Skip to content

สู่วิถีอสุรา 1273

Svtasr

ตอนที่ 1273 เผ่าไว้อาลัย

“เผ่าไว้อาลัย…” ดวงตาซูหมิงวาววับ สายตามองตัวเองอีกคนในโลกนี้ที่รวม เส้นแสงหม่นจำนวนมากร่างออกมาเป็นรูปลักษณ์ผีเสื้อข้างบน ประกายแสงยังวูบผ่านวิญญาณสิบผู้ไว้อาลัยโดยรอบ

ซูหมิงไม่เข้าใจผู้ไว้อาลัย และก็ไม่รู้ว่าเหตุใดวิญญาณนี้ถึงเรียกว่าผู้ไว้อาลัย แต่กลับรู้สึกว่ากลางวิญญาณสิบผู้ไว้อาลัยนี้มีความรู้สึกผ่านโลกมายาวนานอยู่โดยเฉพาะสามประโยคเมื่อครู่ ทันทีที่เอ่ยออกมาเหมือนจะดังก้องอยู่ในกาลเวลา แฝงไว้ด้วยกฏชนิดหนึ่งที่ซูหมิงไม่เข้าใจ

ช่วงที่สามประโยคนั้นดังกังวาน ซูหมิงอีกคนในโลกนี้หรือบุตรแห่งซางดวงตาขยับประกายเย็นเยียบ ทั้งตัวกลายเป็นผีเสื้อยักษ์พุ่งตรงไปหาซูหมิงพร้อมกับเสียงครึกโครม

ซูหมิงทำเสียงขึ้นจมูกทีหนึ่ง สองมือประสานกันมุทราผลักไปข้างหน้า ยอดเขาเหลือคณานับโผล่ขึ้นมาในทันใด ยอดเขาเหล่านี้ล้วนเป็นมายา พริบตาเดียวก็มีมากกว่าพันล้านลูก อัดแน่นอยู่เต็มมวลอากาศ ระหว่างที่ปะปนกันยังซ้อนทับกัน ในพริบตา กลายเป็นภูเขาเก้าลูกล้อมรอบซูหมิง

นี่ก็คือรูปแบบที่แกร่งที่สุดของเคลื่อนย้ายภูผาจากการที่ดวงจิตซูหมิงบรรลุเกือบถึงขั้นสูง ท่ามกลางเสียงครึกโครม เมื่อซูหมิงโบกมือไป ภูเขาเก้าลูกนั้นก็พุ่งตรงไปหาบุตรแห่งซาง

เสียงดังสนั่นกึกก้องฟ้าดินในเวลานี้ เก้าภูเขาพังลงในทันใด ทว่าผีเสื้อร่างแปลงบุตรแห่งซางก็ระเบิดออกเป็นชิ้นๆ เช่นกัน ตอนนี้ซูหมิงอีกคนของโลกนี้กระอักเลือด ร่างถอยไปร้อยจั้ง พร้อมกันนั้นดวงตาซูหมิงเต็มไปด้วยจิตสังหาร ระหว่างก้าวเดิน ห้าภูเขาที่เหลือพุ่งตรงไปหาบุตรแห่งซางราวกับลูกศรห้าดอก

ทุกอย่างบรรยายเหมือนช้า แต่ความจริงเกิดขึ้นในพริบตา เสียงครึกโครมยังคงดังก้อง แต่ยอดเขาห้าลูกเข้าไปใกล้บุตรแห่งซางแล้ว หมายจะปะทะเข้าไปด้วยพลังที่ทำลายล้างได้ทุกสิ่ง

แต่ตอนนี้เอง ท่ามกลางแสงหม่นวูบวาบจากตัววิญญาณผู้ไว้อาลัยสิบดวง พลันปรากฏน้ำวนแสงหม่นยักษ์วงหนึ่งขึ้นรอบตัวบุตรแห่งซาง ชั่วขณะที่น้ำวนนี้ หมุนวนอย่างไร้เสียง ภายในพลันมีใบหน้าเพิ่มมาหนึ่งใบหน้า

ใบหน้านั้นเผยเครื่องหน้าชัดเจน เห็นแวบแรกก็จำได้ทันที แต่ที่แปลกคือตอนที่ ซูหมิงมองไปกลับมีความรู้สึกว่าทั้งๆ ที่จำได้แต่กลับไม่อาจประทับลงในความคิด วูบเดียวก็เกิดภาพหลอนลืมไป

แทบเป็นทันทีที่ความรู้สึกนี้โผล่ขึ้นมา ใบหน้าในน้ำวนนั้นเอ่ยเสียงต่ำทันที

“ทุกอย่างคงอยู่ เพราะเดิมทีมันคงอยู่ ดังนั้นจึงหายไปได้…สิ่งนี้คือความตาย”

เมื่อประโยคนี้ดังแว่วออกมา ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ห้าภูเขาพุ่งเข้าปะทะกับน้ำวน ตอนนี้ซูหมิงหรี่ตาลง เขาเห็นชัดว่าห้ายอดเขาหายไปกับอากาศโดยที่ไม่สั่นสะเทือนหรือเกิดความผิดปกติใดๆ!

ไม่เหลือแม้แต่น้อย เหมือนกับประโยคนั้น เพราะมันคงอยู่ ดังนั้นเลยหายไปได้!

“เจ้าทำลายผู้ไว้อาลัยของแซ่ซูไม่ได้หรอก สิบคนนี้ไม่ใช่ผู้ไว้อาลัยอย่างแท้จริง พวกเขาเป็นเพียงคนที่มีสายเลือดเล็กน้อยตอนยังมีชีวิตเท่านั้น หลังตายไปแล้วข้าก็กระตุ้นมรดกพวกเขา ทุกคนได้รับพลังของผู้ไว้อาลัยที่แท้จริงเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น

ไว้อาลัย…นั่นคือเผ่าพันธุ์ที่เคยเป็นดั่งคลื่นกระทบฝั่งในมหาโลกซางเซียงเมื่อ ยุคโบราณ ชาวเผ่านี้มีน้อย แต่กลับสั่นคลอนทั้งมหาโลก เพราะเผ่านี้หลอมรวมกับ กฏได้โดยกำเนิด และยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของกฏได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่า เผ่าไว้อาลัยอยู่ที่ใด จะไม่มีเรื่องใดที่พวกเขาไม่รู้!

พลังมหัศจรรย์ของพวกเขายังมีอีกมาก ตอนนั้นท่านซางเซียงลงมือเองถึงได้ ลบเผ่านี้ไปได้!

แต่ก็ลบไปได้แค่กายเนื้อของเผ่านี้ ไม่อาจลบมรดกของพวกเขา จุดนี้แม้แต่ ท่านซางเซียงยังทำไม่ได้ เพราะเผ่านี้พิเศษ มรดกของมันอยู่มายาวนาน ตอนที่ข้าเป็นบุตรแห่งซาง ข้าได้เรียกมันออกมาจากในอากาศ แล้วเปลี่ยนให้เป็น…ผู้ไว้อาลัยของข้า!” ซูหมิงอีกคนในโลกนี้หรือชายหนุ่มบุตรแห่งซางกล่าวเสียงดังกังวาน น้ำเสียง มีความทะมึนทึบกับเหี้ยมโหดที่เผยมาชัดเจน

ดวงตาซูหมิงแวววาว เขามองวิญญาณในน้ำวนนั้น ก่อนขยับวูบเข้าไปโดยไม่พูดสิ่งใด ชั่ววูบเดียวก็มาปรากฏอยู่ข้างหนึ่งในสิบผู้ไว้อาลัยรอบๆ แล้วยกมือขวาขึ้น คว้าไป แต่กลับ…คว้าอากาศ!

ผู้ไว้อาลัยนั้นเหมือนไม่มีอยู่ มันปล่อยให้มือขวาซูหมิงผ่านร่างไป

“เดิมทีพวกเขาไม่มีอยู่ และเพราะพวกเขาไม่คงอยู่นี่เอง ดังนั้น…พวกเขาถึงคงอยู่!” ระหว่างที่เสียงหัวเราะของบุตรแห่งซางดังก้อง ดวงตาของใบหน้าในน้ำวนนั้นขยับประกายวาว ทันใดนั้นร่างเงาผู้ไว้อาลัยสิบคนรอบๆ บิดเบี้ยวแล้วมลายหายไป

“เป็นเผ่าพันธุ์ที่น่าสนใจมาก ทำให้ข้านึกถึงพลังประหลาดที่เคยเจอมาก่อนหน้านี้” ซูหมิงมองใบหน้าน้ำวนอย่างเย็นชา ตอนที่กล่าวราบเรียบทั่วร่างเขาพลันขยับแสงสีดำ นั่นคือการระบายอย่างกะทันหันของแสงแก่นยมโลก ชั่ววูบเดียวก็กลายเป็นต้นกำเนิดแสงแก่นยมโลก ซ้ำยังหมุนม้วนกลายเป็นทะเลแสงพุ่งตรงไปหาใบหน้าน้ำวนนั้น

“ผู้สิ้นชีพทุกคน เพราะผู้มีชีวิตคิดถึง ดังนั้นจึงมีอารมณ์ความคิดในความไม่มี สิ่งนี้คือไว้อาลัย…” แวบเดียวก็เข้ามาใกล้ ตอนที่คำพูดของใบหน้าน้ำวนดังกังวาน บุตรแห่งซางข้างหลังน้ำวนพลันตะโกนเสียงต่ำที่แฝงมาด้วยจิตสังหารเด่นชัด

“อารมณ์ความคิดของข้า อารมณ์ความคิดที่เกิดจากความไม่มีคือเจ้า…ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย!”

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ตอนที่เอ่ยคำว่าตายคำแรก แสงแก่นยมโลกของซูหมิงพลันหายไป ขณะเดียวกันช่วงที่คำว่าตายคำที่สองดังขึ้น ซูหมิงหน้าเปลี่ยนสี เกิดเสียงโครมครามในร่างเขาพร้อมกับกระเด็นถอยไป

แต่ว่าตอนที่ถอยไปสามก้าว คำว่าตายคำที่สามดังแว่วมาทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั่วร่าง ประหนึ่งว่าเลือดเนื้อหมุนย้อนกลับ ใบหน้าขาวซีดขึ้นเรื่อยๆ พร้อมถอยไปอีกครั้ง ราวกับว่าตรงหน้าเขามีการระเบิดรุนแรง สั่นสะเทือนจนเขาต้องถอยไป ยามนี้เองคำว่าตายคำที่สี่เหมือนกับค้อนทุบลงในใจซูหมิง

เกิดเสียงระเบิดในความคิด คล้ายกับว่าซูหมิงไม่อาจต่อต้านพลังนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นอภินิหารหรือดวงจิตล้วนยากจะคลำหาตัวมันเจอ เหมือนกับว่าเดิมทีพลังนี้อยู่ ในใจเขา ตอนนี้ถูกกระตุ้นขึ้นมา จึงสร้างอาการบาดเจ็บร้ายแรงในร่างกาย

โลหิตไหลจากมุมปาก ระหว่างที่ซูหมิงถอยไป คำว่าตายคำที่ห้าดังแว่วมา ซูหมิง กระอักเลือดคำใหญ่ ร่างถอยไปอีกครั้ง ครั้งนี้ถอยไปหลายร้อยจั้งถึงหยุดลง ดวงตาสองข้างเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย สีหน้าดูเหี้ยมโหด ดวงตาจ้องใบหน้าน้ำวน จ้องตัวเองอีกคนที่ลอยอยู่หลังน้ำวนนั้น

เขายกมือขวาขึ้นเช็ดโลหิตตรงมุมปาก ความเหี้ยมโหดทางสีหน้ากลายเป็นจิตสังหาร

“สมกับเป็นตัวข้าอีกคนในโลกนี้ เห็นๆ อยู่ว่าพลังหากจากข้ามาก แต่กลับใช้วิธีนี้มาทำให้ข้าบาดเจ็บได้” ซูหมิงเงยหน้าขึ้นกล่าวพร้อมโบกมือขวา ทันใดนั้นปรากฏน้ำวนกลุ่มหนึ่งในมือ น้ำวนนี้หมุนโคจรอย่างรวดเร็ว ค่อยๆ เกิดเป็นน้ำวนดาราภายใน

“คนที่ทำร้ายเจ้าไม่ใช่ข้า แต่เป็นผู้ไว้อาลัย ทำลายวิญญาณผู้ไว้อาลัยของข้าไม่ได้ เจ้าก็ทำได้เพียงถูกผนึก ค่อยๆ ถูกข้าหลอมรวมเป็นร่างเดียว ข้าคือเจ้า เจ้าก็คือข้า”

ซูหมิงอีกคนในโลกนี้มองซูหมิงข้างหลังใบหน้าน้ำวนด้วยแววตาเผยจิตสังหารอย่างโจ่งแจ้งโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย ขณะเอ่ยราบเรียบยังยกมือขวาสะบัด ฉับพลันนั้นใบหน้าน้ำวนตรงหน้าเขาดวงตาเป็นประกาย จากนั้นน้ำวนก็พุ่งตรงไปหาซูหมิง

“เผ่าไว้อาลัยได้รับอารมณ์ความคิดของผู้มีชีวิต ได้รับการคงอยู่ของผู้สิ้นชีพ ได้รับการฝากฝังในการแสวงหาจิต ได้รับพลังแห่งโลกในภพนี้ รวมเป็นเพลิงธูป ด้วยสิ่งนี้…จงเปลี่ยนการไว้อาลัยเป็นความตาย ให้สิ่งที่คงอยู่จงอยู่ต่อไป ให้ผู้ลาลับ…หวนคืนสู่อากาศธาตุ!” ใบหน้าน้ำวนนั้นพูดพึมพำ เสียงเข้าถึงหูจะเกิดความรู้สึกผ่านโลกไปนานจนเสื่อมสภาพ ราวกับเป็นเสียงที่ไม่รู้ว่าอยู่มากี่ปี ตอนนี้เสียงดังก้องอีกครั้งส่งผลให้ฟ้าสั่นสะเทือน

ซูหมิงหรี่ตาลง ตอนนี้เอง เขาพลันมีความรู้สึกเด่นชัดเหมือนว่าดวงจิตของเขา ขั้นพลังไปจนถึงพลังชีวิตเริ่มลดน้อยลง คล้ายกับว่าประโยคนี้มีพลังประหลาดที่รบกวนการเปลี่ยนแปลงของจักรวาล ทำให้ซูหมิงรู้สึกเด่นชัดว่าดวงจิตของโลกแท้จริงพรรคเซียนในมหาโลกซางเซียงที่ปรากฏและค่อยๆ หายไปเพราะเขามีเค้าลางจะฟื้นฟูกลับมาเสี้ยวหนึ่ง

กระทั่งซูหมิงยังรู้สึกว่าดวงจิตโลกแท้จริงดาราสัจธรรมในมหาโลกสามรกร้าง ที่เขายึดครองยังเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ด้วย

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ซูหมิงใจสั่นสะท้าน ความรู้สึกถึงอันตรายร้ายแรงผุดขึ้นมา แต่เขากลับไม่มีสีหน้าหวาดกลัวแม้แต่น้อย เพราะว่า…เขายังคงเชื่อว่าโลกนี้ไม่มี พลังใดที่คงอยู่นิรันดร์ ทุกอย่างมีศัตรูโดยธรรมชาติ ศัตรูทางธรรมชาตินี้ไม่ใช่หนึ่ง แต่จะปรากฏมาหนึ่งในยุคเดียวกัน ถึงจะทำลายไปแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่รู้กี่ปีจะต้องเกิดมาอีกหนึ่งแน่ๆ

เหมือนอย่างที่ชายชราวิญญาณสวรรค์กล่าวไว้ ซูหมิงเชื่อมั่นว่าดวงจิตสามรกร้างที่แกร่งกล้ายังมีศัตรูทางธรรมชาติ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเผ่าไว้อาลัย

ดวงตาซูหมิงเป็นประกายเย็นชา ดวงจิตเขาปะทุขึ้น นั่นคือดวงจิตมหึมาที่รวมสองโลกแท้จริงเข้าด้วยกัน นั่นคือพลังที่แกร่งเป็นรองเพียงดวงจิตที่แกร่งที่สุดใน ทุกมหาโลก แรงกดดันเจตนารมร์สวรรค์ของดวงจิตนี้ทำลายล้างผู้ฝึกฌานได้ล้านคน ต่อให้เป็นตัวเองอีกคนที่นี่ เว้นแต่จะใช้พลังของซางเซียง มิเช่นนั้นก็ต้องยอมศิโรราบใต้ดวงจิตนี้

ฝึกฝนถึงระดับอย่างซูหมิงแล้ว เขามีอภินิหารพลิกแพลงมากมาย ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ขอบเขตหนึ่ง แต่เพียงแค่นึกถึงก็ใช้งานมันได้

อย่างเช่นตอนนี้ ทันทีที่ดวงจิตซูหมิงแผ่ขยายไปรอบๆ พลันปรากฏสายฟ้าสีแดงสายหนึ่งตรงหน้า สายฟ้านี้มาพร้อมกับกลิ่นอายพลังน่าตะลึง ตอนที่โผล่มายังทำให้ผืนฟ้ารอบๆ เหมือนเข้าไปอยู่ในสภาวะหยุดนิ่งชั่วนิรันดร์

เห็นได้ชัดว่านี่คือภัยพิบัติบรรพชนวิญญาณ!

เพียงแต่ว่าถูกเลียนแบบขึ้นมาจากดวงจิตของซูหมิง แม้จะไม่แกร่งเท่าภัยพิบัติบรรพชนวิญญาณจริงๆ แต่ก็มากพอจะสร้างความตื่นตกใจ

“เผ่าไว้อาลัยถูกลบด้วยดวงจิตซางเซียงได้ เช่นนั้นต่อให้เผ่านี้แกร่งกว่านี้อีกก็ต้องมีขีดจำกัด” สิ้นเสียงเย็นชาจากซูหมิง สายฟ้าสีแดงก็พุ่งตรงไปหาใบหน้าน้ำวนพร้อมเสียงดังครึกโครม

ซูหมิงไม่มองผลที่ได้ เขาสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง ฉับพลันนั้นปรากฏสายฟ้าห้าสายตรงหน้าเขา สายฟ้าห้าสายนี้พลันกลายเป็นห้าใบหน้าตัดสลับกันเป็นห้าสี ก่อนกลายเป็นมือใหญ่ข้างหนึ่งคว้าไปยังใบหน้าน้ำวน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!