บทที่ 955 เดี๋ยวข้าจะออกไปจับตัวนางเอง
ผู้อาวุโสหลงเอ่ยอย่างเย็นชา “วิทยาศาสตร์ไม่ยอมรับการอนุมานส่งเดช”
บุรุษชุดสีมรกตพูดไม่ออก เขาสูดหายใจเข้าเฮือกหนึ่งแล้วกล่าว “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้เข้ามาในสถานที่แห่งนี้แล้ว ไม่อาจปล่อยให้รอดชีวิตออกไปได้ มิเช่นนั้นที่นี่ของพวกเราจะถูกเปิดเผย! เจ้าผีน้อยพวกนี้เมื่อรอดออกไปได้จะต้องรายงานสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์แน่นอน ชักนำให้พวกเขามาปิดล้อมปราบปรามพวกเรา สถานที่แห่งนี้ของพวกเราก็จะรักษาเอาไว้ไม่ได้!”
ผู้อาวุโสหลงมุ่นคิ้วนิดๆ ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างลำบากใจ สายตามองไปที่กู้ซีจิ่วนัยน์ตาฉายแววซับซ้อนรางๆ
เด็กสาวคนนี้กล้าหาญรอบคอบเสมอมา ไม่ว่าคดียุ่งยากอะไรขอเพียงมาถึงมือเธอ เธอสามารถไขปมคลี่คลายให้กระจ่างแจ้งได้ทั้งสิ้น ต่อกรกับ เธอไม่อาจพลาดได้แม้แต่น้อย มิเช่นนั้นจะมีเพียงความพ่ายแพ้ยับเยินที่รอคอยอยู่…
บุรุษชุดสีมรกตผู้นั้นมองผู้ฟื้นจากความตายข้างนอกที่ถูกหักคอตัวแล้วตัวเล่า ค่อนข้างปวดใจยิ่งนัก “ว่าก็ว่าเถอะ นังเด็กคนนั้นรู้จุดอ่อนของผู้ฟื้นจากความตายได้อย่างไร? พวกเราสูญเสียผู้ฟื้นจากความตายไปมากกว่าสามร้อยตัวแล้ว! ถ้าคิดจะกำจัดเจ้าผีน้อยพวกนี้เกรงว่าคงต้องใช้การลอบสังหารถึงจะได้เรื่อง ควรปล่อยราชาผู้ฟื้นจากความตายออกไปหรือไม่?”
ผู้อาวุโสหลงขมวดคิ้ว “รอไปก่อน”
“ยังต้องรออีกหรือ?! รอฝ่ายเราบาดเจ็บล้มตายไปมากกว่านี้หรือไง! รู้ไหมว่าไม่ง่ายเลยกว่าพวกเราจะสร้างผู้ฟื้นจากความตายได้สักตัว…” บุรุษชุดสีมรกตร้อนใจ “ขอเพียงปล่อยราชาผู้ฟื้นจากความตายหลายตัวนั้นออกไป จะต้องฉีกเจ้าผีน้อยพวกนี้เป็นชิ้นๆ ได้แน่นอน!”
ผู้อาวุโสหลงหรี่ตาลงนิดๆ “ราชาผู้ฟื้นจากความตายเหล่านั้นเมื่อถูกปล่อยออกมาก็จะโจมตีไม่เลือกหน้า พอถึงเวลานั้นพวกเราก็ควบคุมไว้ไม่อยู่! คนอื่นโดนก็แล้วไปเถิด แต่กู้ซีจิ่วจะบาดเจ็บไม่ได้เด็ดขาด!”
บุรุษชุดเขียวเงียบไป เขากำมือแน่น “เช่นนั้นจะทำอย่างไร? เบิกตามองพวกเขากำจัดแรงกายแรงใจของพวกเราไปทีละตัวงั้นหรือ?”
ผู้อาวุโสหลงสูดหายใจนิดๆ “เดี๋ยวข้าจะออกไปจับตัวนางเอง!”
บุรุษชุดสีมรกตถอนหายใจอย่างโล่งอก “ควรทำเช่นนี้ตั้งนานแล้ว!”
เขามองกระจกฉาบปรอท จู่ๆ สายตาก็ร่วงลงบนร่างอิงเหยียนนั่วที่ซุ่มอยู่ไม่ไกลจากกู้ซีจิ่วมาโดยตลอด เด็กหนุ่มคนนั้นสง่างามปานลำไผ่เขียวขจีตามหลังกู้ซีจิ่วโดยไม่ปรากฏตัวออกมา แถมยังซ่อนตัวอยู่รอบกายนางคอยกำจัด ‘ผู้ฟื้นจากความตาย’ เหล่านั้นให้นาง เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเด็กหนุ่มดูอ่อนแอนัก ทว่าการเคลื่อนไหวกลับดุดันเฉียบขาดอย่างยิ่ง เรือนกายวูบไหวดั่งสายฟ้าแลบ ทุกครั้งที่ขยับจะมีผู้ฟื้นจากความตายตัวหนึ่งอยู่ในกำมือเขา…
‘ผู้ฟื้นจากความตาย’ ที่ร้ายกาจถึงเพียงนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็ราวกับตุ๊กตากระดาษทันที อ่อนแอปวกเปียก เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ยามอยู่ต่อหน้าผู้อื่นเขาเก็บงำฝีมือเอาไว้ ยามนี้ได้ปลดปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์ ร่างกายดั่งควันไฟ ลงมือว่องไวปานเสือดาว ทำให้บุรุษชุดสีมรกตมองจนตาพร่าไปหมด เมื่อเห็น ‘ผู้ฟื้นจากความตาย’ เหล่านั้นถูกจับหักคอ บุรุษชุดสีมรกตผู้นั้นก็รู้สึกเย็นวาบที่ต้นคอของตนเช่นกัน…
อิงเหยียนนั่วที่เพิ่งหักคอผีดิบชุดขาวตนหนึ่งไป ทันใดนั้นคล้ายว่าสัมผัสถึงบางอย่างได้ ดวงตาคู่หนึ่งมองตรงมาทันที!
บุรุษชุดสีมรกตประสานสายตากับเขาที่อยู่ในกระจกฉาบปรอท หนาวสะท้านขวัญผวาในทันใด!
ทราบชัดเจนว่าอีกฝ่ายมองไม่เห็นเขา ทว่าเขายังคงสั่นสะท้านไปทั้งใจ เกือบจะถอยหลังไปแล้ว เอ่ยโพล่งออกมา “คนผู้นี้ต่อกรได้ยาก!”
ผู้อาวุโสหลงหันมองตามเสียง จ้องอิงเหยียนนั่วครู่หนึ่งเช่นกัน
อิงเหยียนนั่วพลันยกมือขึ้น แสงเพลิงสายหนึ่งวาบเข้ามา กระจกฉาบปรอทบานนั้นกลายเป็นเกล็ดหิมะหนาทึบกลุ่มหนึ่งทันที
ชัดเจนยิ่งนักว่ากระจกที่ติดตั้งไว้ตรงจุดนั้นถูกอิงเหยียนนั่วทำลายแล้ว
ผู้อาวุโสหลงหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เด็กหนุ่มคนนี้ประหลาดนัก!
เกรงว่าจะเป็นบุคคลที่รับมือได้ยากผู้หนึ่ง…
มีคนผู้นี้อยู่ข้างกายเธอ เกรงว่าการจับกุมกู้ซีจิ่วโดยที่ตนไม่บุบสลายสักเส้นขนคงไม่ง่ายดายเสียแล้ว…