ตอนที่ 1165 ฝ่ายเงามืด
ณ โลกแท้จริงดาราสัจธรรม พื้นที่กว้างโล่งที่ถูกปกคลุมด้วยระลอกคลื่นสีขาวซึ่งเป็นจุดที่ซูหมิงอยู่ เขานั่งขัดสมาธิอยู่ตรงขอบอาคมเคลื่อนย้าย สายตาเพ่งมองลูกกลมสีขาวในมือ
มีเสียงร้องดังมาจากในลูกกลมนี้ ในน้ำเสียงมีความบ้าคลั่งและดุร้าย เหมือนอยากจะพุ่งออกจากมือขวาหมายจะกินเขา ทว่ามือขวาเขาเป็นดั่งผนึกขัง ลูกกลมสีขาวเอาไว้แน่น ไม่ว่ามันจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์
‘ต้องไม่ใช่ของโลกนี้แน่ๆ’ ดวงตาซูหมิงขยับประกายวาว ยิ่งศึกษาสิ่งนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงความแปลกของลูกกลมเล็กสีขาว ภายในลูกกลมนี้มีหนอนตัวเล็กทั้งหมดเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าตัว ทุกตัวไม่มีจิตสำนึก แต่ที่น่าประหลาดคือตอนที่พวกมันรวมเข้าด้วยกันกลับเหมือนมีจิตสำนึกเสี้ยวหนึ่ง
จิตสำนึกนี้เบาบางมาก เมื่อจิตสัมผัสซูหมิงสัมผัสกับมันก็รู้สึกทันทีว่าในจิตสำนึกบางมีความอันตรายและบ้าคลั่งเหลือล้นส่งออกมา
ความอันตรายนี้เหมือนจะกินจักรวาล ส่วนความบ้าคลั่งคือถึงแม้จะเผชิญหน้ากับผู้สูงส่งในจักรวาลมันก็จะไม่มีทางยอมศิโรราบ
“นี่คือไข่แมลง!” ดวงตาซูหมิงเป็นประกายวาววับพลางพูดกับตัวเองเบาๆ
เขาสังเกตเห็นพลังชีวิตหนึ่งในจิตสำนึก พลังชีวิตนี้ก็อ่อนเหมือนกับจิตสำนึก แต่กลับให้ความรู้สึกว่าสามารถเติบโตได้ไม่มีสิ้นสุด
‘น่าสนใจ กระจายออกเป็นเกือบแสนส่วน ให้ทุกส่วนไม่มีจิตสำนึก แต่เมื่อรวมกันแล้วกลับกำเนิดจิตสำนึกอ่อนๆ ในเมื่อสิ่งนี้ไม่ใช่ของโลกนี้ เช่นนั้นก็มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นของฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนหรือไม่ก็เงามืดรุ่งอรุณ…’
ซูหมิงตรึกตรองอยู่ชั่วครู่ ฉับพลันนั้นบีบมือขวาอย่างแรง ขณะเดียวกันยังเปลี่ยนจิตสัมผัสให้กลายเป็นพายุคลั่งถาโถมเข้าไปในลูกกลมสีขาว ใช้พลังรุนแรงทำลายล้างจิตสำนึกทุกอย่างในนั้น
เกิดเสียงดังปุงปังมาจากในลูกกลมเล็กทันที ภายในเสียงเหมือนมีเสียงร้องแหลมที่มีเพียงจิตสัมผัสที่ได้ยิน ครู่ต่อมา มีควันดำลอยโชยมาจากในลูกกลมสายหนึ่ง เมื่อหายไปแล้ว ลูกกลมเล็กก็ไม่ใช่สีขาวอีก แต่กลายเป็นสีเทามัวหมอง
พร้อมกันนั้น แทบเป็นช่วงที่ซูหมิงทำลายจิตสำนึกในลูกกลมสีขาว ภายในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม ตรงส่วนลึกพายุหมุนไม่มีขอบเขต ใต้ช่องโหว่มหาโลกสามรกร้าง กลางอากาศที่เต็มไปด้วยพายุหมุน มีเสียงคำรามแหลมดังแว่วมา
หากมองผ่านเสียงคำรามนั้นเข้าไปในพายุหมุนได้ จะเห็นว่าตรงส่วนลึกของพายุหมุนมีวัตถุใหญ่อันหนึ่งโผล่มาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ มันคือตั๊กแตนที่ถูกขยายใหญ่ไม่รู้กี่เท่า ความใหญ่ของมันเทียบเท่ากับเทพโบราณ
ตั๊กแตนตัวนี้กำลังวางไข่ ข้างหลังมีลูกกลมเล็กสีขาวที่ถูกเส้นถี่กลุ่มใหญ่เชื่อมเข้าด้วยกัน จำนวนของลูกกลมเล็กเหล่านี้มีราวๆ หลายหมื่นลูก ถูกเชื่อมติดกันแน่นขนัด ซ้ำแล้วทั้งหมดยังขยับยึกยัก ดูแล้วน่ากลัวขนหัวลุก
ยามนี้มันกำลังร้องคำราม ดวงตาในขณะคำรามมีความโกรธและบ้าคลั่ง เสียงอื้ออึงพลันดังก้องมาจากตัวมัน
“เป็นใคร ใครสังหารตัวอ่อนของฝ่ายเงามืดข้า!” ขณะตั๊กแตนร้องคำราม ดวงตายังเผยประกายดุร้าย สายตามองมวลอากาศ ผ่านไปพักใหญ่ ในดวงตาปรากฏร่างเงาซูหมิงขึ้นมา
“คนนี้…คนจากฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืน คนศักดิ์สิทธิ์หวนคืนล้วนสมควรตาย!” ตั๊กแตนเงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้า พลังทั่วร่างแผ่กระจายออก ความแกร่งของพลังทำให้ผืนฟ้าสั่นไหว นั่นคือพลังที่เหนือกว่าผู้ยิ่งใหญ่ แม้ยังไม่ถึงขั้นไม่อาจกล่าว แต่ก็น่ากลัวอย่างยิ่ง
ขณะกำลังจะพุ่งออกไปนั้น พลันมีโซ่สีทองเส้นหนึ่งพุ่งออกมาจากในช่องโหว่มวลอากาศข้างหลังมัน ก่อนฟาดใส่มันดังปังจนมันตัวสั่นไปทั่วร่าง
“โซ่แห่งมหาโลกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนสมควรตาย หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ขวางการ มาเยือนของข้า ข้าคงปกครองมหาโลกสามรกร้างไปได้นานแล้ว สหายทุกท่านแห่ง เงามืดรุ่งอรุณ พวกเจ้ามัวทำอะไรอยู่ พวกเจ้าให้ข้าลงมาใช้โอกาสนี้ช่วงชิงโอกาสก่อน แต่หากไม่เอาโซ่แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนออกไป ข้าจะลงมาอย่างสมบูรณ์ได้อย่างไร!” ตั๊กแตนเงยหน้าตะโกนขึ้นฟ้า เสียงข้ามผ่านช่องโหว่นั้น ไม่รู้ไปสู่ที่ใด
ตอนนี้เองโซ่สีทองนั้นพลันขยับแสงสีทองวิบวับ มันไม่เพียงแต่ไม่หายไป แต่ยังพุ่งตรงมายังตั๊กแตนด้วยความเร็วยิ่งกว่าเดิม ดูจากท่าทางแล้วเหมือนอยากจะบดทำลายมัน
“สมควรตาย สมควรตาย ฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนกำลังลงมือ!” ตั๊กแตนตัวนั้นมี สีหน้าคลุ้มคลั่ง เห็นโซ่เหล็กเข้ามาใกล้ มันก็ตะโกนเสียงดัง ร่างระเบิดตัวเองก่อนที่โซ่จะมาถึง กลายเป็นหลายหมื่นส่วนหลอมรวมเข้าไปในไข่แมลงหลายหมื่นลูกข้างหลัง ไข่แมลงในลักษณะลูกกลมเล็กสีขาวเหล่านี้ก็สั่นไหวพร้อมกันแล้วแตกออกทั้งหมด กลายเป็นหลายหมื่นส่วนกระจายออกไปรอบๆ
โซ่สีทองนั้นตวัดเข้ามา ฟ้าดินเกิดเสียงดังสนั่น จักรวาลพังพินาศ ลูกกลมหลายหมื่นมีเก้าส่วนระเบิดกระจายออก แต่ก็ยังมีอีกหลายร้อยลูกที่หายไปในมวลอากาศหลังกระจายกันออกไป
“โชคดีที่หลังข้ามาถึงที่นี่แล้วก็เริ่มวิชาแยกร่างเอาไว้ ฝ่ายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนสมควรตาย ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งพวกเจ้าต้องตาย!” ตอนที่มีน้ำเสียงบ้าคลั่งดังแว่วมาจากในฟ้ากระจ่างดาว โซ่เหล็กสีทองนั้นตวัดเข้ามาอีกครั้ง เกิดเป็นระลอกคลื่นสีทองเหมือนอยากจะกวาดล้างลูกกลมเล็กสีขาวหลายร้อยลูกนั้นที่หนีไป ทว่าทันทีที่ตวัดเข้ามา พลันมีเสียงหึเย็นชาดังมาจากตรงช่องโหว่ของมหาโลกสามรกร้าง
ขณะเดียวกันมีแขนประหลาดคล้ายหนวดปลาหมึกตวัดออกมาปะทะกับโซ่เหล็กสีทองในทันใด เกิดเป็นเสียงดังสนั่น
“การต่อสู้ระหว่างพวกเรายังไม่จบ มหาสงครามระหว่างเงามืดรุ่งอรุณกับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์หวนคืนยังดำเนินอยู่ หากเจ้ากล้าเบนความสนใจต่อไป บางทีเจ้าอาจต้องตายในสงครามนี้!”
คนที่ตอบกลับเสียงนี้คือเสียงหึเย็นชาของสตรี แต่โซ่เหล็กสีทองกลับหายไป รวมถึงกลิ่นอายพลังของสองคนนี้ก็หายไปจากช่องโหว่สามรกร้างด้วย กลับไปเริ่มมหาสงครามชิงช่องโหว่นี้กันต่อ!
แทบเป็นขณะเดียวกับที่ที่นี่เกิดการต่อสู้ประหลาดขึ้นและลูกกลมสีขาวหลายร้อยลูกนั้นลอยไปในพายุหมุน พวกมันต่างพุ่งไปหลายทิศทาง มุ่งหน้าไปยังสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ใกล้พวกมันมากที่สุดอย่างเร่งรีบ
ขอเพียงพวกมันได้สัมผัสร่างสิ่งมีชีวิต พวกมันจะเป็นกาฝากทันที หลังบำรุงตัวเองแล้ว ตอนที่พวกมันรวมกันใหม่อีกครั้งก็จะฟื้นกลับมาเป็นร่างตั๊กแตนนั้น
เพียงแต่ว่าอาจจะมีผลน้อยลงเล็กน้อยกับผู้ฝึกฌาน ทว่าหากให้เวลามัน มันจะทำการสังหารและเซ่นไหว้ จนสามารถฟื้นพลังกลับมาจนถึงจุดสูงสุดได้ในเวลาสั้นๆ
ลูกกลมสีขาวหลายร้อยลูกนี้มิได้หยุดอยู่ที่โลกแท้จริงดาราสัจธรรมทั้งหมด แต่มีไม่น้อยที่กระจายข้ามผ่านโลกไปยังอีกสามโลก
“สังหาร ข้าต้องสังหาร ข้าต้องการความหวาดกลัวตอนที่สิ่งมีชีวิตเหลือคณานับตาย มีแต่แบบนี้เท่านั้นข้าถึงจะฟื้นกลับมาได้เร็วที่สุด และสร้างกองทัพตั๊กแตนของข้าในโลกข้างล่างคุณภาพต่ำนี้ได้!” เสียงคำรามค่อยๆ หายไปพร้อมกับลูกกลมสีขาวเล็กหลายร้อยลูกพุ่งออกไป
ผ่านเรื่องนี้ไปราวหนึ่งวัน กลางฟ้ากระจ่างดาวทางทิศเหนือของโลกแท้จริง ดาราสัจธรรม คู่ชีวิตเฉินเหวินกับซือหม่าอวี้มองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าจริงจัง รอบตัวพวกเขามีผู้ฝึกฌานสวมเสื้อคลุมแดงหลายพันคน คนเหล่านี้ล้วนมีสีหน้าเฉยชาและเย็นชาไม่มีหมดสิ้น พลังจากทุกคนล้วนไม่ธรรม และที่น่าตกใจกว่านั้นคือกลิ่นอายมารกับความเจนจัดในสงครามจากตัวพวกเขา
บางทีพวกเขาคนเดียวอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคู่ชีวิตเฉินเหวิน ถึงจะเป็นสิบคน ร้อยคนก็ยังไม่ใช่ แต่มากกว่าพันคนนี้ กลิ่นอายพลังพวกเขารวมเข้าด้วยกันสร้างขึ้นเป็นกลิ่นอายพลังน่าตะลึง ซึ่งมันทำให้เฉินเหวินเกิดความรู้สึกอันตรายในใจ
โดยเฉพาะการหลอมรวมกลิ่นอายพลังของคนหลายพันคนทำให้ความรู้สึกถึงอันตรายในใจคู่ชีวิตเฉินเหวินเด่นชัดยิ่งกว่าเดิม
“สหายทุกท่านคือผู้ฝึกฌานแห่งห้องโถงสงครามสำนักดาราสัจธรรม ขอให้ผู้นำพวกเจ้าออกมาคุยกันด้วย” เฉินเหวินเก็บความโอหังของยอดฝีมือไป เพียงแค่กล่าวอย่างละมุนละม่อม
ทว่าโดยรอบกลับเงียบ ไม่มีใครตอบ หลายพันคนที่นี่ล้วนมีสีหน้าไร้อารมณ์ สายตามองพวกเฉินเหวินสองคนอย่างเย็นชา
“ฆ่า” เสียงเรียบนิ่งซึ่งมีความหนาวเยือกไม่มีสิ้นสุดแฝงไว้ดังเนิบนาบมาจาก ข้างหลังกลุ่มผู้ฝึกฌาน
แทบเป็นช่วงที่เสียงนี้ดังขึ้น ผู้ฝึกฌานหลายพันคนขยับตัวประหนึ่งตื่นจากการหลับใหล พลันมีกลิ่นอายพลังประหลาดเพิ่มมาจากในตัวพวกเขาทุกคน กลิ่นอายพลังนี้ไม่เหมือนเกิดจากวิชาของผู้ฝึกฌาน แต่เหมือนอภินิหารประหลาดของชนเผ่าเหล่านั้นในทะเลดาราต้นกำเนิดจิต
ช่วงที่กลิ่นอายพลังนี้ปะทุ ผู้ฝึกฌานหลายพันคนดวงตาแดงก่ำ พลังพวกเขายังเพิ่มขึ้นพร้อมกัน ขณะเดียวกันยังส่งเสียงคำรามสะเทือนฟ้าดิน
“ฆ่า!” สิ้นเสียง คู่ชีวิตเฉินเหวินสองคนหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกันคนหลายพันเดินหน้าหนึ่งก้าวพร้อมกัน กลิ่นอายมารพุ่งทะยานขึ้นฟ้า เกิดเสียงครึกโครมกึกก้อง ขณะที่กำลังจะปะทุนั้น เฉินเหวินปล่อยพลังมาแล้ว ส่วนคู่ชีวิต ซือหม่าอวี้ข้างๆ หน้าเปลี่ยนสีและพูดขึ้นด้วยเสียงเล็ก
“วันนี้พวกข้าสองคนเป็นตัวแทนจากยอดเขาลำดับเก้าซึ่งเป็นสำนักเดียวในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมมาเชื้อเชิญทุกท่าน เจ้านายของข้าเป็นผู้ฝึกฌานจากโลกข้างบน พลังเหนือกว่าที่พวกเจ้าจินตนาการ หากพวกเจ้ายังดึงดันลงมือ จะต้องเจอกับ มหันตภัยทำลายล้าง!”
แทบเป็นช่วงที่ซือหม่าอวี้กล่าวประโยคนี้ออกไป ผู้ฝึกฌานหลายพันคนรอบๆ เผยจิตสังหารพร้อมกับพุ่งเข้ามาแล้ว ทว่าตอนนี้เอง เสียงที่ดังมาจากข้างหลังกลุ่มคนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“หยุด!”
คำคำนี้ทำให้ผู้ฝึกฌานหลายพันคนนั้นหยุดชะงัก ท่าทางเป็นระเบียบแบบนี้ พอเฉินเหวินเห็นแล้วยังต้องหรี่ตาแคบลง
ต่อมา กลุ่มผู้ฝึกฌานตรงหน้าเฉินเหวินกับซือหม่าอวี้ต่างแยกออกเป็นสองข้าง เผยเป็นรอยแยกไปสู่โลกข้างนอก ก่อนมีร่างเงาสูงใหญ่เดินมาจากในรอยแยกนั้นช้าๆ
ในมือร่างเงานี้ถือขวานสงครามยักษ์ เขาก้าวเท้ายาวมา ร่างกายสูงใหญ่เต็มไปด้วยกลิ่นอายมารไม่อาจบรรยาย ทว่าเขา…กลับไม่มีหัว!
ร่างเงาน่าสะพรึงกลัว พลังในตัวเขายังมีระลอกคลื่นประหลาด ดูแล้วเหมือน ยอดฝีมือ แต่ก็ไม่ใช่ ทำให้คู่ชีวิตเฉินเหวินสองคนอดเพ่งมองไปมิได้
ทว่าทันทีที่สองคนนี้เห็นคนไม่มีหัวเดินมา พวกเขากลับหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกัน ก่อนมองหน้ากันและกันแล้วหยิบแผ่นหยกที่ซูหมิงมอบให้ออกมาเปรียบเทียบอย่างละเอียด