Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 938

บทที่ 938 ช่างเป็นเงามืดในจิตใจอย่างร้ายแรงโดยแท้!

โชคดีที่ถึงแม้เจ้าเด็กคนนี้จะน่าหงุดหงิดไปบ้าง แต่กลับเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมมาก ทำให้กู้ซีจิ่วคลายกังวลไปไม่น้อย

จะว่าไปก็แปลก กู้ซีจิ่วมักจะเลอะเลือนมองเห็นเงาของตี้ฝูอีบนร่างเขาบ่อยๆ ทำให้เธอค่อนข้างจนคำพูด สุดท้ายเธอจึงสรุปอาการของตัวเองว่าเป็น ‘ไข้ใจจนกลายเป็นโรคประสาท’

การตัดสินด้วยอารณ์เช่นนี้ดูไม่ฉลาดเลย ดังนั้นเธอจึงไม่เก็บมาใส่ใจ

ศิษย์ที่สามารถเข้าสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ได้ล้วนมีภูมิหลังวงศ์ตระกูลกระจ่างแจ้ง ชัดเจนยิ่งนักอิงเหยียนนั่วผูนี้เป็นบุตรชายราชครูแห่งอาณาจักรเจาหยาง ได้รับการแนะนำร่วมกันจากเชียนเยวี่ยหร่าน ฮวาอู๋เหยียน ทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเทียนจี้เยวี่ย รวมถึงหลงซือเย่ด้วย คนที่มีภูมิหลังวงศ์ตระกูลกระจ่างแจ้งถึงเพียงนี้จะเป็นตี้ฝูอีปลอมตัวมาได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอเคยให้เจ้าหอยยักษ์ดมกลิ่นอายบนร่างอิงเหยียนนั่วผู้นี้แล้ว เจ้าหอยยักษ์ก็บอกว่าไม่มีจุดที่คล้ายคลึงกับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเลยสักนิด

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าตนคิดมากเกินไปแล้วจริงๆ!

ขณะเธอเก็บกวาดข้าวของอยู่ตรงนี้ บนกำแพงนอกเรือน อิงเหยียนนั่วที่สวมชุดดำยืนอยู่ตรงนั้นแทบจะกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับรัตติกาล เขาหลุบตามองมือตน มือที่เป็นมือของเด็กหนุ่มเล็กกว่ามือของเขาในวัยผู้ใหญ่มาก…

เมื่อไหร่เขาถึงจะกลับเป็นปกติได้?

เขาดีดนิ้วเบาๆ คราหนึ่ง คล้ายจะส่งสัญญาณบางอย่าง

ผ่านไปครู่หนึ่ง มู่เตี่ยนก็ร่อนลงใต้กำแพงเบาๆ ปานหมอกควัน ค้อมกายทำความเคารพอิงเหยียนนั่ว “นายท่าน!”

“มู่เตี่ยน ข้าจะไปตรวจสอบเรื่องราวบางอย่าง เจ้าต้องเฝ้าระวังอยู่ข้างกายนาง ห้ามมีข้อผิดพลาดอันใดทั้งสิ้น!” อิงเหยียนนั่วสั่งการ

มู่เตี่ยนชะงักไปเล็กน้อย “ขอรับ!”

อิงเหยียนนั่วพยักหน้านิดๆ กำชับเขาอีกหลายประโยค จากนั้นร่างก็แวบหายไปทันที

มู่เตี่ยนถูใบหน้าอย่างขมขื่น เริ่มหดกระดูกด้วยวิธีที่คุ้นชิน ผ่านไปครู่หนึ่งร่างกายก็เหมือนอิงเหยียนนั่วทุกประการ จากนั้นก็ปรับแต่งใบหน้า พริบตาเดียวเขาก็กลายร่างเป็นอิงเหยียนนั่วยืนอยู่บนกำแพง เหม่อมองสายลมต่อไป อดจะครํ่าครวญอยู่ในใจไม่ได้

นายท่าน ท่านอยากเปลี่ยนสถานะติดตามนางในดวงใจ ข้าน้อยพร้อมสนับสนุนยิ่ง แต่เหตุใดท่านไม่เปลี่ยนให้ร่างกายสูงกว่านี้หน่อยเล่า?

เขาเป็นชายชาตรีที่สูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรคนหนึ่ง ให้หดกายเป็นหนุ่มน้อยหน้าหยกเช่นนี้ ช่างเป็นเงามืดในจิตใจอย่างร้ายแรงโดยแท้!

โดยเฉพาะสาวน้อยผู้นั้้นที่มาลองเชิงเขาอยู่เสมอ ตอนที่โผใส่เขาจนล้มลงบนพื้นวันนั้นน่าสะพรึงนัก…

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นมู่เตี่ยนก็ปวดตับยิ่งนัก ถึงแม้รสนิยมทางเพศของเขาจะเป็นปกติ มีสาวงามมาซุกอกทำให้ความมั่นใจในตัวเขาเอ่อล้นออกมา แต่สาวงามนางนี้เป็นสตรีของนายท่าน เขาไหนเลยจะกล้าแตะต้อง?!

ยังต้องการชีวิตอยู่นะ!

อันที่จริงมู่เตี่ยนเชี่ยวชาญการปลอมตัวยิ่ง และนายท่านของเขาก็ชอบการละเล่นหนึ่งคนพันโฉมหน้า มีหลากรูปลักษณ์ สารพัดนิสัย บางครั้งมู่เตี่ยนก็ต้องสวมรอยเป็นตัวตนเหล่านั้นจัดการเรื่องราวแทนนายท่าน ต่อให้เมื่อก่อนนายท่านจะมีฐานะปลอมคือพ่อค้าเร่ แต่ก็เป็นพ่อค้าเร่ที่่เรือนกายสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลา นี่เป็นครั้งแรกที่ปลอมเป็นเด็กน้อยอ่อนเยาว์เช่นนี้ โดยเฉพาะเด็กน้อยที่นุ่มนิ่มถึงเพียงนี้ด้วย…

ทุกครั้งที่มู่เตี่ยนมารับช่วงต่อจะรู้สึกกดดันยิ่งนัก รู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าละครฉากนี้แสดงยากเป็นที่สุด…

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ออกมา มอง ‘อิงเหยียนนั่ว’ ที่ยืนบนกำแพงแวบหนึ่ง “เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อนสักครู่ ข้าไปแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับมา”

‘อิงเหยียนนั่ว’ ออจะเอ่ยถามไม่ได้ “เจ้าจะไปไหน?”

กู้ซีจิ่วหยักยิ้มแวบหนึ่ง “เด็กน้อยอย่าได้ซักถามให้มากความ!”

จากนั้นร่างกายพลันส่องแสงแวบหนึ่งเคลื่อนย้ายจากไปโดยตรง

‘อิงเหยียนนั่ว’ พูดไม่ออก เขาร้อนใจเช่นกัน อยากไล่ตามแต่ก็ไม่รู้ว่าควรตามไปที่ไหนดี…

….

ณ วังคํ้านภา

กู้ซีจิ่วยืนอยู่หน้าประตู มองบานประตูที่ปิดสนิทเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง

ยามที่เธอกลับมาถึงอาณาจักรเฟยซิงก็สอบถามจนชัดเจนแล้ว ช่วงที่ผ่านมานี้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมิได้กลับมาที่วังค้ำนภาเลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!