Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1195

ตอนที่ 1195 ตัวเลขหกตัวนั้น

“ข้าคือเทพหมาน!” ซูหมิงเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ยามนี้กลิ่นอายพลังของเขาพลันปะทุขึ้น พลังในร่างกายหมุนโคจรอย่างเร็วไวส่งผลให้เส้นผมยาวปลิวไสว มังกรยาว สีแดงที่เขามองไม่เห็นส่งเสียงคำรามไร้เสียงพร้อมพุ่งขึ้นฟ้าไปประหนึ่งอยู่มาก่อนหน้าซูหมิงไม่รู้กี่ปี

“หมาน!”

“หมาน!”

“หมาน!” ร่างเงาวิญญาณสิบล้านดวงรอบๆ ต่างส่งเสียงตะโกนแบบนี้พร้อมกัน เสียงนี้ผสานรวมกับเสียงคำรามมังกรยาว ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนที่แม้ซูหมิงจะไม่ได้ยิน แต่ชายชรากลับหรี่ตาลงอีกครั้ง

เขาถอยไปข้างหลัง ในดวงตาปรากฏเงาซ้อนทับในเวลาต่างกันสองช่วง หนึ่งเกิดในยุคโบราณ อีกหนึ่งคือตอนนี้ ชาวเผ่าหมานใหญ่ในอดีตกับซูหมิงในปัจจุบัน เวลานี้ด้วยความที่มี

การชี้นำเผ่าในตัวซูหมิงจึงเกิดเป็นความรู้สึกร่วมกัน และเกิดสิ่งที่เหมือนกับการเคลื่อนย้ายของเวลา

เวลานี้พลังซูหมิงปะทุขึ้นถึงจุดสูงสุด ความมั่นใจของเขาแน่วแน่ยิ่ง เขายืนอยู่บนแท่นยกระดับวิญญาณ ถึงจะมองไม่เห็นความผิดปกติรอบๆ แต่เขารู้สึกรางๆ เหมือนว่ามีสายตานับไม่ถ้วนกำลังมองตน ในสายตาเหล่านั้นมีการเฝ้ารอคอย มีความตื่นเต้น และมีความรู้สึกร่วมกันที่ทำให้เขาเกิดความยึดมั่น

“ตอนข้าเกิดชีวิตข้าไม่มีความหมาย หลังข้าเกิดหมานเสื่อมถอยแล้ว ฟ้าไม่มีเมตตาสร้างสงครามวุ่นวายจนผู้คนต้องเร่ร่อน ปฐพีไม่มีเมตตาให้เขาทมิฬของข้าต้องถูกทำลาย…” ซูหมิงพึมพำ ภายใต้สภาพแวดล้อมและโอกาสแบบนี้ ในพริบตาที่เขาเลือกเผ่าหมานใหญ่และเอ่ยไปว่าตนเป็นเทพหมานนั้น เขานึกถึง…เพลงเทพหมานบทนี้

เมื่อคำพูดพึมพำดังกังวานไป ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ซึ่งอยู่ไม่ไกลมีสีหน้า ตกตะลึงอีกครั้ง เพราะเขาพบว่าตอนที่ซูหมิงพูดไปสี่ประโยค มังกรยาวสีแดงตัวนั้นคำรามเสียงดังยิ่งกว่าเดิม วิญญาณสิบล้านดวงรอบๆ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นหลายสิบล้านดวง กระทั่งในวิญญาณสิบล้านดวงยังมีร่างเงาที่ชายชราคุ้นเคยอยู่เล็กน้อย

ฟ้าดินสั่นสะเทือน ท้องฟ้าบิดเบี้ยว แผ่นดินเกิดเสียงครึกโครม ระลอกคลื่นกระจายออกเป็นชั้นๆ ราวกับว่ามีพลังมหัศจรรย์อย่างหนึ่งถูกเหนี่ยวนำมาเพราะ ซูหมิง

พลังนี้เดิมทีฝังอยู่ที่นี่ ยามนี้เมื่อถูกเหนี่ยวนำขึ้นมาก็คล้ายกับว่าสองโลกจะหลอมรวมกัน พูดดูซับซ้อน แต่ความจริงหากนำเผ่าหมานใหญ่เมื่อยุคโบราณเปรียบเป็น หนึ่งโลก ยุคสมัยที่ซูหมิงอยู่ปัจจุบันเปรียบเป็นอีกหนึ่งโลก เช่นนั้น…โลกในยุคโบราณเหมือนทะลวงผ่านความว่างเปล่ามา ตื่นจากการดับสูญมายังโลกนี้ หมายจะ หลอมรวมกับยุคสมัยที่ซูหมิงอยู่

นี่ดูมหัศจรรย์ แต่เวลานี้ในสายตาและความรู้สึกชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์เป็นเช่นนี้

‘ยอดเยี่ยมมากเผ่าหมานใหญ่ ยอดเยี่ยมจริงๆ ยอดจ้าวหมานผู้สำเร็จการยกระดับวิญญาณหกครั้ง! รวมถึงการทำนายฟ้าหมานอีกครั้งด้วย!’ ชายชรา เผ่าวิญญาณสวรรค์สูดลมหายใจเข้าลึกด้วยสีหน้าความเคารพ เขามองออกว่าซูหมิงไม่ได้มีเพียงการชี้นำเผ่า ไม่ได้เป็นเพียงความหวังของเผ่าหมานใหญ่ แต่ยังรวมดวงจิตของทั้งเผ่าหมานใหญ่เข้าด้วยกัน การยกระดับวิญญาณ

ของเขาลิขิตเอาไว้แล้วว่าจะต้องไม่ธรรมดา เพราะว่า…เขาไม่ได้ยกระดับวิญญาณคนเดียว เขากับดวงชะตาและดวงจิตของเผ่าหมานหลอมรวมกัน นั่นคือ… ทั้งเผ่าหมานกำลังปกป้องเขาและติดตามเขายกระดับวิญญาณไปพร้อมกัน!

“หากฟ้ามีตาเหตุใดถึงให้โลกของข้ามืดมิดไปชั่วนิรันดร์? หากเทพมีจิตวิญญาณเหตุใดถึงให้ข้าต้องจากบ้านไปไกล? ข้าไม่ผิดต่อฟ้าเหตุใดถึงให้ข้าไม่เห็นสีดำในคืนมืด? ข้าไม่ผิดต่อเทพเหตุใดถึงให้เลือดเนื้อและความทรงจำข้าหายไป!” ซูหมิงพูดเบาๆ เพลงเทพหมานดังก้องทำให้เขาเหมือนเห็นกาลเวลาในอดีต เห็นวิญญาณหลาย สิบล้านดวงรอบๆ และก็เห็นมังกรยาวสีโลหิตตัวนั้นบนฟ้า มังกรตัวนั้นรวมดวงจิตของเผ่าหมาน ขณะมันคำรามยังเหมือนกับว่า…มันก็คือ ซูหมิง

วิญญาณรอบๆ ในยามนี้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่หลายสิบล้านอีก แต่มีเกือบร้อยล้านดวง มากมายไม่มีสุดปลาย อยู่ในเวลาต่างกัน เพียงแต่ชาวเผ่าหมานที่ปรากฏที่นี่ วิญญาณพวกเขาเหมือนได้กลับมาบ้านเกิด เวลานี้หลังปรากฏตัวแล้วต่างพากันเงยหน้าตะโกนและคารวะเทพหมานที่พวกเขารอมานานมาก!

เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ถอยไปอีกครั้ง ลมหายใจกระชั้น ตอนที่ถอยไปและมองซูหมิง สิ่งที่

เขาเห็นคือไม่ใช่ซูหมิงคนเดียวอีก แต่เป็น…วิญญาณของทั้งเผ่าหมาน!

และซูหมิงคือวิญญาณเทพของเผ่าหมาน การปรากฏตัวของเขากลายเป็นต้นกำเนิดที่ให้เผ่าหมานที่นี่คึกคัก ราวกับว่าตอนนี้เผ่าหมานที่หลับใหลและตายไปที่นี่ ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง!

“เงยหน้าร่ำไห้เป็นน้ำตาโลหิต ไฉนต้องเสียดายชีวิตย้อนเวลา! ฟ้าไม่มีตา ข้าจะเหยียบย่ำสวรรค์ใช้ดวงตาผนึกสวรรค์! เทพไม่มีจิตวิญญาณข้าสาบานว่าจะสังหารเทพแล้วขึ้นเป็นจักรพรรดิ!

ดวงชะตารวมอยู่ที่ตัวข้า ข้าจะต้องสังหารสามรกร้าง! วิญญาณหมานผนึกรวมกัน ชีวิตนี้โลหิตจะต้องย้อมนภาเซียน เซียนนับพันนับหมื่นต้องสูญสิ้นไป

ส่งหมานสังหารเพลงนี้ไปให้สุด ใช้ความหมายของมัน…ให้เผ่าหมานผงาดขึ้น!” ซูหมิงเงยหน้าตะโกนเสียงดัง จากนั้นวิญญาณเผ่าหมานร้อยล้านดวงรอบๆ ตะโกนพร้อมกัน มังกรโลหิตบนฟ้าส่งเสียงคำราม ท้องฟ้าเปลี่ยนสี เสียงคำรามของ ชาวเผ่าหมานมากมายรวมถึงของมังกรโลหิตกลายเป็นเสียงเดียวกัน

“เทพหมาน!”

“เทพหมาน!”

“เทพหมาน!”

“ข้าคือเทพหมาน วันนี้จะยกระดับวิญญาณขึ้นเป็นบรรพชน!” ซูหมิงสะบัดแขนเสื้อโบกขึ้นฟ้า มังกรโลหิตพลันร้องคำรามและเอาหัวพุ่งชนฟ้า ท้องฟ้าบิดเบี้ยว ภายใต้เสียงดังสนั่น พลันปรากฏวิหารใหญ่ขึ้นหลังหนึ่ง

นั่นไม่ใช่วิหารเหล่าเทพ แต่นั่นคือวิหารสยบวิญญาณหลังแรก ขณะเดียวกับที่วิหารใหญ่ปรากฏ วิญญาณชาวเผ่าหมานร้อยล้านดวงส่งเสียงคำราม เกิดแสงทองเปล่งวาบไปหมื่นจั้งบนฟ้า ก่อนตามด้วยวิหารเหล่าเทพแท้จริงลงมา

วิหารใหญ่สีทองเต็มไปด้วยซากโครงกระดูก แฝงไว้ด้วยดวงจิตโบราณ และยังเป็นวิหารแห่งการสืบทอดที่เทพบรรพ

ชนแห่งเว่ยในตอนนั้นร่วมมือกันสร้างขึ้น ยามนี้ลงมาเยือนอย่างแท้จริงแล้ว

ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ที่ถูกกลิ่นอายพลังเผ่าหมานใหญ่บีบให้ถอยไกลออกไปตอนนี้มีสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย เขาหวังว่าซูหมิงจะทำสำเร็จ ไม่หวังให้อีกฝ่ายล้มเหลว เพราะหากซูหมิงที่รวมวิญญาณของเผ่าหมานใหญ่ยังล้มเหลว เช่นนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าในสมัยนี้จะมีใครยกระดับวิญญาณสำเร็จอีก

ขณะเดียวกับที่วิหารเหล่าเทพมาถึง พลันปรากฏร่างเงาสีทองขึ้นจำนวนมาก หากไม่นับคนนั้นที่อยู่ยอดสุด ร่างเงาสองพันกว่าคนนี้แบ่งเป็นเก้าแถวประหนึ่งหอคอยอยู่กลางฟ้า กลิ่นอายพลังเก่าแก่แผ่มาจากในวิหารเหล่าเทพกลายเป็น แรงกดดัน และยังทำให้ในดวงตาซูหมิงฉายแววยึดมั่น

แถวล่างสุดเป็นร่างเงาสีทองแปดร้อยแปดสิบเอ็ดคน แรงกดดันแผ่มาจากตัวพวกเขาปกคลุมพื้นดิน รอให้ซูหมิงเลือก

ซูหมิงมองเทพบรรพชนเหล่านั้น ความยึดมั่นในแววตาเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เขารู้ว่าการเลือกครั้งนี้ หากพลาดเท่ากับตาย โอกาสมีเพียงครั้งเดียว

เขามองเทพบรรพชนเหล่านั้น หลังกวาดสายตามองไปเงียบๆ แล้ว สุดท้ายก็มองร่างเงาที่มีพลังแกร่งกว่าเทพบรรพชนคนอื่นมากเหนือเก้าแถวนี้

‘การสืบทอด…ลำดับที่เรียงกันต้องแลกมาด้วยชีวิตของผู้แข็งแกร่งจำนวนมากของทุกเผ่า ปูเป็นเส้นทางเลือดเนื้อสายหนึ่ง…เหล่าบรรพบุรุษลองมาแล้วหลายต่อหลายครั้งจนพบเส้นทางในการยกระดับวิญญาณที่ปลอดภัยที่สุดให้กับชนรุ่นหลัง ผู้สืบทอดสายหนึ่ง

ทว่าลำดับเหล่านี้…’ นัยน์ตาซูหมิงขยับประกายยึดมั่นก่อนขยับวูบไหวไปข้างหน้า เขากระโดดลอยขึ้นจากแท่นยกระดับวิญญาณกลายเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไปยัง ร่างเงาแปดร้อยกว่าคนในแถวล่างสุดของเทพบรรพชนสองพันกว่าคน

เขาทำได้เพียงเดิมพัน เขารู้อยู่อย่างเดียวว่าจะเลือกเทพบรรพชนก่อนหน้าหมายเลขห้าร้อยกว่าไม่ได้ เพราะเขาเคยเห็นบรรพบุรุษของเผ่าหมานล้มเหลวในการยกระดับวิญญาณมาแล้ว แต่จะเห็นได้ชัดว่าเส้นทางโลหิตที่ปูขึ้นจากการลองของชาวเผ่าหนึ่งคนไม่ใช่การเลือกแบบตามอำเภอใจ น่าจะลองไป

เรื่อยๆ ไปตามลำดับ ดังนั้นแล้วซูหมิงจึงมีความมั่นใจครึ่งหนึ่งว่าเทพบรรพชนในห้าร้อยกว่าคนจะต้องล้มเหลวแน่ๆ

แต่ขณะเดียวกัน หากเผ่าหมานในตอนนั้นเริ่มจากท้ายสุด การคาดเดาของเขาก็จะล้มเหลวไม่เป็นท่า ฉะนั้นแล้ว…นี่เท่ากับไม่ได้ชี้แนะอะไรเลย

ทันทีที่ซูหมิงห้อเหยียดเงียบๆ เข้ามาใกล้เทพบรรพชนแถวสุดท้าย ดวงตาเขาพลันเปล่งประกาย เมื่อกวาดสายตามองไปทีละคนแล้วก็กัดฟันพุ่งเข้าไปหาคนหนึ่ง ทว่าขณะเดียวกับที่เข้าใกล้เขากลับหยุดชะงักครู่หนึ่ง ไม่เข้าไปอีกแต่ถอยออกมาจนห่างมาหลายร้อยจั้งแล้วถึงจ้องเทพบรรพชนนอกวิหารเหล่าเทพตาเขม็ง เมื่อครู่นี้เขาพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้น

การถอยของซูหมิงทำให้ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ระหว่างที่มองไปเงียบๆ เขาเห็นซูหมิงเหมือนกำลังตรึกตรอง

“ผู้อาวุโสรู้หรือไม่ว่าชาวเผ่าหมานใหญ่เคยมีผู้สำเร็จการยกระดับวิญญาณมากสุดกี่ครั้ง?” ซูหมิงถามขึ้นทันที เสียงดังก้องไปรอบๆ

“หกครั้ง!” ชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ดวงตาวาววับ เขาตอบกลับทันที

ซูหมิงเงียบ ทว่าดวงตากลับเปล่งประกาย อีกทั้งภายในยังมีการหวนคิด

‘หกครั้ง…หกตัวเลข…ตอนนั้นท่านปู่ก็เคยบอกหกตัวเลขกับข้า เป็นหกตัวเลขนี้ ที่ทำให้ข้าขึ้นภูเขาร่องลมได้สูง…

สามสิบสอง เจ็ดสิบเก้า สองร้อยสี่สิบแปด สามร้อยเจ็ดสิบเอ็ด ห้าร้อยหกสิบสาม เจ็ดร้อยแปดสิบเอ็ด…’ ซูหมิงใจสั่นสะท้าน เขาเงยหน้ามองวิหารเหล่าเทพตาเขม็ง สายตามองเทพบรรพชนลำดับที่เจ็ดร้อยแปดสิบเอ็ดในแถวล่างสุด จากนั้นมองขึ้นไปเรื่อยๆ ตามหมายเลขเหล่านั้น จนกระทั่งมองไปจนถึงแถวที่สาม

‘หรือว่า…’ นัยน์ตาซูหมิงเป็นสมาธิ เขากัดฟันห้อเหยียดเข้าไปอย่างไม่ลังเล… มุ่งหน้าไปยังเทพบรรพชนหมายเลยเจ็ดร้อยแปดสิบเอ็ด

ความเร็วของเขาบ่งบอกถึงความแน่วแน่ในใจ ในเมื่อเป็นการเดิมพัน เขาก็จะยอมเดิมพันกับตัวเลขที่ดูเหมือนธรรมดาเหล่านี้ที่ท่านปู่เคยบอกเขา เกิดเสียงโครม ดังสนั่น ชั่วพริบตาเดียวก็เข้าไปใกล้เทพบรรพชนลำดับที่เจ็ดร้อยแปดสิบเอ็ด อีกทั้งยังหลอมรวมเข้าไปยังเทพบรรพชน ตอนนี้เองชายชราเผ่าวิญญาณสวรรค์ดูเหมือนมี สีหน้าปกติ แต่ในใจกลับตึงเครียดยิ่ง

ยามนี้เสียงคำรามต่ำจากซูหมิงที่มาพร้อมกับเสียงอึกทึกพลันดังกึกก้องไปทั่วฟ้า!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version