ตอนที่ 1254 ห้าสีมาเยือน
ดวงตาชายชราวิญญาณสวรรค์หยั่งลึกลงไป เขามองซูหมิง แต่ก็ไม่ได้ช่วยในทันที หากซูหมิงไม่เลือกข้ามผ่านไปด้วยตัวเอง เขาก็คงช่วย แต่ในใจตัดสินไว้แล้วว่าความสำเร็จของซูหมิงมาได้เท่านี้
คนที่แม้แต่ภัยพิบัติบรรพชนวิญญาณของตัวเองยังไม่กล้าเผชิญหน้า ชีวิตนี้คงไม่มีทางเป็นผู้โดดเด่น สุดท้ายกลายเป็นสามัญชนทั่วไป ไม่เพียงแต่ขั้นพลังไม่ก้าวหน้า แต่ยังค่อยๆ สลายไปด้วย
ดังนั้นเรื่องที่ซูหมิงขอข้ามผ่านภัยพิบัติเองนี้ ในสายตาชายชราวิญญาณสวรรค์ เขามองเห็นถึงความรับผิดชอบต่อตัวเองของซูหมิง คนแบบนี้…น่าสนใจมากว่าจะผ่านภัยพิบัติไปได้กี่ครั้ง
“ภัยพิบัติของเจ้า เพราะมีข้าอยู่เลยต้องต่างจากคนอื่นแน่นอน เพียงแค่ภัยพิบัติครั้งแรกก็เหนือกว่าภัยพิบัติที่ข้าเคยเข้าใจไปอย่างชัดเจน…
อีกอย่าง หากที่นี่ไม่ใช่น้ำวนมรณะหยิน พลานุภาพของมันจะน่ากลัวกว่านี้อีก” ชายชราวิญญาณสวรรค์ขมวดคิ้ว สายตามองซูหมิงที่ถูกสายฟ้าสีแดงพุ่งเข้ามาใกล้
ดวงตาซูหมิงเป็นประกายวาว พอเผชิญหน้ากับภัยพิบัติบรรพชนวิญญาณแก่กล้านี้แล้ว วิชาเคลื่อนย้ายภูผายังยากจะต่อต้านไหว จุดนี้เขาก็คาดการณ์เอาไว้แล้ว ดังนั้นตอนนี้หลังยอดเขาที่ภูเขาแสนลูกซ้อนรวมกันพังลงแล้ว ยังไม่ทันที่สายฟ้าสีแดงจะเข้ามาใกล้ เขาก็ใช้สองมือประสานมุทราตบไปที่หน้าอก
เพียงตบไป ซูหมิงพลันถอยหลังไปหลายก้าว ขณะอ้าปากมีแสงสีม่วงขยับวูบวาบ กระบี่ตัดดวงจิตพุ่งออกมา แสงม่วงสว่างหมื่นจั้งในบัดดล มันห่อหุ้มซูหมิงเอาไว้ข้างในกลายเป็นแสงสว่างจ้าแสบตา ขณะเดียวกันมองไกลๆ เหมือนกับว่าซูหมิงในตอนนี้กลายเป็นกระบี่ใหญ่สีม่วงกลางน้ำวนมรณะหยิน
“ตัดดวงจิต เคลื่อนย้ายภูผา!” ดวงตาซูหมิงเกิดเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก นั่นคือพลังทั่วร่างหมุนโคจรอย่างบ้าคลั่งเพื่อผลักดันกระบี่ตัดดวงจิต ใช้พลังกระบี่เล่มนี้สั่นคลอนฟ้า เชื่อมโลกแท้จริงของเขา เหนี่ยวนำภูเขาสิบล้านลูก แสดงวิชา…เคลื่อนย้ายภูผาที่แกร่งที่สุด
ในสมัยโบราณ กระบี่กับภูเขามีจุดที่เหมือนกันอยู่ เมื่ออยู่ในมือคน ไม้ต้นหลิ่ว วัตถุทอง เงินและเหล็กทำเป็นกระบี่ได้ เมื่ออยู่ในมือสวรรค์ ภูเขาพันลูกบนแผ่นดิน ไม้ยักษ์บนฟ้าล้วนเป็นกระบี่ได้!
ดังนั้นจึงใช้กระบี่เหนี่ยวนำการเคลื่อนย้ายภูผาได้ นี่คือสิ่งที่ซูหมิงคิด เป็นวิธีทำให้อภินิหารเคลื่อนย้ายภูผาแกร่งยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้ขณะที่เขาใช้อภินิหารอย่างไม่ลังเลนั้น ดวงจิตบรรพชนวิญญาณของเขายืดยาวออกจากน้ำวนมรณะหยิน ไปอัดแน่นอยู่ในโลกแท้จริงดาราสัจธรรมสามรกร้างที่ถูกหยุดนิ่ง
เมื่อดวงจิตเขาขยายไป บนดาวผุพังนับไม่ถ้วนที่เคยมีอยู่ในอดีตหรือตอนนี้ยังอยู่ทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรม และยังมีแผ่นดินใหญ่ที่ลอยอยู่รวมถึงยอดเขาพังทลายล้วนเกิดการสั่นสะเทือนเหมือนถูกสูบวิญญาณไป
ซูหมิงสูบวิญญาณของภูเขาทั้งโลกแท้จริงดาราสัจธรรม วิญญาณภูเขาเหล่านี้มาปรากฏรอบตัวเขาในน้ำวนมรณะหยินทันที มีจำนวนแสนลูก ล้านลูก สิบล้านลูก… ไปจนมากกว่าร้อยล้านลูก พวกมันไม่ได้ล้อมเป็นวงกลม มิเช่นนั้นคงจะอัดแน่นอยู่ที่นี่ไม่พอ
ภูเขาเหล่านี้ซ้อนทับกันทีละลูกโดยมีซูหมิงเป็นใจกลาง มีปลายกระบี่ตัดดวงจิตตรงหน้าเขาเป็นยอดภูเขา ภายใต้การซ้อนทับกันอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาเดียวก็เป็น…ภูเขาใหญ่สามร้อยล้านลูก!
ภูเขาใหญ่สามร้อยล้านลูกรวมเข้าด้วยกัน บนยอดเขาสูงสุดที่แฝงไว้ด้วยกระบี่ตัดดวงจิตรวมเป็นวิญญาณภูเขาดาราสัจธรรมมหึมาและไม่อาจทำลาย พวกมันวนเวียนรอบตัวเขาจนกลายเป็น…ยอดเขาสูงสีม่วงลูกหนึ่ง!
ชายชราวิญญาณสวรรค์ที่อยู่ไม่ไกลเห็นภาพนี้แล้วก็หรี่ตาลงเล็กน้อย เขาได้เห็นภาพที่แทบจะเรียกได้ว่าปาฏิหาริย์จากซูหมิงหลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโลกของวิหารเหล่าเทพตอนนั้นหรือเดินทางข้างนอก หรือจะเป็นภาพเหตุการณ์ต่อเนื่อง ที่ต่อต้านภัยพิบัติรกร้างตอนนี้ ทุกเหตุการณ์ทยอยกันลอยขึ้นมาในความคิด ชายชราวิญญาณสวรรค์
‘เด็กคนนี้เชี่ยวชาญวิชาอำพราง อย่างเช่นอภินิหารนี้ แกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก หากไม่เคลื่อนไหวก็คงไม่เท่าไร เมื่อใดที่เขาเคลื่อนไหว…จะสร้างความตื่นตกใจ’ ชายชราวิญญาณสวรรค์เห็นซูหมิงกลายเป็นยอดเขาสีม่วงแล้วก็ถอนหายใจโล่งอก เพราะเขารู้ว่าซูหมิงไม่ได้พูดมั่วซั่วว่าจะผ่านภัยพิบัติบรรพชนวิญญาณ แต่เกรงว่าก่อนหน้านี้ก็คงตัดสินใจเอาไว้แล้วและเริ่มเตรียมตัว
‘น่าเสียดาย หากเป็นชาวเผ่าของข้า…’ ชายชราวิญญาณสวรรค์ส่ายศีรษะ ภายในสีหน้ำยากจะปกปิดความชื่นชมต่อเผ่าหมานใหญ่
ขณะเดียวกับที่ชายชราส่ายหน้า ยอดเขาร่างแปลงซูหมิงกลายเป็นเหมือนกระบี่คมกริบในน้ำวนมรณะหยิน พูดมาเหมือนช้า แต่ความจริงทุกอย่างเสร็จสิ้นในพริบตา จังหวะเดียวกับที่สายฟ้าสีแดงเข้ามาใกล้ มันก็ปะทะกับยอดเขาสีม่วง
เกิดเสียงครึกโครมดังสนั่นไปรอบๆ สายฟ้าสีแดงหรือภัยพิบัติแรกของภัยพิบัติบรรพชนวิญญาณ และยังเป็นภัยพิบัติที่อ่อนแอที่สุดในอีกหกภัยพิบัติ หลังจากผ่านการควบคุมจากน้ำวนมรณะหยิน ผ่านวิชาเคลื่อนย้ายภูเขาครั้งแรกของซูหมิงจนอ่อนกำลังลง ตอนนี้ยังปะทะกับวิชาเคลื่อนย้ายภูผาที่มีกระบี่ตัดดวงจิต ซ้ำซูหมิงยังเตรียมการมาอย่างเต็มที่อีก
ช่วงที่เกิดเสียงระเบิดดังก้อง ยอดเขาสีม่วงร่างแปลงซูหมิงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เกิดเสียงกึกๆ พร้อมเกิดรอยร้าวขึ้น มองผ่านรอยร้าวไปมีแสงสีแดงสว่างลุกลามไปอย่างรวดเร็ว แสงสีแดงนั้นคือพลังของสายฟ้าสีแดง เหมือนกับว่าเป็นการกระจายพลังและไหลทะลัก หลังเข้าต้านกับยอดเขาของซูหมิงแล้วก็ถูกรอยร้าวตัดพลังลงไปอีก
กระทั่งเกิดเสียงดังสนั่นแก้วหูขึ้น ยอดเขาสีม่วงร่างแปลงซูหมิงแยกออกเป็นเสี่ยงๆ ยอดเขาที่รวมวิญญาณภูเขาสามร้อยล้านดวงพังลง จากนั้นมีแสงสีม่วงขยับวิบวับ นั่นคือกระบี่ตัดดวงจิตที่รวมจิตสังหารอยู่นานพุ่งไปยังสายฟ้าสีแดงที่ตอนนี้ มัวหมองอย่างยิ่งและกำลังเข้ามาใกล้
พลันเกิดเสียงเสียดสีดังกังวาน นั่นคือเสียงหลังจากกระบี่ตัดดวงจิตชนกับสายฟ้าสีแดง เสียงนี้ดังต่อเนื่องไปสองลมหายใจ ดวงตาซูหมิงก็ขยับวาววับ เขาพุ่งออกไปเป็นครั้งแรก ตรงไปยังสายฟ้าสีแดงนั้น
นี่คืออภินิหารต่อเนื่องของซูหมิง ครั้งแรกเคลื่อนย้ายภูผา ครั้งที่สองตัดดวงจิตเคลื่อนย้ายภูผา ครั้งที่สามจิตสังหารตัดดวงจิตปรากฏ หลังใช้วิธีนี้ลดกำลังลงอย่างต่อเนื่องแล้ว ซูหมิงถึงลงมือ
ช่วงที่กระบี่ตัดดวงจิตถอยไป เขาใช้วิธีที่ง่ายที่สุด ใช้กำปั้นที่ง่ายที่สุดชกใส่สายฟ้าสีแดงที่มัวหมองถึงขีดสุด
เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นไปรอบๆ ซูหมิงตัวสั่นไปทั่วร่าง ทว่าไม่ถอยไปแม้แต่น้อย แต่เงยหน้าขึ้น ทั่วร่างแผ่พลังเหมือนชำเลืองตามองใต้หล้า พลังนี้แกร่งขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายสายฟ้าสีแดงตรงหน้าเขาหรือภัยพิบัติครั้งแรกแตกกระจายออก พร้อมกันนั้นพลังของซูหมิงบรรลุถึงจุดที่รุนแรงที่สุด
ชายชราวิญญาณสวรรค์มองภาพเหล่านี้ตาค้าง นัยน์ตาฉายแววชื่นชม ไม่ว่า ซูหมิงใช้วิธีใด แต่ก็เป็นตัวเขาจริงๆ ที่ต่อต้านกับภัยพิบัติบรรพชนวิญญาณ
บางทีเรื่องนี้ไม่อาจนำมาเพิ่มขั้นพลังได้ แต่ว่าในใจ ในดวงจิต มันทำให้ซูหมิงก้าวหน้าอย่างพุ่งพรวดเหมือนก้าวเท้ายาว!
“บรรพชนวิญญาณมีเจ็ดภัยพิบัติ แม้ว่าภัยพิบัติของเจ้าจะเกิดเพราะข้า แต่ข้าคาดการณ์อย่างมั่นใจว่าอย่างมากสุดก็สามภัยพิบัติ ถึงอย่างไรเจ้าก็เพิ่งยกระดับวิญญาณครั้งแรก ข้าจะช่วยเจ้าผ่านสามภัยพิบัตินี้เอง หากเจ้าอยากผ่านไปด้วยตัวเอง ข้าก็จะลงมือในเวลาที่เหมาะสม ถึงอย่างไรข้าก็อยากยืนยันการคาดเดาอย่างหนึ่ง
แล้วตอนนี้ เจ้าจะเอาอย่างไรกับภัยพิบัติที่สอง?” ชายชราวิญญาณสวรรค์มอง ซูหมิงแล้วถามขึ้นช้าๆ
“ผู้เยาว์จะผ่านภัยพิบัติที่สองเอง” ซูหมิงเงียบไปหลายลมหายใจแล้วประสานมือคารวะชายชราวิญญาณสวรรค์ ตอนนี้พลังในร่างกายประหนึ่งสายรุ้ง ไม่อาจระบายออกได้ ดังนั้นต่อให้ภัยพิบัติที่สองจะแกร่งกว่าเดิมก็ต้องยืนหยัดเอาไว้
และที่สำคัญที่สุดคือซูหมิงรู้สึกชัดว่าพลังของตนรวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง เหมือนมีความรู้สึกจะทะลวงพลัง การทะลวงพลังครั้งนี้มาจากระดับชีวิต และยังมาจากดวงจิตบรรพชนวิญญาณในร่างกาย
ตอนนั้นเขายกระดับวิญญาณในโลกวิหารเหล่าเทพเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ลำดับในการยกระดับวิญญาณครั้งที่สอง แต่เป็นเพราะเขามีความรู้สึกว่า พลังตนยังไม่พร้อม หากฝืนยกระดับไป เกรงว่าแม้ลำดับจะถูก แต่ก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จ
ก็เหมือนกับคนธรรมดาที่เงยหน้ามองหินใหญ่ขนาดหนึ่งจั้งก้อนหนึ่งได้ ตอนที่มองหินใหญ่สิบจั้ง ในใจจะเกิดความรู้สึกว่าแรงไม่พอ
ทว่าตอนนี้หลังซูหมิงผ่านภัยพิบัติครั้งที่หนึ่ง เขาก็เกิดความรู้สึกเด่นชัดขึ้น คล้ายกับว่าขอเพียงตนทะลวงผ่านครั้งนี้ไป เขาจะยกระดับวิญญาณครั้งที่สองได้!
‘ยกระดับวิญญาณเก้าครั้ง…’ ซูหมิงใจเต้นระรัว แต่ไม่เผยทางสีหน้าแม้แต่น้อย เขาเงยหน้าขึ้นจ้องข้างบนน้ำวน ในดวงตาเผยความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับการเฝ้ารอคอยที่ซ่อนอยู่ใต้ความมุ่งมั่นในการต่อสู้และมีเพียงเขาคนเดียวที่รู้
“ก็ดี ภัยพิบัติครั้งที่สองนี้ ตามที่ข้ารู้มาคือภัยพิบัติห้าสายฟ้า ภัยพิบัตินี้…” ชายชราวิญญาณสวรรค์พยักหน้า ขณะกำลังจะกล่าวนั้น ด้านบนน้ำวนมรณะหยินเกิดเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น
ทันทีที่เกิดเสียงนี้ ชายชราวิญญาณสวรรค์พลันเห็นว่ากลางน้ำวนข้างบนเหมือนมีสีห้าชนิดขยับแสงพร่างพราว ภาพนี้ทำให้เขาใจสั่นสะท้าน ดวงตายังขยับประกายวาววับพร้อมเพ่งมองไป
“นี่…” พอชายชราวิญญาณสวรรค์เห็นแสงห้าสีแล้วก็หน้าเปลี่ยนสีดูตกตะลึง
ในเวลาเดียวกัน นอกน้ำวนมรณะหยิน ตอนนี้กลางมหาโลกสามรกร้างอันเงียบสงบ พลันมีสายฟ้าสี่สายจากเหนือใต้ออกตกสี่ทิศรวมออกมากลางอากาศ ก่อนกลายเป็นสายรุ้งยาวตรงไปยังน้ำวนมรณะหยิน
ความเร็วของพวกมันไม่มีทางที่ผู้ฝึกฌานจะเทียบได้ สำหรับพวกมันแล้ว การข้ามผ่านโลกแท้จริงใช้เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น สายรุ้งยาวสี่สายมีสีที่ตัดสลับเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง มีสีดำ มีขาว มีแดงและชมพู ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของกันและกัน พวกมันต่างเข้าไปใกล้น้ำวนมรณะหยินในบัดดล
ต่อมา ขณะเดียวกับที่พวกมันมาถึง ฟ้ากระจ่างดาวนอกน้ำวนมรณะหยินเกิดสายรุ้งสายที่ห้า นั่นคือสีเหลือง เป็นสีที่เหมือนเป็นตัวแทนของอำนาจสูงสุดและมีฐานะสูงยิ่ง!
เหมือนกับอำนาจของจักรพรรดิในใต้หล้า แสงสว่างปกคลุมไปรอบๆ สี่สีที่เหลือล้อมรอบ ทว่ากลับไม่ได้ตามกันเป็นกลุ่ม แต่เรียงลำดับตามอะไรบางอย่างพุ่งตรงไปยังน้ำวนมรณะหยิน
เกิดเสียงครึกโครมดังสนั่น สายรุ้งห้าสายพุ่งเข้าไปในน้ำวน ชั่วพริบตาเดียวก็มาปรากฏในสายตาซูหมิง ตอนนี้เองเขาได้ยินเสียงพึมพำด้วยความเหลือเชื่อของชายชราวิญญาณสวรรค์ที่อยู่ไม่ไกล
“สายฟ้าห้าสี ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นสายฟ้าห้าสี…”