บทที่ 972 อันคำว่าเซียน 4
สัตว์ประหลาดสองตัวนั้นไม่จำหน้าผู้ใด โจมตีอย่างไม่ละเว้น ด้วยเหตุนี้ ยามสตรีนางนั้นกับข้ารับใช้ของนางพุ่งผ่านข้างรถลากสิงโตไป เหินทะยานขึ้นสู่นภาสูง รถลากสิงโตคันนั้นก็กลายเป็นเป้าหมายโจมตีของสัตว์ประหลาดทั้งสอง…
สัตว์ประหลาดสองตัวนี้คือสิ่งมีชีวิตที่ดุร้ายยิ่ง สัตว์ทั่วไปเมื่อพบเห็นพวกมันล้วนตกใจจนขี้แตกฉี่ราด อย่าว่าแต่หนีเลย แม้แต่จะขยับก็ยังไม่กล้าด้วยซํ้า
ต่อให้เป็นมังกรเจียวที่เพิ่งเผชิญหน้ากับการต่อสู้มาหยกๆ ของสตรีนางนั้น ก็ยังเคร่งเครียดจนแผ่นเกล็ดทั่วร่างล้วนลุกชันขึ้นมา!
ร่างกายก็แข็งทื่อไปพักหนึ่ง หากมิใช่เพราะถูกฝึกฝนมาอย่างดี เกรงว่ามันคงตกใจจนหล่นลงมาคลุกฝุ่นแล้ว…
แต่สิงโตเวหาที่ลากพวกเชียนหลิงอวี่หลบหนีครานี้ ในยามที่ตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้กลับระเบิดความกล้าหาญออกมาแตกต่างจากสัตว์ทั่วไป ไม่เพียงไม่ตกใจจนตกลงไปเท่านั้น มันยังลากรถหนีอย่างมีลูกไม้ด้วย!
ประเดี๋ยวก็บินซิกแซก ประเดี๋ยวก็บินเป็นรูปเลขแปด ประเดี๋ยวก็บินเป็นรูปตัว S…
หลบหนีการปิดล้อมไล่ล่าของสัตว์ประหลาดทั้งสองอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะดูดุร้ายอันตรายอย่างยิ่ง แต่สัตว์ประหลาดสองตัวนั้นก็สัมผัสไม่ได้แม้แต่สักล้อของมัน…
บนโลกนี้สิงโตเวหาเป็นสัตว์พาหนะของชนชั้นสูง มีอยู่มากมายทั่วแผ่นดิน ถึงแม้จะนับว่าลํ้าค่าเช่นกัน แต่ก็ไม่นับว่าเป็นสัตว์หายาก แม้กระทั่งสัตว์ระดับตํ่าที่สุดที่เหล่าผู้อาวุโสของสามสำนักขี่ยังสูงส่งกว่าสิงโตเวหาเสียอีก
ยามที่พวกเชียนหลิงอวี่เห็นว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นพุ่งเข้ามาประหนึ่งหัวรถไฟ ยังนึกอยู่ว่าหนนี้พวกตนคงตายแน่แล้ว!
ทว่ายังคงพากันออกกระบวนท่าสกัดกั้น คิดจะขวางให้ฝีเท้าของสัตว์ประหลาดสองตัวนี้ชะชอลงบ้าง แต่สัตว์ประหลาดสองตัวนี้ร้ายกาจเกินไปจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือหรืออานุภาพของพวกมันล้วนถึงขั้นดุร้ายกว่าสัตว์ร้ายขั้นแปดภายในป่าทมิฬเสียอีก กำแพงที่พวกหลานไว่หูปลดปล่อย
ออกมาเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกมันก็เหมือนกระดาษ ทะลวงครั้งเดียวก็แหลกสลาย!
พวกหลานไว่หูเบิกตามองกำแพงถูกซัดกระเด็น ยามที่ฟันคมกริบของสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นอยู่เบื้องหน้า หัวใจทุกคนล้วนหนาวยะเยือก รู้สึกว่าครั้งนี้จบสิ้นแน่แล้ว!
นึกไม่ถึงว่าจู่ๆ สิงโตเวหาตัวนั้นจะหมุนตัวคราหนึ่ง ลากรถพุ่งผ่านช่องว่างระหว่างสัตว์ประหลาดทั้งสอง หางสิงโตยังฟาดลงบนดวงตาของจระเข้ตีนเป็ดตัวนั้นด้วย ทำให้มันคำรามอย่างบ้าคลั่ง…
หงส์มังกรคู่นั้นถูกยั่วโมโหจนถึงขีดสุดแล้ว ตามติดอยู่ด้านหลังรถลากสิงโตเวหาไม่ยอมปล่อย สิงโตเวหาถูกฝึกฝนอย่างดีเหนือธรรมดา ในสถานการณ์คับขันมักจะหลบเลี่ยงการโจมตีของพวกมันได้เสมอ
ชัดเจนยิ่งนักว่าสิ่งโตเวหาตัวนี้ไม่ใช่สินค้าทั่วไป รถคันนี้ก็เห็นได้ชัดว่ามิใช่รถธรรมดา สิงโตเวหาลากมันหมุนวนหลบหลีกปานกังหัน ทว่ารถนั้นกลับ ไม่ถูกเขย่าคลอนจนหลุดเป็นชิ้น แม้แต่พู่ห้อยรถก็แข็งแรงนักแกว่งไกวไปมาแต่ว่าไม่หลุดออกไป ที่ทุกข์ทรมานมีเพียงทั้งสี่คนในรถ ถูกเขย่าจนเกือบขย้อนนํ้าดีขมๆ ออกมา มือของพวกเขายึดตัวรถไว้แน่นร่างกายส่ายไปมาอย่างรุนแรง กระแทกโดนกันบ้างเป็นครั้งคราว โชคดีที่วรยุทธ์ของทั้ง สี่คนล้วนไม่เลวยิ่ง มิเช่นนั้นคงถูกสะบัดออกจากรถไปนานแล้ว กลายเป็นอาหารของสัตว์ประหลาดสองตัวนั้น
ถึงอย่างไรสิงโตเวหาก็ลากมนุษย์สี่คนอยู่ ดังนั้นมันจึงไม่ได้ปลดปล่อยความเร็วที่เร็วที่สุดของมันออกมา สัตว์ประหลาดสองตัวนั้นกัดไม่โดนมัน แต่มันก็สลัดการไล่ล่าโจมตีของสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นไม่พ้นไประยะหนึ่ง…
ยามที่กู้ซีจิ่วตามมาถึง รูปการณ์ทั้งหมดที่ได้เห็นคือดังนี้ สิงโตเวหาลากรถสับสนวุ่นวายอยู่บนฟ้า สัตว์ประหลาดรูปร่างอัปลักษณ์ยิ่งนักสองตัวไล่กัดมันอยู่…
และสตรีขี่มังกรเจียวนางนั้นกับข้ารับใช้ของนางก็ยืนอยู่ในชั้นเมฆที่สูงลิบลิ่ว ซ่อนตัวอยู่ในหมู่เมฆมองอยู่ตรงนั้น นิ่งเฉยดูดายโดยแท้ ไม่มีทีท่าว่าจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเลยสักนิด
สิงโตเวหาหลบหนีอย่างหวาดเสียว