Skip to content

สู่วิถีอสุรา 271

ตอนที่ 271 นี่คือการสร้างของข้า

เงาแผ่นหลังที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาสวมชุดคลุมม่วง เสื้อคลุมคุ้นตา กลิ่นอายพลังคุ้นเคย ทำให้ซูหมิงอดใจสั่นไม่ได้ ความรู้สึกเหมือนพบญาติพี่น้องพลันกึกก้องอยู่ในใจเขา

เมื่อกล่าวคำว่าอาจารย์ เทียนเสียจื่อหมุนตัวกลับ แม้สีหน้ายังคงเคร่ง ทว่ากลับยิ้มมุมปาก

“เจ้าคงลำบากน่าดู” นัยน์ตาเทียนเสียจื่อฉายแววชื่นชม กล่าวเบาๆ

ซูหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก เดิมทีเขาคิดว่าอาจจะได้พบอาจารย์อีกครั้งก็อีกหลายปี บางทีอาจไม่ได้พบอีก ทว่าไม่คิดเลยว่าเทียนเสียจื่อจะมาปรากฏตัวอยู่นอกเผ่าเชมันกิ้งก่า

“อาจารย์…” ซูหมิงคลำตรงบาดแผลพร้อมส่ายศีรษะ

“ไปทำในสิ่งที่เจ้าควรทำเถอะ ข้าจะรอเจ้าตรงนี้ แล้วพวกเราค่อย…กลับบ้านด้วยกัน” เทียนเสียจื่อมองซูหมิง ความชื่นชมในแววตาเด่นชัดขึ้น

ซูหมิงเงียบไปครู่หนึ่ง ประสานมือคารวะเทียนเสียจื่อ ก่อนทะยานผ่านเทียนเสียจื่อมุ่งหน้าไปเผ่าเชมันกิ้งก่าโดยไม่หยุดชะงัก

เทียนเสียจื่อมองเงาด้านหลังของซูหมิง มีสีหน้าคาดหวังรอคอย

“ศิษย์สี่ เจ้าจะเลือกอย่างไร…” เทียนเสียจื่อพึมพำเบาๆ

ขณะซูหมิงห้อเหยียด ตรงหน้าเขาปรากฏหมู่บ้านขนาดใหญ่ โดยรอบหมู่บ้านมีกำแพงไม้ซุงยักษ์จำนวนมาก มีเสียงหัวเราะดังเกรียวกราวจากข้างใน ในเสียงนั้นมีของชรา เด็ก สตรี และนักรบเชมัน

เสียงเหล่านั้นทำให้ซูหมิงชะลอฝีเท้าลง เขามองหมู่บ้านแห่งนี้ แม้จะมองไม่เห็นภายใน แต่เขารู้สึกได้ว่าชาวเผ่าในหมู่บ้านกำลังมีความสุข

‘หากข้าถูกชายชราเผ่าเชมันจับตัวมา ตอนที่เขากลับมาถึงหมู่บ้าน เสียงหัวเราะอาจดังกว่านี้…’ ซูหมิงถอนหายใจเบา เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่จะทำต่อไปนี้ถูกต้องหรือไม่ ทว่าเขาเข้าใจถึงโลกปลาใหญ่กินปลาเล็ก และเขาได้ลิ้มลองราคาของความใจอ่อนมาแล้ว

ซูหมิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเดินไปทางหมู่บ้านทีละก้าว ยามเขาเข้าใกล้หมู่บ้านหลายร้อยจั้ง พลันมีหลายเสียงลากยาวตรงมาจากในหมู่บ้าน

เสียงแหลมนั้นเหมือนการแจ้งเตือน ขณะดังกึกก้องในหมู่บ้าน มีเงาคนสี่คนทะยานออกมาจากหมู่บ้าน ช่วงที่พวกเขาเห็นซูหมิงสีหน้าพลันเปลี่ยน

ซูหมิงรู้จักทั้งสี่คน พวกเขาคือนักรบเชมันที่ชายชราเผ่าเชมันช่วยเอาไว้จากการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา!

เมื่อเห็นคนทั้งสี่ นัยน์ตาซูหมิงพลันมีจิตสังหาร เขาพลันกระโดดตัวขึ้น ตรงระหว่างคิ้วขยับแสงกระบี่สีดำ กลายเป็นสายรุ้งดำพุ่งออกไป ร่างกายยิ่งว่องไวราวกับสายฟ้า วินาทีที่เข้าใกล้คนทั้งสี่ มีเสียงระฆังดังกังวานจากในร่างกายเขา

เสียงระฆังเหมือนเสียงเคาะในพิธีศพ กลายเป็นระลอกคลื่นแผ่กระจาย ขณะเดียวกัน แสงดำขยับวิบวับ กระบี่เล็กทะลวงผ่านหน้าอกหนึ่งในสี่คนด้วยความเร็วปานสายฟ้า ก่อนออกมาพร้อมกับโลหิตและเสียงร้องน่าเวทนา เปิดฉากการสังหารในครั้งนี้

ผ่านไปครู่หนึ่ง ด้านนอกหมู่บ้านมีศพล้มลงสี่คน บนตัวซูหมิงเปื้อนโลหิตสด เขาเดินหน้าต่ออย่างสงบนิ่ง ยามนี้ในหมู่บ้านเงียบสงัด มีกระบี่เล่มหนึ่งฟันประตูใหญ่ของหมู่บ้าน

เสียงโครมดังกังวาน ประตูใหญ่พังทลายลงทันใด กลายเป็นเศษจำนวนมากกระเด็นเข้าไปด้านใน ขณะที่ฝุ่นฟุ้งกระจาย ซูหมิงเดินเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว

ทันใดนั้นมีเงาคนห้าคนห้อเหยียดเข้ามา ต่อสู้กับซูหมิงท่ามกลางฝุ่นตลบอบอวล

เสียงอึกทึกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซูหมิงมิได้หยุดพักแม้แต่น้อย ตอนที่เข้าประชิดคนทั้งห้า รอบตัวเขามีหมอกดำโอบล้อมเป็นเกราะแม่ทัพเทพ และรับการโจมตีของอีกฝ่ายอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกันภายใต้แสงดำขยับวิบวับ สายฟ้าแผ่ขยาย ตอนที่ซูหมิงเดินออกมาจากฝุ่นตลบ ด้านหลังเขามีศพล้มลงห้าคน

แทบเป็นช่วงเดียวกับที่ทั้งห้าคนตายตก ซูหมิงเดินเข้าไปในหมู่บ้าน มีลูกธนูเกือบร้อยดอกยิงเข้ามา ทว่ากลับหยุดห่างจากซูหมิงหลายจั้งแล้วระเบิดเป็นผุยผง

ลูกธนูเหล่านี้ไม่ได้ยิงจากนักรบเชมัน แต่เป็นชาวเผ่าธรรมดาในหมู่บ้าน พวกเขาเหล่านั้นล้วนมีแววตาแดงก่ำเคียดแค้น จ้องซูหมิงเขม็ง แม้ลูกธนูจะแตกกระจาย ก็มีลูกธนูที่มากกว่าพุ่งเข้ามาอีกครั้ง

จากในแววตาของพวกเขา ซูหมิงเห็นความแค้น ทั้งยังเห็นเจตนารมณ์หากยังไม่ตายก็ไม่ยอมเลิกรา

ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามดังขึ้น พบว่าในกระโจมหนังของหมู่บ้านมีชายร่างกำยำเดินออกมาคนหนึ่ง เขาเปลือยท่อนบน พลันกระทืบพื้นทะยานเข้าใส่ซูหมิง จากนั้นก็มีนักรบเชมันสิบกว่าคนห้อเหยียดมาจากแต่ละมุมของหมู่บ้าน พุ่งมาทางเขา

ซูหมิงเงียบขรึม หลับตา ยกมือขวาขึ้นแล้ววาดลง ลายเส้นนี้เหมือนมีพลังแห่งสวรรค์ ช่วงที่วาดลงไป ชายร่างกำยำที่นำหน้าตัวสั่นเทิ้ม ร่างกายพลันแยกเป็นส่วนๆ ศีรษะลอยขึ้น

ส่วนคนที่เหลือกรีดร้องภายใต้ลายเส้นยามหลับตาของซูหมิง เกิดเป็นเสียงระเบิด กายเนื้อตกลงสู่พื้นก่อนสิ้นใจลง

ซูหมิงลืมตาขึ้น กวาดสายตามองในหมู่บ้าน นี่ยังเป็นหมู่บ้านที่ไม่นับว่าใหญ่นัก มีกระโจมหนังจำนวนมาก มีบุรุษและสตรีหลายร้อยคน

พวกเขาล้วนจ้องมองซูหมิงอย่างเงียบๆ ดูอาฆาตแค้นที่ญาติพี่น้องของตนถูกสังหาร สายตาแบบนี้ทำให้ซูหมิงเจ็บปวดหัวใจ

ในสายตาเหล่านี้ มีคนชรา มีเด็ก มีสตรี…..ในนั้นยังมีอีกหลายคนที่รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังยิงลูกธนูออกมาเรื่อยๆ ลูกธนูเหล่านั้นระเบิดกระจายครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่อาจหยุดซูหมิงได้

ซูหมิงเดินหน้าอย่างสงบ เขาแผ่ขยายจิตสัมผัสปกคลุมทั้งชนเผ่า เมื่อวนครบรอบแล้วก็ยกมือขวาขึ้น กระบี่เล็กแสงดำทะลวงผ่านทุกกระโจมหนังและพาโลหิตสดกลับมา

เพียงแต่จุดที่มันผ่านล้วนเป็นที่พักของนักรบเชมัน พวกเขาบาดเจ็บสาหัสเลยหมดสติ จึงไม่อาจออกมาข้างนอกได้

ตอนที่กระบี่เล็กแสงดำกลับมาอยู่ข้างซูหมิง ในเผ่าเชมันกิ้งก่าไม่มีนักรบเชมันอีก หลายร้อยคนที่เหลือล้วนเป็นชาวเผ่าธรรมดา

แม้จะเป็นชาวเผ่าธรรมดา ทว่าสายตาเคียดแค้นเหล่านั้น ลูกธนูที่พุ่งมาเหล่านั้น ล้วนแฝงไว้ด้วยความคลุ้มคลั่งต่อซูหมิง

เสียงสะอื้นไห้ดังแว่วเข้ามา เป็นเสียงร้องไห้ของสตรี เป็นความหวาดกลัวของเด็กๆ ที่มากกว่าคือน้ำตาไร้เสียงซึ่งรินไหลมาจากหางตาชาวเผ่าโดยรอบท่ามกลางศพนอนกระจัดกระจายของนักรบเชมัน

ซูหมิงมองพวกเขาอย่างเงียบๆ เขาเข้าใจความแค้นในแววตาของอีกฝ่าย ทว่าหากซูหมิงไม่ได้มาด้วยวิธีแบบนี้ แต่ถูกชายชราเผ่าเชมันจับมาเหยียบอยู่บนพื้นแล้วหลอมเขาเป็นหุ่นเชิดเชมัน พวกเขาเหล่านี้คงไม่มีใครมีแววตาเห็นใจ แต่จะเป็นตื่นเต้นด้วยความเหี้ยมโหด และยังมีเสียงโห่ร้องอย่างมีความสุข

นี่คือความเศร้าโศกจากการสูญเสียญาติพี่น้องในสงคราม

ต่อให้ไม่เข้าร่วมสงคราม…ก็ต้องรับความเศร้าโศกนี้

ลูกธนูแต่ละดอกยังคงลอยเข้ามาไม่หยุด โดยเฉพาะเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาตาแดงเถือก มือซ้ายถูกสายธนูดีดจนแตก มีโลหิตไหล ทว่าเขาเหมือนไม่รับรู้ความเจ็บปวด กัดฟันดึงสายธนูครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ลูกธนูนั้นจะทำอันตรายศัตรูที่เขาอยากสังหารไม่ได้ก็ตาม

จนท้ายที่สุดซูหมิงมองเด็กหนุ่มคนนั้น

เขามองเด็กหนุ่มพร้อมกับเดินเข้าไปทีละก้าว เมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นเห็นซูหมิงเดินเข้ามาจึงตะโกนเสียงดัง แล้วถือคันศรพุ่งตัวเข้าใส่ซูหมิง สีหน้าเขามีเจตจำนงอันแน่วแน่ นั่นคือความบ้าคลั่งที่ต่อให้ตายก็ต้องกัดศัตรูให้ได้หนึ่งแผล

ทว่าเมื่อเขาทะยานมาอยู่ตรงหน้าซูหมิง ตัวเขาหยุดชะงักเองภายใต้สายตาของศัตรู ความน่าเกรงขามในแววตาทำให้เขาควบคุมตัวเองมิได้ ทำได้เพียงหยุดอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย

ดวงตาของเขามีน้ำตารินไหล ในน้ำตามีความบ้าคลั่ง มีความแค้น…ซูหมิงมองเด็กหนุ่ม ยกมือขวาขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าเขา

“เดิมทีไม่ควรเป็นเช่นนี้…” ซูหมิงกล่าวเบาๆ

“ข้าช่วยชีวิตเจ้า สังหารงูตัวนั้น…ข้ากับเจ้าไม่มีความแค้นต่อกัน…”

เด็กหนุ่มจ้องซูหมิงเขม็ง ความแค้นในแววตากลายเป็นความอาฆาตพยาบาท

“เหตุใดต้องรายงานข่าว…เพราะว่าข้าเป็นเผ่าหมาน ส่วนเจ้าเป็นเผ่าเชมันอย่างนั้นรึ…” ซูหมิงมองเด็กหนุ่ม ช่วยเขาเช็ดน้ำตาตรงหางตาอีกข้าง

“ข้าใจอ่อนเพียงครั้งเดียว ทำให้ข้าต้องจ่ายในราคาที่สูงลิ่ว…นี่เป็นความผิดของข้า ข้าต้องยอมรับความผิดพลาดที่จำฝังใจในครั้งนี้ เจ้าก็เช่นกัน เพราะว่าเจ้าพลาดแล้ว” ซูหมิงกล่าวอย่างสงบ

เด็กหนุ่มตัวสั่นเทา นัยน์ตามีความสับสน น้ำตาไหลรินมากขึ้น ในแววตาของเขา ซูหมิงเห็นการสำนึกเสียใจบางๆ

“เดิมทีไม่ควรเป็นเช่นนี้…” ซูหมิงมองเด็กหนุ่มผู้นี้ หมุนตัวกลับแล้วเดินไปทางประตูใหญ่ทีละก้าว ตอนที่เขาเดินออกจากประตูใหญ่ เขาได้ยินเสียงคำรามจากเด็กหนุ่มด้านหลัง

ในเสียงคำรามนั้นมีความแค้น มีความคลุ้มคลั่ง และมีการสำนึกเสียใจภายหลังหยั่งลึก…

ซูหมิงไม่หันกลับไปมองอีก เขาเดินออกจากหมู่บ้านเข้าไปในป่าทึบ มายืนข้างเทียนเสียจื่อ

“อาจารย์ กลับบ้านกันเถอะ…” น้ำเสียงของซูหมิงดูเหนื่อยล้า

“ข้าคิดว่าที่เจ้ามาที่นี่ก็เพื่อทำลายล้างเผ่านี้” เทียนเสียจื่อมองซูหมิงด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

“ข้ารู้สึกถึงกลิ่นอายพลังของอาจารย์ในตัวเขา” ซูหมิงเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่มองเทียนเสียจื่อ แต่มองไปทางกำแพงหมอกนภาแล้วกล่าวอย่างเหนื่อยล้า

“ข้าเป็นคนปลุกเขาเอง นี่ก็คือเผ่าเชมัน มีความอาฆาตแค้นกับเผ่าหมานของเรา หากเจ้ายังไม่เข้าใจ ในสงครามล่าเชมัน ราคาแบบนี้เจ้าอาจต้องใช้ชีวิตเพื่อจ่ายมัน” เทียนเสียจื่อหลับตา กล่าวเรียบๆ

ซูหมิงเงียบงัน

“ล่าสังหารคู่ดาราด้วยตัวคนเดียวและเด็ดหัวอีกฝ่ายมาได้ ถือว่าน่าชื่นชม!”

“ถูกลอบโจมตีในป่าทึบ เผชิญหน้ากับนักรบเชมันสิบกว่าคนยังไม่ตื่นตระหนก และสังหารด้วยจิตใจสงบ เรื่องนี้น่าชื่นชม!”

“รับมือกับผู้แข็งแกร่ง ใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดเปิดฉาก ไม่กระหายในการต่อสู้ รู้ขีดจำกัดตัวเองและล่าถอย เรื่องนี้น่าชื่นชม!”

“ขณะถูกล่าสังหาร ไม่ใช้พลังหมานแต่เลือกหลบหนี วิเคราะห์สถานการณ์และโจมตีสวนกลับ ไม่ใช้ความแข็งแกร่งเป็นความกลัว เรื่องนี้น่าชื่นชม!”

“ร่วมมือกับเสี้ยวจิตของไป๋ฉางไจ้ ตระหนักรู้ในรูปแบบแรกของตัวเอง เรื่องนี้น่าชื่นชมมาก!”

“ทว่าใจอ่อน ปล่อยเด็กหนุ่มคนนั้นไปในครั้งแรก เรื่องนี้ผิด!”

“ในเมื่อรู้ทุกอย่าง แต่พอกลับมาถึงนี่แล้วก็ยังคงปล่อยเด็กคนนั้นไป เรื่องนี้….ผิดอย่างใหญ่หลวง! ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า ความผิดพลาดของเจ้า ข้าจะแก้ไขให้มันถูกต้องเอง!” เทียนเสียจื่อหมุนตัวกลับเตรียมจะเข้าไปในชนเผ่าเชมัน

“อาจารย์!” ซูหมิงมองเทียนเสียจื่อ แม้สีหน้าเหนื่อยล้า ทว่าแววตากลับเรียบนิ่ง

“นี่คือการสร้างของข้า…”

เทียนเสียจื่อพลันหยุดชะงัก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version