ตอนที่ 1144 เมล็ดพันธุ์ทำลำยล้างชีวิตหลุดออก
“ท่านเคยรับปากข้า ถึงจะใช้ซูหมิงเป็นกาฝากก็ไม่ควรทำร้ายชีวิตเขา อีกอย่างเรื่องนี้เป็นโชควาสนาครั้งใหญ่สำหรับเขา” มองสีหน้าซังไม่ออกแม้แต่น้อย ทว่าจากน้ำเสียงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ติดตามซูเซวียนอีมาไม่รู้กี่ปี!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดกับซูเซวียนอีแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่ในคำพูดไม่มี ความเคารพจากใจจริง แต่กลับเย็นชา กระทั่งซังไม่ได้จงใจปิดความเย็นชาด้วยซ้ำ แต่เผยออกมาทั้งหมด
ซูเซวียนอีหันกลับมามองซังลึกๆ แวบหนึ่ง นัยน์ตาฉายแววทะมึนทึบทีละน้อย
“เจ้าพูดอะไร? พูดอีกรอบ อาจารย์ได้ยินไม่ชัด” ซูเซวียนอีกล่าวราบเรียบ น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่มีความน่าเกรงขาม ราวกับความสงบนิ่งก่อนเกิดพายุฝน
“ท่านเคยรับปากข้าว่าจะไม่ทำร้ายซูหมิง!” ซังตัวสั่นเล็กน้อย แรงกดดันจากซูเซวียนอีทำให้เขารับมือได้ยากยิ่ง แต่เขาก็ยังกัดฟันพูดกับซูเซวียนอีไปทีละคำ
“ซัง เจ้าเกิดความเมตตาของผู้อาวุโสต่อเด็กคนนี้จริงๆ แต่เขาแซ่ซู เขาคือชาว เผ่ายมโลก เช่นนั้นก็ต้องเตรียมตัวเสียสละเพื่อเผ่ายมโลก ข้ารับปากเจ้าได้ และก็รับปากเขาได้เช่นกันว่าข้าจะเติมเต็มให้ ข้าจะเติมเต็มทุกอย่างให้ในตอนจบ!
และสิ่งที่ข้าอยากให้พวกเจ้าทำคือเชื่อ เชื่อทุกอย่าง มอบชีวิตรวมถึงโชคชะตาให้กับข้า สักวันหนึ่งข้าจะทำตามสัญญาของข้า จะเติมเต็มทุกอย่างให้” ซูเซวียนอีเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดเสียงเบาด้วยสีหน้าซับซ้อน
“ศิษย์เชื่อมาตลอด อดีตใช่ ตอนนี้ใช่ อนาคตก็จะใช่ แต่ข้าขออย่างเดียว อย่าทำร้ายเขาอีก ปล่อยเขาไปเถอะ ท่านเคยรับปากข้าแล้ว….” ซังพูดเสียงเบาด้วยสีหน้าขมขื่น
ซูเซวียนอีเงียบ เขาเงียบอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาวที่มีพายุหมุนไปราวหนึ่งก้านธูป
“หากไม่ล่ะ” ซูเซวียนอีเอ่ยเรียบๆ เสียงดังไปเนิบช้ากลางพายุหมุน ทำให้ซังมีสีหน้าเด็ดขาด
“หากอาจารย์ไม่ทำตามสัญญา เช่นนั้นศิษย์…..ก็คงไม่กล้ายืนยันว่าจะทำตามสัญญาโดยการช่วยอาจารย์ให้สำเร็จในแผนการขั้นตอนที่สองเช่นกัน” ทันทีที่ซังตอบกลับด้วยประโยคนี้ ซูเซวียนอีหมุนตัวกลับ ดวงตาดุจสายฟ้า ผ่านไปพักใหญ่เขาก็ยิ้ม
“ข้ารับปากเจ้าแล้วก็ต้องทำตามอยู่แล้ว” ซูเซวียนอีตอบกลับ เขาไม่ตามหาซูหมิงอีก แต่ยกมือขวาขึ้นทำสัญลักษณ์มือโบกไปทางอากาศ ทันใดนั้นในมวลอากาศฟ้าที่เต็มไปด้วยพายุหมุนปรากฏอักขระซับซ้อนขึ้น อักขระนี้ขยับแสงวูบวาบติดกันหลายครั้งแล้วก็หายไป
ขณะเดียวกัน กลางฟ้ากระจ่างดาวที่ห่างจากที่นี่ไปไกลยิ่ง ยังคงเป็นในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ในพื้นที่อดีตใจกลางพันธมิตรเผ่าเซียน ตรงต้นกำเนิดพายุหมุนครั้งนี้ ตรงจุดลำแสงเชื่อมสวรรค์ในอดีต ซูหมิงที่ทำการยึดร่าง กินและต่อสู้กับซิงจี๋เต้าเป็นครั้งแรกรู้สึกเหมือนจิตใจถูกคลื่นสั่นไหว ฉับพลันนั้นเมล็ดพันธุ์แห่งการ ทำลายล้างชีวิตครึ่งหนึ่งที่ใกล้จะสมบูรณ์กลางวิญญาณเขาเกิดการสั่นไหวขึ้น
จากนั้นวิญญาณซูหมิงถูกแรงดูดมหาศาลสูบเข้าไป จนวิญญาณเขาหดเล็กลงมากกว่าสามส่วน ความเร็วในการฟื้นฟูของเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตพลันเพิ่มขึ้น
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่ซูหมิงกำราบจิตแรกซิงจี๋เต้าด้วยพลังการยึดร่าง!
ทางด้านซูหมิง หลังวิญญาณถูกเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตสูบไปสามส่วนแล้ว ความรู้สึกอ่อนแออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนผุดขึ้นมาในใจ และยังมีความเพ้อฝันที่เสี้ยวสุดท้ายในใจแตกสลายของเขายังไม่เชื่อเรื่องนี้กับความเจ็บปวดลึกๆ
เป็นหนึ่งลมหายใจนี้เอง เมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตเหมือนถูกคนเร่งรัดจากที่ห่างไกล มันสูบกินอีกครั้ง สูบจนวิญญาณซูหมิงหายไปสามส่วนในครั้งเดียว!
ดังนั้นแล้ว วิญญาณเขาจึงถูกสูบหายไปมากกว่าครึ่ง แสงประหลาดเปล่งจากเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตแผ่ขยายเป็นม่านแสงกลางวิญญาณเขา เห็นได้ชัดเลยว่าเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตกำลังจะสมบูรณ์แบบ กำลังเติบโตอย่างเร็วไว ดูจากลักษณะแล้วขอเพียงสูบอีกเล็กน้อยก็จะทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตครึ่งหนึ่งสมบูรณ์
ซูหมิงมองภาพนี้เงียบๆ เขาไม่ต่อต้านและไม่ดิ้นรน ทุกอย่างในความรู้สึกเขาตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้อง เหมือนกับฝันในวัยเยาว์ ตอนนี้ใกล้จะตื่นจากฝันแล้ว แต่เขา…ก็เติบโตเต็มที่แล้วเช่นกัน
ขณะเงียบอยู่นี้ ซูหมิงมองเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตสั่นไหวก่อนเกิดการสูบครั้งที่สามขึ้นอย่างบ้าคลั่ง การสูบครั้งนี้กินวิญญาณเขาไปมากกว่าสามส่วน ตอนนี้จึงเหลือเพียงเสี้ยวหนึ่ง ส่วนอื่นๆ ถูกสูบไปจนหมดแล้ว แทบเป็นทันทีที่วิญญาณ เก้าส่วนเก้าถูกสูบไป ในที่สุดเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตก็สมบูรณ์แบบ รูปปั้นคล้ายเรือครึ่งหนึ่งเต็มไปด้วยพลังมหาศาล ทั้งยังแฝงไว้ด้วยดวงจิตของทุกสิ่งมีชีวิต เมื่อมันสมบูรณ์แล้ว….ก็หลุดออกจากวิญญาณซูหมิง บินออกจากร่างเขา ขยับวูบวาบออกจากแหวนสีขาว มุ่งหน้าไปยังพายุหมุนมวลอากาศ
ซูหมิงมองภาพนี้ มองเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตจากไป ราวกับอดีตของเขาถูกเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตทำลายไปแล้ว นับจากนี้เขาในอดีตตายไปแล้ว แต่คนที่รอดมาได้คือคนที่มักจะชอบอยู่เงียบๆ ไม่ยอมเผยใบหน้า กลายเป็น คนแปลกหน้าในสายตาทุกคน
วิญญาณเขาไม่ได้ถูกสูบจนหมด แต่ยังเหลืออีกเสี้ยวหนึ่ง แต่ก็แค่เสี้ยวเดียวเท่านั้น หากเขาไม่ได้โชควาสนาอื่นๆ เขาอาจจะไม่ตาย ทว่าชีวิตเขาจะอ่อนแออย่างยิ่ง จนกระทั่งกลายเป็นคนธรรมดา ซ้ำยังลืมอดีตทุกอย่าง
ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเสี้ยววิญญาณ สู้บอกว่ามันเป็นเสี้ยวพลังชีวิตดีกว่า เป็นพลังชีวิตที่ซูเซวียนอีมอบให้เขา ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าพลังชีวิตนี้ ท่านปู่ของเขาเป็นคนแลกมาให้
แต่สำหรับซูหมิงแล้ว มีหรือไม่มีเสี้ยวพลังชีวิตนี้ไม่สำคัญ หากไม่มี เขาก็ยังผงาดขึ้นมาได้ แต่หากมีจะทำให้เขาผงาดขึ้นได้เร็วยิ่งกว่าเดิม
“ซูหมิงตายแล้ว จากนี้ไป….ข้าคือโม่ซู!” ซูหมิงมองเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตบินไปไกล มองมันหายไปในพายุหมุนพลางพึมพำ
เขาหลับตาลงช้าๆ เขาเสียวิญญาณเก้าส่วนเก้าไป ตอนนี้ชายชราชุดคลุมดำพลันถูกซูหมิงลบดวงจิตไป เหลือแต่เพียงวิญญาณบริสุทธิ์ให้หลอมรวม
ขณะเดียวกันวิญญาณแห่งต้นกำเนิดของซูหมิงเสี้ยวหนึ่งนี้เป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ ถึงจะบอกว่าหลอมรวมแต่ความจริงแล้วมันกำลังสูบวิญญาณชายชราชุดคลุมดำอย่างบ้าคลั่ง เปลี่ยนให้กลายเป็นสารอาหาร ทำให้เมล็ดพันธุ์นี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
เวลาผ่านไปช้าๆ ภายใต้การสูบอย่างต่อเนื่องและกินในระดับสูงสุด วิญญาณคน ชุดคลุมดำหดเล็กลงเรื่อยๆ แต่วิญญาณซูหมิงกลับมากขึ้นเรื่อยๆ
จนวิญญาณชายชราชุดคลุมดำถูกซูหมิงกินไปจนหมดแล้ว วิญญาณเขาก็ฟื้นฟูกลับมาเกือบหกส่วนจากจุดสูงสุดก่อนหน้านี้
นี่ไม่ใช่ว่าวิญญาณชายชราชุดคลุมดำอ่อนแอเกินไป ถึงอย่างไรขั้นพลังเขาก็เหนือกว่าซูหมิงไปไกล แต่ในการกินของวิญญาณจะต้องมีการสูญเสียอยู่แล้ว อีกทั้ง ซูหมิงไม่ได้หลอมรวมอย่างบริสุทธิ์ แต่อาศัยวิญญาณชายชราชุดคลุมดำมาบำรุง ดังนั้น เมื่อขับสิ่งเจือปนออกไปแล้ว วิญญาณซูหมิงเลยฟื้นกลับมาได้เกือบหกส่วน
นี่เปรียบได้กับแผ่นดินที่เต็มไปด้วยน้ำ ภายในมีเมล็ดพันธุ์หนึ่ง เมื่อมันเติบโตขึ้นก็จะกินน้ำในแผ่นดิน จนเมื่อมันเติบโตอย่างเต็มที่แล้ว หากมันสูบน้ำในแผ่นดินทั้งหมด แผ่นดินนี้ก็จะกลายเป็นทะเลทราย
ทะเลทรายก็คือแผ่นดิน แต่หากเปรียบกับวิญญาณชายชราชุดคลุมดำแล้ว จะมองว่าเป็นทะเลทรายก็ได้ เป็นวัตถุเจือปนกลางวิญญาณ
ครั้นสูบวิญญาณชายชราชุดคลุมดำแล้ว ซูหมิงหลับตาลง ไม่มองซิงจี๋เต้าที่ถูกเขากำราบไปก่อนหน้านี้แม้แต่น้อย
ซิงจี๋เต้ายังคงต่อต้านอย่างเสียสติ แต่ซูหมิงฉวยโอกาสเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วจึงได้เปรียบกว่า เขาเพียงให้ความได้เปรียบคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เท่านี้ก็จะใช้พรสวรรค์ ยึดร่างกำราบซิงจี๋เต้าได้ตลอด
ผ่านการยึดร่างติดกันสองครั้งมา ถึงซูหมิงจะเป็นเผ่ายมโลก แต่นี่ก็บ้าระห่ำอย่างยิ่ง ทว่าเขาในเวลานี้ไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น เขาต้องมีชีวิตรอด ต้องใช้ชีวิตให้ดี ต้องใช้อีกชีวิตของตนโค่นล้มโชคชะตาตัวเอง
ในเวลาเดียวกัน ห่างจากที่นี่ไปไกลมาก นอกสำนักดาราสัจธรรม กลางพายุหมุนฟ้ากระจ่างดาวที่ซูเซวียนอีอยู่ เมื่อเขาทำสัญลักษณ์มือขวาโบกไปแล้ว อักขระซับซ้อนนั้นขยับวูบวาบสามทีแล้วก็ลอยนิ่งอยู่ข้างนอก ทว่าผ่านไปราวหลายสิบลมหายใจ ก็มีสายรุ้งยาวพุ่งเข้ามาจากที่ไกลๆ ด้วยความเร็วเหนือกว่าการเคลื่อนย้ายพริบตา
ในสายรุ้งยาวนั้นมีวัตถุเปล่งแสงหม่นกลุ่มหนึ่ง ความเร็วของมันเหนือเกินกว่า จิตสัมผัสจะสังเกตเห็น พริบตาเดียวก็มาปรากฏอยู่ข้างอักขระนั้นก่อนหลอมรวมเข้าด้วยกัน เมื่อวัตถุนี้หยุดลง สิ่งที่ปรากฏในสายตาซูเซวียนอีกับซังก็คือเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตของซูหมิง เป็นวัตถุรูปปั้นคล้ายเรือครึ่งหนึ่ง!
ซังมองสิ่งนี้ด้วยแววตาเจ็บปวด แต่ซูเซวียนอีกลับยังคงมีแววตายึดมั่น เขายกมือขวาขึ้นช้าๆ แล้วคว้าไปยังรูปปั้นคล้ายเรือหรือเมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างชีวิตครึ่งหนึ่ง ทันใดนั้นสิ่งนี้ก็ทะลวงผ่านกาลเวลาบิดเบี้ยวรอบตัวซูเซวียนอีมาอยู่กลาง มือเขาแล้วถูกคว้าเอาไว้
“ซูหมิงยังไม่ตาย ข้าทำตามสัญญากับเจ้าแล้ว” ซูเซวียนอีโบกมือขวาเก็บ เมล็ดพันธุ์แห่งการทำลายล้างไป ก่อนเงยหน้ามองผืนฟ้าไกลๆ
“ไปเถอะ เราควรออกจากโลกแท้จริงดาราสัจธรรมแล้ว ให้อาจารย์พาเจ้าไป โลกแท้จริงของข้า” ซูเซวียนอีเดินอากาศไปหนึ่งก้าว ร่างเงาพลันหายไป ซังตามหลังอยู่เงียบๆ ก่อนจะหายไปเขายังหันกลับไปมองทอดไกลด้วยความซับซ้อน แต่ไม่นานนักนัยน์ตาเขาก็ฉายแววเด็ดขาดที่ซูเซวียนอีมองไม่เห็น