บทที่ 92
เจ้าอยู่ที่นี่…กำลังฝึกวิชาอยู่หรือ
หากองค์หญิงผู้นั้นมีพลังวิญญาณลึกลํ้าจนไม่อาจหยั่งได้แล้ว เหตุใดจึงกลิ้งไปกลิ้งมาตามคำสั่งเธอราวกับกระต่ายขาวตัวน้อยน่าเอ็นดูเล่า?
‘หรือนางก็เป็นสวะไร้พลังวิญญาณเหมือนกัน?’ กู้ซีจิ่วตั้งข้อสันนิษฐานนี้ขึ้น ‘เจ้านาย คนธรรมดาส่วนใหญ่ที่อยู่ในโลกใบนี้ล้วนแต่มีพลังวิญญาณกันทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง อัจฉริยะและสวะไร้ค่านั้นหาได้ยากยิ่งนัก โดย เฉพาะสวะที่ไม่มีพลังวิญญาณใดๆ เลยอย่างเจ้านาย เกรงว่าจะมีอยู่เพียงผู้เดียว…’ กู้ซีจิ่วอับจนวาจา ที่แท้สวะไร้ค่าแบบเธอก็มีการแบ่งระดับด้วยเหรอ!
ดึกมากแล้ว กู้ซีจิ่วไม่อยากมัวโอ้เอ้อยู่ที่นี่อีกต่อไป เธอวางแผนว่าจะเก็บกวาดอีกนิดหน่อยแล้วค่อยกลับบ้าน
แค่เธอใช้วิชาเคลื่อนย้ายอีกครั้ง ก็จะกลับไปถึงห้องนอนของเธอในจวนแม่ทัพได้โดยตรง
“ซีซี เจ้าอยู่ที่นี่…กำลังฝึกวิชาอยู่หรือ?” ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังลอดเข้ามา
เสียงนั้นไม่ดังนัก แต่ในคํ่าคืนที่เงียบสงบเช่นนี้จึงแจ่มชัดอยู่บ้างเช่นกัน นี่ย่อมเป็นเสียงขององค์ชายหรงฉู่ น่าจะอยู่ห่างจากตำหนักเย็นแห่งนี้ไปประมาณสิบกว่าก้าว
“ยากนักที่จะมีพระจันทร์เต็มดวงเช่นคืนนี้ข้าจึงมาที่นี่ เพื่อดูดซับแสงจันทร์เสียหน่อยก็เท่านั้น” นํ้าเสียงของกู่ซีซีสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักถามสวรรค์ยังคงเยือกเย็นอยู่เหมือนเคย แต่ก็ตอบได้เหมาะสมมาก
ทั้งสองคนคุยกันอยู่ตรงนั้นอีกสักพัก กู่ซีซีก็ถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง “มีข่าวคราวของคุณชายแซ่เริ่นคนนั้นบ้างหรือไม่?”
“ไม่มีเลย พรุ่งนี้ข้าจะส่งคนไปเพิ่ม จะต้องหาตัวเขาออกมาให้ได้! เพื่อชิงหญ้าวิเศษมาให้เจ้า”
“บางทีเขาอาจจะออกจากเมืองไปแล้วก็ได้” กู่ซีซีถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ไม่น่าจะเป็นไปได้ ตอนที่ข้าพบว่าเจ้าเด็กนั่นหายไป ก็ได้สั่งให้คนไปสกัดกั้นประตูเมืองไว้แล้ว คนของข้าที่เฝ้าประตูเมืองอยู่สายตาเฉียบคมยิ่ง ต่อให้เขาแต่งกายเป็นสตรีก็สามารถจดจำเขาได้!”
“หรือว่าคนผู้นั้นจะมีวิธีอื่นหลบหนีออกจากเมือง คุณชายน้อยคนนั้นที่สร้างปัญหาให้ท่านก็หาตัวไม่พบไม่ใช่หรือ? ไม่แน่นะ พวกเขาอาจเป็นพวกเดียวกันก็ได้”
นํ้าเสียงขององค์ชายหรงฉู่มีทั้งความต้องการเอาชนะและความโหดเหี้ยมปนอยู่เล็กน้อย “พวกเขาหนีไม่พ้นเงื้อมมือของข้าหรอก! พรุ่งนี้จะสั่งให้ออกหมายจับไปทั่วเมือง! จะต้องจับกุมพวกเขาได้แน่! เจ้าวางใจเถอะ”
“องค์ชายสี่กล่าวเกินไปแล้ว ข้าไม่สนใจคุณชายน้อยคนนั้นหรอก เพียงแค่อยากหาตัวคุณชายเริ่นคนนั้นให้พบ แล้วขอร้องเขาเรื่องหญ้าวิเศษนั้นคือสิ่งที่ท่านอาจารย์ตามหามาหลายปีแล้ว จะปล่อยให้หลุดมือไปไม่ได้ข้าได้ส่งข่าวกลับไปที่สำนักแล้ว เชื่อว่าถ้าท่านอาจารย์ทราบข่าวนี้คงจะรีบลงเขามาทันที…”
องค์ชายหรงฉู่ปรีดานัก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “หากเป็นเช่นนี้ข้าจะมีวาสนาพอได้พบท่านเจ้าสำนักหลงหรือไม่?”
“ท่านอาจารย์ของข้าไม่ชอบความคึกคักวุ่นวายในโลกมนุษย์เขาลงเขามาก็เพื่อหญ้าวิเศษเท่านั้น มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะไปตามหาคุณชายเริ่นเองโดยตรง และอาจจะไม่เข้าเมือง”
คืนนี้ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะมีเรื่องให้พูดคุยกันมากมายเหลือเกิน กระซิบกระซาบกันอยู่ตรงนั้น เหมือนกับว่าจะคุยไปด้วยพลางเดินมาทางด้านนี้ด้วย ตอนที่กู้ซีจิ่วได้ยินความเคลื่อนไหวของสองคนนั้นจึงเริ่มเก็บข้าวของด้วยความรวดเร็ว ลบร่องรอยทั้งหมดของเธอในสถานที่นี้ทิ้ง…
หยกนภามีข้อสงสัย ‘นี่เจ้ากำลังจะเผ่นหนีหรือ? พวกเขาคงไม่เข้ามาที่หรอกมั้ง? อีกอย่างพวกเราสื่อสารกันด้วยกระแสจิต พวกเขาไม่มีทางได้ยิน คงไม่สงสัยสถานที่แห่งนี้จนเข้ามาตรวจสอบหรอก…’
กู้ซีจิ่วไม่สนใจมัน เห็นได้ชัดว่าเธอทำเรื่องพวกนี้บ่อย เพียงชั่วพริบตาข้าวของทุกอย่างในนี้ก็กลับสู่สภาพเดิม แม้กระทั่งเตียงหยกเหมันต์หลังนั้นก็ถูกเธอทำให้มีฝุ่นปกคลุมอีกครั้ง…
“ที่นี่คือที่ไหน? ที่นี่เหมือนจะมีกลิ่นอายแปลกๆ อยู่เล็กน้อย!” เสียงของกู่ซีซีดังขึ้นจากด้านนอกของตำหนักเย็น!
“ที่นี่…มีไว้ลงโทษคนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อฟังคำสั่ง สกปรกมาก…”
“ไม่ใช่ ด้านในนี้เหมือนจะมีสิ่งชั่วร้ายอยู่!”
เกิดเสียงดังตึงขึ้น ประตูตำหนักเย็นถูกผลักให้เปิดออกโดยพลัน…
………………………..
[1]นิ้วทองคำ หมายถึง สูตรโกง
[2]ขาใหญ่ๆ มาจากสำนวนเต็มๆ คือ กอดต้นขาใหญ่ๆ หมายถึงพึ่งพาอาศัยผู้อื่นเพื่อรับผลประโยชน์