ตอนที่ 1121 ตรงเข้าไป
ตอนที่พลังยังไม่ถึงขั้นกุม ซูหมิงก็สังหารยอดฝีมือได้แล้ว ในแดนพิธีแต่งตั้งสำนักดาราสัจธรรมก็เคยสู้กับยอดฝีมือแปดคน จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ เขาไม่เพียงแต่บรรลุถึงขั้นกุมเท่านั้น อีกทั้งยังเปิดพลังแห่งห้านิ้วมือ กระทั่งยังเปิดประตูยมโลกในร่างเพราะหลอมรวมกับพืชต้นนั้น
ซูหมิงในตอนนี้คือผู้แข็งแกร่งที่สู้กับขั้นเกิดได้ เวลานี้เผชิญหน้ากับผู้ฝึกฌานหลายสิบคน แม้ในนั้นจะไม่ใช่ยอดฝีมือทั่วไป แต่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้เขาอยู่ดี!
เมื่อใช้วิชาเคลื่อนย้ายภูผา ฟ้าดินเกิดเสียงดังสนั่น ยอดเขานับไม่ถ้วนบนฟ้า กดทับลงมายังหลายสิบคนนี้ ส่งเสียงระเบิดดังก้องไปรอบๆ สั่นสะเทือนแก้วหู ตอนนี้เองหลายสิบคนนั้นต่างกระอักเลือด ร่างกระเด็นถอยไปทั้งหมด ส่วนซูหมิงเดินหน้าหนึ่งก้าวเข้าไปใกล้คนหนึ่งในพริบตา แล้วยกมือขวากดตรงระหว่างคิ้ว ทั่วร่างอีกฝ่ายสั่นไหวโดยพลัน หลังพลังชีวิตและวิญญาณในร่างถูกซูหมิงสูบในนิ้วเดียวแล้วก็กลายป็นเถ้าธุลีหายไป
ซูหมิงขยับวูบไหวตัวติดกันสิบเจ็ดครั้ง ผู้ฝึกฌานสิบเจ็ดคนนี้ยังไม่ทันกรีดร้องก็ทยอยกันหายไป พลังชีวิตมหาศาลและวิญญาณหลั่งไหลเข้าสู่ร่างเขา เข้าไปบำรุงประตูยมโลกและยังชลอจังหวะที่ประตูยมโลกสูบพลังชีวิตของเขาไม่หยุดด้วย
จนในที่สุดซูหมิงถึงถอนหายใจโล่งอก ร่างจากสภาพหนังหุ้มกระดูกฟื้นกลับมาเล็กน้อย ดูเหมือนแค่ผอมแห้ง ไม่น่าตกใจเหมือนก่อนหน้า
“ทว่า…..ยังไม่พอ!” ซูหมิงเงยหน้าขึ้นดวงตาวาววับ สายตาจ้องดาวเก้าดวงไกลๆ นัยน์ตาฉายประกายชั่วร้าย ก่อนพุ่งเข้าไปอย่างไม่ลังเล จุดที่ผ่าน ผู้ฝึกฌานที่ ขวางตลอดทางล้วนถูกสูบพลังชีวิตและวิญญาณไป ทำให้เขาในเวลานี้เป็นดุจดั่งพยัคฆ์ร้ายบนสนามรบที่ไม่มีใครกล้าขวางและเข้าใกล้
ขั้นพลังแข็งแกร่ง อภินิหารประหลาด ความเร็วสูงยิ่ง ส่งผลให้ซูหมิงกลายเป็นที่จับตามองบนสนามรบ ผู้ฝึกฌานห้องโถงสงครามห้าล้านคนก็สังหารไม่หยุด ส่วน ผู้ฝึกฌานเผ่าพันธุ์น้ำค้างธุลีจากพันธมิตรเผ่าเซียนก็ต่อต้านอย่างบ้าคลั่ง บนสนามรบที่เต็มไปด้วยการเข่นฆ่าและเสียงระเบิดดังก้อง สายรุ้งยาวจากซูหมิงพุ่งเข้าไปยัง ดาวเก้าดวงราวกับแยกตัวเองออก
ด้วยความเร็วของเขาจึงเข้าไปใกล้ดาวหนึ่งดวงด้วยความเร็วเกือบพริบตา ท่ามกลางเสียงคำรามด้วยความโกรธของจ้าวเผ่าน้ำค้างธุลีกับเหล่าผู้อาวุโส รวมถึง ผู้ฝึกฌานหลายสิบคนกัดฟันพุ่งเข้าไปหาซูหมิง ซูหมิงได้ทำในสิ่งที่ทำให้สองฝ่ายซึ่งกำลังห่ำหั่นกันบนสนามรบต้องเกิดความตกตะลึง ถึงขั้นต่างฝ่ายต่างลืมลงมือ!
เขา…..ยกมือขวาขึ้น ช่วงที่ผู้ฝึกฌานหลายสิบคนรอบๆ เข้ามาใกล้ เขาใช้ฝ่ามือคว้าอากาศไปทางหนึ่งในดาวเก้าดวง ขณะเดียวกันประตูยมโลกในตัวเขายังส่งแรงสูบมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไหลไปตามแขนส่งไปยังฝ่ามือ ก่อนเกิดเสียงระเบิด ดังขึ้น ตรงหน้าซูหมิงปรากฏฝ่ามือมายายักษ์จากขั้นพลังกุมขึ้น
ฝ่ามือมายานี้มีความใหญ่หมื่นจั้ง มันคว้าไปยังดาวนี้ท่ามกลางเสียงครึกโครม แรงมหาศาลจากประตูยมโลกปะทุขึ้น ทันใดนั้นดาวดวงนี้สั่นไหวอย่างรุนแรงและเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเห็นได้ด้วยตาเนื้อ ซึ่งมากพอจะสร้างความหวาดผวากับผู้พบเห็นกับตาตัวเองทุกคน!
พืชสีเขียวทั้งหมดบนดาวดวงนั้นแห้งเหี่ยวในทันใด สายน้ำทั้งหมดแห้งลง มหาสมุทรกลายเป็นทะเลมรณะในพริบตา น้ำทะเลหายไป สิ่งมีชีวินน่ากลัวในทะเลนับไม่ถ้วนต่างกลายเป็นเถ้าธุลีหายไป แผ่นดินใหญ่เปลี่ยนเป็นแห้งแล้ง ตอนที่เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงยังเกิดรอยร้าวเหมือนถูกแยกออก ยอดเขาถล่มลง ตอนที่มองแผ่นดิน จะเห็นด้วยตาเนื้อว่ามีความแห้งแล้งลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ดาวดวงนี้เหมือนผ่านกาลเวลาหนึ่งชีวิตไปในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจสั้นๆ ชีวิตมันกำลังดับสูญลงอย่างเร็วไว หมอกขาวลอยขึ้นจากดาวไม่หยุด ทั้งหมดล้วนหลั่งทะลักไปยังซูหมิงที่อยู่ นอกดาว ก่อนหลั่งไหลเข้าไปในทวารทั้งเจ็ดของเขา
ขณะที่ดาวเปลี่ยนแปลงด้วยความเร็วระดับตาเนื้อ มันก็เล็กลงอย่างเร็วไว สุดท้ายเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น ตอนที่มันกลายเป็นเศษกระจายออกก็กลายเป็นเถ้าธุลีหายไป รวมถึงสิ่งมีชีวิตและต้นกำเนิดโลกของดาวนี้ยังสลายไปด้วย กลายเป็น หมอกขาวอบอวลไปรอบๆ แล้วตรงเข้ามาวนเวียนรอบตัวซูหมิง
เพียงไม่กี่ลมหายใจหมอกขาวก็ถูกซูหมิงสูบไปจนหมด ซูหมิงที่ปรากฏต่อสายตาทุกคนไม่ใช่ร่างผอมแห้งอีก แต่กลับมาเป็นสภาพเดิม
เส้นผมดำแกว่งไกว สวมเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารา ตรงระหว่างคิ้วเหมือนเปิดดวงตาที่สาม ทำให้เขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกชั่วร้าย ทั้งยังมีกลิ่นอายยมโลกเข้มข้นวนเวียนรอบตัว คนอื่นมองเขาเพียงแวบเดียวจะต้องเกิดความหนาวขึ้นในใจ
ภาพนี้ทำให้ผู้ฝึกฌานทั้งหมดรอบๆ ล้วนหรี่ตาลง ในความคิดขาวโพลนเล็กน้อย การทำลายดาวหนึ่งดวงสำหรับยอดฝีมือแล้วไม่ยาก ทว่าซูหมิงไม่ใช่แค่ทำลาย แต่เขายัง…..สูบพลังชีวิตและต้นกำเนิดวิญญาณของดาวหนึ่งดวงไปทั้งหมด
ดังนั้นแล้วจะไม่ให้ตกตะลึงได้อย่างไร ถึงขั้นที่ผู้ฝึกฌานเผ่าน้ำค้างธุลีหลายสิบคนที่กำลังพุ่งไปหาซูหมิงยังหยุดชะงัก ก่อนถอยไปอย่างเร็วไวด้วยใบหน้าซีดขาว ไม่กล้าเข้าใกล้แม้แต่น้อย
หลังเงียบสงัดในระยะสั้นๆ สงครามก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง ระดับความดุเดือดครั้งนี้ไม่เท่าก่อนหน้านี้ เพราะว่า…..พอผู้ฝึกฌานพันธมิตรเผ่าเซียนเห็นซูหมิงสูบพลังชีวิตของหนึ่งดาวไปแล้วก็เสียกำลังในการต่อต้านไปมาก ทั้งยังไม่มีความมุ่งมั่นในการต่อสู้ ทว่าทางผู้ฝึกฌานห้าล้านคนแห่งห้องโถงสงครามอยู่ในทางตรงกันข้าม พวกเขาเกิดความมุ่งมั่นในการรบอย่างดุเดือด เดินหน้าไปพร้อมเสียงดังสนั่น เก็บเกี่ยวชีวิตไม่หยุดราวกับไม่มีอะไรมาหยุดได้
ซูหมิงไม่สนใจสองฝ่ายบนสนามรบ แต่ดวงตาขยับประกายวาว สายตามองดาวอีกแปดดวงที่เหลือ ก่อนขยับวูบไหวไปอีกดาว
เวลาผ่านไปช้าๆ ราวสี่ชั่วยามต่อมา ในสี่ชั่วยามนี้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อดาวเก้าดวงถูกซูหมิงสูบกินไปจนหมดแล้ว ที่นี่จึงค่อยๆ เงียบสงบลง
กลางฟ้ากระจ่างดาวมีศพลอยอยู่จนนับไม่ไหว เศษขาแขนจำนวนมาก กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปรอบๆ ผู้ฝึกฌานห้องโถงสงครามแบ่งเป็นสามกลุ่ม สองกลุ่มกำลังล่าสังหารผู้ฝึกฌานพันธมิตรเผ่าเซียนที่หนีไปรอบๆ ส่วนอีกกลุ่มที่เหลือเดินผ่านสนามรบไป เพียงแต่ว่าพอเจอศพที่ยังสมบูรณ์ก็จะบดทำลายหัวทิ้ง การโจมตีซ้ำอีกรอบแบบนี้คือความเคยชินของห้องโถงสงครามหลังชนะสงครามทุกครั้ง
เมื่อห้องโถงสงครามผ่าน ทุกสิ่งมีชีวิตจะไม่เหลือรอด คำนี้ไม่ใช่พูดกันพล่อยๆ
ผ่านไปอีกสามชั่วยาม เมื่อกองกำลังห้องโถงสงครามที่ล่าสังหารผู้ฝึกฌานพันธมิตรเผ่าเซียนกลับมารวมกันครบแล้ว ผู้ฝึกฌานห้องโถงสงครามขั้วแห่งดินที่เสียไปแสนกว่าคนก็ยกเท้าขึ้นมุ่งหน้าไกลออกไปอีกครั้ง ส่งเสียงอึกทึกกึกก้อง สายรุ้งยาวจากเรือรบ เสียงคำรามของสัตว์ร้าย การเคลื่อนตัวของดาว ทำให้ที่นี่เกิดระลอกคลื่นม้วนซากศพที่ลอยอยู่ให้กระจายกลิ่นคาวเลือดออกไป
สงครามครั้งนี้จบลงแล้ว ผู้ฝึกฌานห้าล้านคนแห่งห้องโถงขั้วแห่งดินต่างมี กลิ่นอายมารเข้มข้นขึ้นมาอีกเล็กน้อย ทว่าสายตาของพวกเขาที่หันไปมองดาว ข้างหลังเป็นบางครั้งกลับมีความฮึกเหิมและเคารพ
ซูหมิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนดาว หลับตานั่งฌานอยู่บนยอดเขาเดิมของเขา
สงครามครั้งนี้ผู้ฝึกฌานพันธมิตรเผ่าเซียนตายด้วยมือเขาไปจำนวนมาก อีกทั้งดาวเก้าดวงของเผ่าพันธุ์น้ำค้างธุลียังถูกเขาทำลายไปด้วย!
นับจากนี้เผ่าน้ำค้างธุลีจะหายไป เผ่าพันธุ์นี้จะไม่ฟื้นกลับมาในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมอีก
นี่คือสงคราม ไม่มีถูกผิด มีแต่เป็นศัตรูกัน!
ขณะซูหมิงนั่งขัดสมาธิอยู่ ประตูยมโลกในร่างกายจากหมอกยมโลกกลุ่มหนึ่งก่อนหน้านี้ ตอนนี้ใกล้จะเปลี่ยนเป็นคล้ายกับผลึกแล้ว เวลานี้มองไปเปลี่ยนไปมากกว่าครึ่ง ยังขาดอีกเล็กน้อยถึงจะเป็นผลึกสมบูรณ์
เวลาผ่านไปช้าๆ ในขณะที่ซูหมิงนั่งฌาน การปะทุของสงครามในแต่ละครั้งทำให้หนึ่งเดือนต่อมาห้องโถงสงครามฝ่าเข้าไปในพันธมิตรเผ่าเซียน พวกเขาผ่านสงครามเล็กใหญ่มาสิบกว่าครั้ง ไม่เพียงแค่พวกเขาที่นี่ แทบทุกวันจะมีรายงานผลการรบส่งมาด้วยวิธีการพิเศษถึงสุนัขป่า ในขณะเดียวกัน ด้วยฐานะของซูหมิง เขาย่อมมีสิทธิ์อ่านผลการรบเหล่านี้ด้วย จะเห็นได้ว่าสำนักดาราสัจธรรมในครั้งนี้มีกองทัพใหญ่สิบกลุ่มเคลื่อนพล จำนวนทั้งหมดหลายล้านคน บุกเข้าไปในพันธมิตรเผ่าเซียนสิบทิศทาง หมายจะตัดสินแพ้ชนะในครั้งเดียว
นี่คือการต่อต้านและปะทุแบบนี้เป็นครั้งแรกของสำนักดาราสัจธรรม ส่งผลให้พันธมิตรเผ่าเซียนตั้งตัวไม่ทันและต้องถอยไปอย่างต่อเนื่อง กองทัพใหญ่สิบกลุ่มผ่านไปแทบทุกอย่างไม่เหลือรอด เกิดการสังหารมากมาย รวมถึงการทำลายล้างเผ่าพันธุ์กันจนสิ้นซาก
พวกเขาจะไม่ยอมจำนน!
ขอเพียงเคยทรยศก็มีแต่ต้องทำลายล้างเผ่าพันธุ์เท่านั้น การโต้กลับของสำนักดาราสัจธรรมเป็นดั่งสายฟ้า ส่งผลให้หลายเดือนมานี้ในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
ยิ่งเข้าใกล้พันธมิตรเผ่าเซียนเท่าไร ฝั่งสำนักดาราสัจธรรมก็จะยิ่งโต้ตอบแรงมากเท่านั้น จนกระทั่งวันนี้ ห้องโถงสงครามขั้วแห่งดินที่ซูหมิงอยู่ ตรงจุดที่ห่างจากพื้นที่ศูนย์กลางพันธมิตรเผ่าเซียนราวครึ่งเดือนเกิดสงครามที่ใหญ่กว่าก่อนหน้านี้ขึ้น
ผู้ฝึกฌานห้องโถงสงครามเหลือเกือบสี่ล้านคน ศัตรูพวกเขาคือกองทัพใหญ่พันธมิตรเผ่าเซียนเกือบสามล้านคน การเข่นฆ่าของสองฝ่ายตอนนี้ดำเนินมาหนึ่งวันแล้ว
ในวันนี้เกิดการล้มตายอย่างอนาถา สุนัขป่าจึงต้องมาบัญชาการด้วยตัวเอง สัตว์ร้ายยักษ์ส่งเสียงคำรามดังไปตามจุดต่างๆ มากมายบนสนามรบ ช่วงที่เรือรบเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นเป็นบางครั้ง จะมีแสงเจ็ดสีของดาวที่สุนัขป่าอยู่ส่องสว่างไปรอบๆ หนึ่งครั้ง อีกทั้งทุกครึ่งชั่วยามจะเปล่งแสงหนึ่งครั้งด้วย
ทางฝั่งพันธมิตรเผ่าเซียน บนฟ้ามีดวงตายักษ์ลอยอยู่หลายร้อยดวง ดวงตาเหล่านี้สังเกตเห็นทุกการเปลี่ยนแปลงบนสนามรบตลอดเวลา ภายใต้ดวงตานี้ ข้างหลังพันธมิตรเผ่าเซียนปรากฏหอคอยสูงเก้าชั้นแห่งหนึ่ง คำสั่งต่างๆ ก็ส่งมาจากในหอคอยสูงนี้เป็นการบัญชาการรบ
ขณะเดียวกันรอบๆ หอคอยสูงยังมีผู้ฝึกฌานเผ่าเซียนจำนวนมากเหยียบกระบี่ล้อมรอบอยู่ ดวงตาเย็นชามองผู้ฝึกฌานห้องโถงสงครามอยู่ไกลๆ
กระทั่ง….ข้างหลังไปอีก ซูหมิงเห็นคนชุดคลุมดำสองคน!
คนชุดคลุมดำเหมือนกับที่เขาเห็นในภาพมายาทะเลเต๋าทุกประการ!
เพียงแต่ว่าไม่มีคนยักษ์ที่ถูกเรียกว่าเทพโบราณ แต่ซูหมิงเกิดลางสังหรณ์อย่างหนึ่งว่าตรงจุดที่คนเสื้อคลุมดำอยู่มีโอกาสสูงมากที่จะปรากฏเทพโบราณ!