Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1055

ตอนที่ 1055 ปู่เป็นสุนัข?

ซูหมิงเอ่ยคร่าวๆ สีหน้าไม่มีคลื่นอารมณ์ใดๆ ทว่าแววตากลับมีความหนาวเยือก ชายหนุ่มโอหังตรงหน้ายังไม่พอให้เขาเกิดคลื่นอารมณ์มากจนเปลี่ยนเป็นนิสัย สามชนิด บางทีอาจพูดได้ว่าเพียงแค่ชายหนุ่มคนนี้ยังไม่มีคุณสมบัติเจอกับซูหมิงในร่างสีเทาหรือสีแดง

เสียงเขายังคงดังก้องฟ้า แม้เสียงจะไม่ดัง ทว่าขณะที่ดังก้องประหนึ่งมีเสียงฟ้าผ่าลงมา ทำให้ชายหนุ่มที่ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายดึกดำบรรพ์ได้ยินดังนั้นก็อึ้งไป จากนั้นตามด้วยหัวเราะเสียงดัง ผู้ฝึกฌานหลายสิบคนข้างๆ ก็เผยรอยยิ้มเย้ยเยาะ รอยยิ้มนั้นดูสูงส่ง เป็นการดูถูกต่อพวกซูหมิง

“น่าสนใจ เจ้าจะเอาหัวปู่เจ้าแขวนไว้ตรงหัวเรือรึ? เจ้าฝึกจนปัญญาอ่อนไปแล้วรึ? หลังถูกแต่งตั้งเป็นใต้เท้าแล้วคงจะตื่นเต้นจนลืมตัวได้ใจ ใครให้คุณสมบัตินี้กับเจ้ามาพูดกับปู่แบบนี้!” นัยน์ตาชายหนุ่มเผยจิตสังหารเด่นชัด ขณะกล่าว ความโอหังในรอยยิ้มก็ชัดกว่าเดิม

ความจริงก็ไม่ควรโทษที่ชายหนุ่มโอหังขนาดนี้ เพราะตอนนี้บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงข้างกายซูหมิงก้าวสู่โลกแท้จริงดาราสัจธรรมแล้วจึงต้องเก็บกลิ่นอายพลังของตัวเอง สวมเสื้อคลุมยาวสีแดงฉาน ตรงส่วนหัวก็คลุมเอาไว้ ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นโลกแท้จริงดาราสัจธรรม เขาเป็นเผ่าประหลาดทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ในก้นบึ้งหัวใจจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัย เลยซ่อนกลิ่นอายพลังตัวเองโดยจิตใต้สำนึก

ส่วนจูโหย่วไฉ หากเขาไม่แผ่แรงกดดัน คนอื่นก็ยากจะมองความตื้นลึกของขั้นพลังเขา ตอนนี้มองไปก็เพียงเจ้าปกครองโลก

ส่วนคนอื่น นอกจากสวี่ฮุ่ยที่บรรลุถึงภัยพิบัติจันทราแล้วก็มีเพียงซูหมิงที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกถึงแรงกดดันเล็กน้อย แต่ในเมื่อเขากล้ามาย่อมต้องมีที่พึ่งพา

ยามนี้ขณะเสียงเขาดังกังวาน ซูหมิงมีสีหน้าเรียบเฉย เพียงเอ่ยเรียบๆ มาประโยคหนึ่ง

“ข้าให้เวลาเจ้าสิบลมหายใจ ลบผู้ติดตามทั้งหมดของเขาก่อน” คำพูดซูหมิง เรียบนิ่งและแฝงไว้ด้วยจิตสังหารไร้รูป ขณะที่มันดังก้องในหูทุกคน ก็มีเพียง บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงคนเดียวที่ดังก้องในใจ เขาจึงรู้เลยว่าซูหมิงพูดกับตน

เสียงหัวเราะชั่วร้ายดังแว่วมาจากในเสื้อคลุมยาวสีแดงฉาน ช่วงที่ดังก้องไปใน ฟ้ากระจ่างดาว ก็ก่อขึ้นเป็นระลอกคลื่นกระเพื่อมวงใหญ่ ตอนนี้เองบรรพบุรุษ หุ่นเชิดเพลิงประสานมือคารวะซูหมิง

“ใต้เท้าวางใจเถอะ” ว่าจบเขาก็เดินหน้าหนึ่งก้าว เมื่อเหยียบลงฟ้า ผืนฟ้าพลันเกิดเสียงดังโครม ใต้เท้าเขาปรากฏน้ำวนยักษ์ขึ้นแห่งหนึ่ง ซึ่งมันเหนี่ยวนำให้ ฟ้ากระจ่างดาวรอบๆ หมุนทวนเข็มราวกับน้ำไหล ส่งผลให้ชายหนุ่มรวมถึงผู้ติดตามต่างหรี่ตาแคบลง

หลังบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงเดินเข้าสู่ฟ้า เสียงหัวเราะชั่วร้ายของเขาก็ดังกังวานไป เขาเงยหน้าขึ้นทีละน้อย ยื่นมือขวาแห้งเหี่ยวคล้ายกับกงเล็บเปิดผ้าคลุมหัวสีแดงฉานออกช้าๆ เผยเป็นใบหน้าอัปลักษณ์ราวโครงกระดูกแห้ง ภายในลูกตาสีแดงดุจดั่งมีเปลวเพลิงอาบท่วม มิหนำซ้ำยังระเบิดขั้นพลังออกมาโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย

ขั้นพลังยอดฝีมือขั้นกุมกระจายไปยังฟ้า ทำให้ชายหนุ่มหน้าเปลี่ยนสีโดยพลัน ผู้ติดตามข้างๆ เดิมทีมีสีหน้าดูถูก ทว่าตอนนี้หน้าเปลี่ยนสีไป กลายเป็นหวาดกลัวและเหลือเชื่อ

สีหน้าพวกเขาทำให้ในใจบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงเป็นสุขยิ่งนัก ขณะหัวเราะชั่วร้ายและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเอง…

“เจ็ด!” นิสัยของกระเรียนขนร่วงคือชอบให้ทุกอย่างวุ่นวายรวมถึงบรรลุเป้าหมายของมันด้วย ตอนนี้มันกลอกตาตะโกนเสียงดังออกไปตัวเลขเดียว ซึ่งมันสอดคล้องกับคำสั่งสิบลมหายใจของซูหมิง

สิ้นเสียงคำว่าเจ็ด ทุกคนข้างกายซูหมิงต่างมองกระเรียนขนร่วงด้วยสายตาแปลกประหลาด บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงก็ตะโกนเสียงดังเช่นกัน เขาเดินหน้าหนึ่งก้าวเข้าไปใกล้ชายหนุ่มในพริบตา

ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา ชายหนุ่มคนนั้นหน้าซีดขาวทันที

“ผะ…ผู้กุมชะตาเกิดดับสูญ!” เขานึกไม่ถึงเลยว่าข้างกายเต้าคงจะมียอดฝีมือ กุมชะตาเกิดดับสูญอยู่ ในสายตาเขายอดฝีมือระดับนี้อยู่สูงส่งไร้ที่เปรียบ ถึงเขาจะเป็นสายตรงสำนักดาราสัจธรรม แต่ก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่สำนักจะส่งยอดฝีมือแบบนี้มาอยู่ข้างกาย

ยามนี้ความคิดขาวโพลน ทันใดนั้นเองเกิดเสียงร้องแหลมดังขึ้นข้างกายเขา เป็นผู้ติดตามคนหนึ่งร่างเผาไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านในเสี้ยววพริบตา เหลือไว้เพียงเสียงร้องโหยหวนที่ยังดังกังวาน

บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงเลียริมฝีปาก ก่อนเดินออกจากมวลอากาศข้างๆ ผู้ฝึกฌานที่หายไป

“เก้า!” กระเรียนขนร่วงตะโกนเสียงดังอีกครั้ง เสียงดูเจ็บปวดรวดร้าว

นัยน์ตาบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงฉายแววโกรธ ยังไม่ทันพูดอะไรก็ยกสองมือขึ้นสะบัดไปรอบๆ ทะเลเพลิงสีม่วงพลันระเบิดมาจากตัวเขากลายเป็นฝ่ามือเปลวเพลิงยักษ์กลางฟ้าโผล่มาจากในมวลอากาศข้างล่าง

ฝ่ามือคว้าขึ้นมาข้างบน มองไกลๆ ฝ่ามือเปลวเพลิงกลางฟ้ามีขนาดแสนกว่าจั้งประหนึ่งยึดครองฟ้ากระจ่างดาวหนึ่งทิศ เมื่อมันคว้าขึ้นไป ฟ้าเกิดเสียงดังสนั่น ระลอกคลื่นกระจายไปรอบๆ จักรวาลสั่นสะเทือน นอกจากชายหนุ่มรวมถึงไข่ยักษ์ใต้ร่างเขาแล้ว ผู้ติดตามข้างกายทั้งหมดกลายเป็นเถ้าธุลีหายไป กระทั่งเสียงร้องยังไม่ทันดังขึ้นวิญญาณก็สูญสลายไป

ตอนที่ฝ่ามือเปลวเพลิงหายไป กระเรียนขนร่วงก็เอ่ยเสียงแหลมด้วยความลำพองใจ

“สิบ ย่ากระเรียนเจ้าเถอะ สิบลมหายใจแล้ว เจ้าทำภารกิจไม่สำเร็จ!” กระเรียนขนร่วงตะโกนเสียงดังด้วยสีหน้าลำพองใจ

บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงหันกลับไปมองกระเรียนขนร่วงด้วยความโกรธ ตอนนี้เองชายหนุ่มนามเต้าเฟยเฟิงบนไข่ยักษ์กลางฟ้าตรงหน้าพวกซูหมิงหน้าขาวซีด นัยน์ตา ดูหวาดกลัวและตระหนก ฝ่ามือเปลวเพลิงเมื่อครู่นี้ เขาเกิดความรู้สึกถึงความตายอย่างชัดเจน หากไม่ใช่เพราะตอนสุดท้ายที่ไข่ประหลาดใต้ร่างเขาแผ่พลังนุ่มนวล โอบล้อมเขาเอาไว้ การโจมตีเมื่อครู่คงจะเป็นภาพสุดท้ายในชีวิตเขา

เขาพลันรู้สึกว่าตนช่างน่าขันนัก ความโอหังก่อนหน้านี้ กระทั่งมาที่นี่เป็นพิเศษเพื่อรอกลุ่มอีกฝ่ายมา เป้าหมายคือสยบเต้าคงด้วยพลังอำนาจ จะดีที่สุดคือให้อีกฝ่ายถอนตัวจากตำแหน่งใต้เท้าไปเอง

ในมุมมองเขา ต่อให้อีกฝ่ายแกร่งกว่านี้อีกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ตน เขาพาผู้ติดตามมาด้วย ในนั้นส่วนใหญ่เป็นเจ้าปกครองโลกตอนปลาย และยังมีภัยพิบัติจันทราสามคน ส่วนขั้นพลังเขาเองก็อยู่ระหว่างภัยพิบัติจันทรากับภัยพิบัติตะวัน ขั้นพลังและ ขุมอำนาจแบบนี้ทำให้เขาเกิดความมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง

กระทั่งเมื่อครู่นี้เขายังรู้สึกขำกับคำพูดของซูหมิงที่ว่าจะเอาหัวตนไปแขวนไว้ตรงหัวเรือ ตอนนั้นที่เขาเย้ยเยาะก็ยังอยากรู้เลยว่าอีกฝ่ายมีความมั่นใจแบบใดกันแน่ถึงพูดแบบนั้นออกมา

แต่ว่า…เต้าคงมีสีหน้าดังเดิมมาตลอด เพียงเอ่ยคร่าวๆ ว่าสิบลมหายใจ แต่สำหรับเขาแล้วจุดจบคือผู้ติดตามตายตกทั้งหมด

บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงถลึงตามองกระเรียนขนร่วงแวบหนึ่ง เห็นซูหมิงมีสีหน้าปกติ ในใจก็ตึงเครียดขึ้นมา รีบมองเต้าเฟยเฟิงที่เหลือรอดอยู่คนเดียวด้วยจิตสังหาร

“สมควรตาย เหตุใดเมื่อครู่เจ้าถึงไม่ตาย!” ถึงบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงจะเป็นยอดฝีมือ ทว่าเขาไม่ใช่ผู้ฝึกฌาน ไม่ต้องตระหนักรู้เพื่อได้ขั้นพลังมา แต่ต้องใช้พรสวรรค์ เผ่าประหลาดโดยกินกันเองถึงจะมีขั้นพลังแบบนี้ ดังนั้นด้านนิสัยจึงเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ตอนนี้กังวลว่าซูหมิงจะไม่พอใจ จึงลงความแค้นทั้งหมดไว้ที่ชายหนุ่มว่าเหตุใดถึงไม่ตาย ขณะเอ่ยอยู่นี้ก็ยังขยับตัวพุ่งไปหาชายหนุ่ม

“ข้าเป็นคนสายตรงสำนักดาราสัจธรรม นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างคนในตระกูล หวังว่าผู้อาวุโส….จะไม่ก้าวก่าย นี่คือการต่อสู้กันระหว่างคนสำนักดาราสัจธรรม…” เต้าเฟยเฟิงหน้าเปลี่ยนสี ไข่ยักษ์ใต้ร่างถอยไปอย่างรวดเร็ว ส่วนเขาก็เอ่ยเสียงเล็ก ดังกังวาน

“ผู้อาวุโสเป็นคนของห้องโถงใด? ข้ามีตราคำสั่งของห้องโถงผู้อาวุโสอยู่ ขอให้ ผู้อาวุโสอย่าลงมือด้วย!” ระหว่างที่เต้าเฟยเฟิงถอยไป ก็หยิบตราสีขาวอันหนึ่งออกมาจากอกเสื้อก่อนพูดเสียงดัง ในใจเขาเป็นกังวลก็จริงอยู่ ทว่าตนเชื่อว่าเมื่อตนนำ ตราคำสั่งออกมาแล้ว ยอดฝีมือของสำนักดาราสัจธรรมตรงหน้าจะต้องเกิดความลังเล

“ช่างหัวห้องโถงผู้อาวุโสของย่ากระเรียนเจ้าเถอะ!” บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงตะโกนเสียงต่ำ ใช้คำพูดของกระเรียนขนร่วงโดยไม่รู้ตัว ขณะกล่าวอยู่นี้ยังขยับตัวพุ่งไปหายังเต้าเฟยเฟิงที่นัยน์ตาฉายแววเหลือเชื่ออย่างว่องไว เกิดเสียงโครมดังสนั่นขึ้น ไข่ยักษ์สั่นไหวและปรากฏม่านแสงนุ่มนวลหนึ่งชั้น ฝ่ามือบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงปะทะบนม่านแสง

เกิดเสียงอึกทึกขึ้น ระหว่างที่ม่านแสงสั่นไหวอย่างรุนแรง เต้าเฟยเฟิงในนั้นถูกกระเทือนจนกระอักเลือด

“เจ้ายังไม่ตายอีกรึ?” บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงรู้สึกโกรธจนเผาไหม้ ตัวเขาเป็นยอดฝีมืออย่างสง่าผ่าเผย ทว่าโจมตีสองครั้งแล้วก็ยังสังหารครึ่งก้าวภัยพิบัติตะวันเล็กจ้อยคนนี้ไม่ได้ ถึงทุกอย่างจะเป็นเพราะความประหลาดของไข่ยักษ์ แต่ในมุมมองของทุกคน เรื่องนี้ทำให้บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงรู้สึกเสียหน้าอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะกระเรียนขนร่วงที่หัวเราะเยาะด้วยความอวดดี นั่นยิ่งทำให้เขาโกรธขึ้นอีก

“ตายให้ข้า ตาย ตาย!” บรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิงขยับตัวเดินหน้าไป เสียงโครมดังก้องฟ้าอีกครั้ง ม่านแสงบนไข่ยักษ์บิดเบี้ยวไม่หยุด สุดท้ายก็เกิดเสียงดังปังและพังลง เมื่อม่านแสงแตกเป็นเสี่ยงๆ เต้าเฟยเฟิงในนั้นกระอักเลือดอีกครั้ง ร่างกายแห้งเหี่ยวลงในพริบตา ทั่วร่างราวกับสูญเสียชีวิตไปครึ่งหนึ่ง นัยน์ตาฉายประกายหวาดกลัวและสิ้นหวังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ท่านปู่ช่วยข้าด้วย!”

ช่วงที่เขากล่าวออกไป ไข่ยักษ์ใต้ร่างพลันเกิดรอยร้าวจำนวนมาก ก่อนมีหัวสุนัข สีดำพุ่งมาจากข้างในแล้วตรงเข้าไปกัดทางบรรพบุรุษหุ่นเชิดเพลิง

“หืม? ปู่เจ้าเป็นสุนัขรึ? สมควรตาย ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นสุนัขใหญ่สีดำ นี่คือความอัปยศ นี่เป็นความอัปยศของเจ้าต่อข้า!” เดิมทีกระเรียนขนร่วงยังดูอย่างครึกครื้นอยู่ ตอนนี้มันถลึงตามอง และอดรู้สึกเกิดโทสะขึ้นมามิได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!