเพิ่งจะตั้งให้มันเมื่อกี้ แรกเริ่มนั้นหยกนภาคัดค้านอย่างหนัก แต่กู้ซีจิ่วมีตัวเสือกให้มันแค่สองอย่าง
เสี่ยวชาง เสี่ยวฉยง
ความหมายของเสี่ยวฉยงนั้นดีมาก แต่พอเรียกแล้วกลับไม่ได้เรื่องสักเท่าไหร่ เพราะดันออกเสียงคล้ายกับคำว่า ‘ยาจก[1]’ ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง ดังนั้นสุดท้ายแล้วจึงต้องเลือกชื่อเสี่ยวชาง
‘ข้าให้คำแนะนำเจ้าได้โดยไม่คิดเงิน’
กู้ซีจิ่วมองมันเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าไม่สนใจ
กำไลหยกนภานิ่งไปเล็กน้อย ‘ข้าสามารมอบสูตรการหลอมยาให้เจ้าได้ด้วย…’
กู้ซีจิ่วเหลือบมองเล็บมือตน
‘สูตรที่ข้ารู้ก็ไม่น้อยไปกว่าเจ้าหรอกนะ บางทีอาจจะรู้มากกว่าเจ้าด้วยซํ้า!’ หยกนภายังกล่าวถึงประโยชน์ของตัวเองอีกหลายข้อ แต่ไม่ว่าอย่างไรกู้ซีจิ่วก็ไม่สนใจเลยสักนิด แถมยังมีท่าทีเมินเฉยอีกด้วย หยกนภาอับจนปัญญาแล้ว เลยได้แต่เผยไม้ตายออกมา ‘ข้ามอบช่องมิติให้เจ้าได้…’
……………………….
[1] ชื่อหยกนภา ในภาษาจีนออกเสียงว่า ‘ชางฉยง’ (苍穹) คำว่ายาจกในภาษาจีนก็ออกเสียงว่า ‘เสี่ยวฉยง’ (小穷) จึงพ้องเสียงกับชื่อ ‘เสี่ยวฉยง’ (小穹) ที่กู้ซีจิ่วตั้ง