ตอนที่ 311 จื่อเชอ…ไปเอามา
“หากข้าไม่รู้คงไม่ประมูล” ซูหมิงเบนสายตาจากหินโปร่งใสมาที่ชาวเผ่าตี๋หลัวเสื้อขาวดำสองสี
ชายร่างซูบผอมเผ่าตี๋หลัวจ้องซูหมิง สีหน้าทะมึนทึบ เขาไม่มีเหรียญหินมากนัก มางานประมูลครั้งนี้เดิมทีก็ไม่มีของที่ต้องการเป็นพิเศษอยู่แล้ว กลับไม่คิดเลยว่าจะมาเจอหินภูเขาที่นี่!
ตอนที่เห็นของสิ่งนี้ ความฮึกเหิมในใจเขามากเกินกว่าทุกคนในลานประมูล อีกทั้งสิ่งที่ทำให้เขายิ่งปีติคือสิ่งนี้เป็นของหายากยิ่ง ผู้อื่นไม่มีทางรู้ประวัติของมัน มีเพียงเขาคนเดียวที่รู้วิธีใช้!
ตอนแรกก็คิดว่าจะได้มาง่ายๆ อีกทั้งราคาเริ่มต้นยังไม่สูง นี่ทำให้เขาตื่นเต้น ในเวลาเดียวกันก็ไม่อาจควบคุมความกระหายและความปรารถนา
ทว่า…ระหว่างนั้นซูหมิงกลับโผล่ออกมา!
หนึ่งล้านคือขีดจำกัดของเขา เขาไม่มีเหรียญหินมากกว่านี้แล้ว แม้ปรารถนาในของสิ่งนี้ถึงขั้นที่ไม่อาจบรรยายได้ แต่ด้วยความขัดสน ทำให้ดวงตาเขาเริ่มมีเส้นเลือดฝอย
“เขาพูดโกหก! ท่านที่นำของสิ่งนี้มาประมูล มีแค่ข้าคนเดียวที่รู้ว่ามันคืออะไร นอกจากข้าแล้วไม่มีใครรู้!” ชาวเผ่าตี๋หลัวตะโกนเสียงดังกับทุกคนโดยรอบ
คนส่วนใหญ่โดยรอบกลับไม่สนใจ แม้มีคนที่มองเขา ทว่านัยน์ตาก็วูบไหว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“ผู้ประมูลห้องหมายเลขเก้า ในเมื่อมีคนสงสัยว่าท่านรู้จักของสิ่งนี้จริงหรือไม่ ข้าจะให้โอกาสท่านหนึ่งครั้ง บอกมาว่ามันคืออะไร!” น้ำเสียงเรียบๆ ดังแว่ว คนที่กล่าวมิใช่เจ้าของหินภูเขาลึกลับ แต่เป็นชายชราผมฟ้าผู้ดำเนินงานประมูล
“หากท่านตอบไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องเสียโอกาสในการเคาะประมูลครั้งนี้ไป ขอเรียนให้ทราบอย่างยุติธรรม!” นัยน์ตาชายชราผมฟ้าขยับประกาย กล่าวขึ้นเนิบช้า
“อ้อ? หรือว่าทุกคนที่จะซื้อต้องบอกว่ามันคืออะไรต่อหน้าทุกคนในลานประมูลรึ?”
ซูหมิงยิ้มทีเล่นทีจริง มองชายชราผมฟ้าแวบหนึ่ง
“ไม่ผิด นี่เป็นกฏ!” ชายชราผมฟ้ากวาดสายตามองซูหมิงพร้อมพยักหน้า
ยามนี้ชาวเผ่าตี๋หลัวหายใจกระชั้นถี่ เขายอมล่วงเกินซูหมิงเพื่อหินก้อนนี้ ในความคิดเขา เมื่อได้หินมาแล้วจะรีบจากไปทันที ไม่แน่ว่าอาจจะกลับถึงเผ่าก่อนคนอื่นหาเขาพบ
“กฎนี้ไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไร หากข้าบอกแล้วมีคนเคาะประมูลต่อ ถ้าเขาเลียนแบบคำพูดข้าจะทำอย่างไร? หากบอกว่าได้ เว้นเสียแต่จะไม่ให้ใครเคาะประมูลอีก มีแค่เขากับข้าสองคน หากเป็นเช่นนี้ถึงจะเรียกว่าสำนักทะเลตะวันออกยุติธรรม อีกอย่างหากข้าบอกประวัติของมันและซื้อไปแล้ว ไม่ต้องนำมาส่งหลังจากจบงานประมูล ข้าจะรับไปตรงนี้เลย” ซูหมิงกล่าวช้าๆ น้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อน
“ได้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครเคาะประมูลมันอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะไม่รับการเคาะประมูลของผู้อื่นอีก ตอนนี้ผู้มีสิทธิครอบครองมีแค่พวกท่านสองคน หากท่านได้ไปก็เอาไปได้เลย” ชายชราผมฟ้ายิ้มเยาะในใจ เอ่ยเสียงหนักแน่น
“ของสิ่งนี้เป็นวิญญาณกลางหินจริงๆ ทว่าจุดสำคัญไม่ได้อยู่ที่คนแคระสีดำข้างใน แต่เป็นตัวหินภูเขา หากใช้วิธีการพิเศษบางอย่างบรรจุมันไว้ในร่างกาย ก็จะทำให้พลังโลหิตเข้มข้นขึ้นได้ อีกทั้งยังบ่มเพาะจิตใจ ใช้ตอนนั่งฌานฝึกฝน
ส่วนคนแคระสีดำข้างใน หินภูเขาก้อนนี้รวมมันขึ้นจากการดูดซับหมอกตะกอนฟ้าดิน สิ่งนี้มีพิษ ทว่าไม่ถึงแก่ชีวิต ถึงกระนั้นก็ส่งผลต่อการเติบโตในด้านขั้นพลัง ต้องใช้วิธีพิเศษเอามันออก หากทำสะเพร่าจะได้ไม่คุ้มเสีย!” ซูหมิงกล่าวเสียงราบเรียบดังกังวานทั่วลานประมูล
“เจ้าพูดมั่ว! มันไม่จริง!” ชาวเผ่าตี๋หลัวตะโกนเสียงดังพลางจ้องซูหมิง นัยน์ตาฉายแววเคียดแค้น ความแค้นนี้พิลึกนัก ในความรู้สึกเขา ซูหมิงตั้งใจไม่ยอมปล่อยสิ่งนี้ให้ตน
ซูหมิงเผยยิ้มบาง เขาไม่สนใจพวกคนที่ไม่รู้จักเก็บงำอารมณ์ตัวเอง เขาสนใจแต่คนที่ไม่เผยอารมณ์ให้ผู้อื่นเห็นและอ่านไม่ออกเท่านั้น
“ข้าพูดจบแล้ว ต่อไปเป็นเจ้าบ้าง สิ่งนี้คืออะไร?”
ซูหมิงเอ่ยยามมองชาวเผ่าตี๋หลัวผู้นั้น
ชายชราผมฟ้ามีสีหน้ามืดทะมึน ทว่าไม่อาจตัดสินซูหมิง ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร
“ในเมื่อท่านมั่นใจว่าผู้ประมูลห้องหมายเลขเก้าพูดโกหก เช่นนั้นก็บอกมาว่าสิ่งนี้คืออะไร ข้าบอกท่านได้เพียงว่าผู้นำสิ่งนี้มาประมูลอยู่ที่นี่แล้ว! หากพูดให้เขาพอใจ บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจ” ชายชราผมฟ้ามองชาวเผ่าตี๋หลัวร่างผอม
“สิ่งนี้…” ชาวเผ่าตี๋หลัวเงียบไปครู่หนึ่ง เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี หากพูดตามความจริง ข้ามเรื่องที่ว่าตนจะได้สิ่งนี้หรือไม่ไปก่อน ลำพังแค่ภยันตรายตอนนี้ก็ทำให้เขาหวุดหวิดเกือบตายแล้ว กระทั่งหากกลับถึงเผ่ายังเป็นไปได้สูงมากว่าจะเป็นการนำภัยพิบัติเข้าสู่ชนเผ่า
ทว่าหากไม่พูดก็ต้องมองของสิ่งนี้ถูกอีกฝ่ายซื้อไป และนั่นเป็นเรื่องที่เขาไม่ยอม
ชาวเผ่าตี๋หลัวจ้องซูหมิง พลันยิ้มมุมปากชั่วร้าย
“ของสิ่งนี้เรียกว่าหินแม่เหล็กพันธนาการ ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เจ้าพูดโดยสิ้นเชิง จุดสำคัญของสิ่งนี้มิใช่หินภายนอก แต่เป็นคนแคระสีดำภายใน คนแคระนี้เรียกว่าภูตหิน มันรวมขึ้นจากพลังฟ้าดินตามธรรมชาติ ประโยชน์มากที่สุดของมันคือเมื่อบรรจุในร่างกายแล้วหลอมละลาย จะทำให้ขั้นพลังเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย
แต่จะให้เป็นประโยชน์ที่สุดจริงๆ คือต้องใช้กรรมวิธีของเผ่าตี๋หลัวของข้า แกะสลักมันเป็นสมบัติป้องกันตัว!
สมบัติชิ้นนี้หากฝึกฝนคู่กับชีวิต จะตายแทนได้หนึ่งครั้ง!” กล่าวจบ ลานประมูลพลันเงียบกริบ ทุกสายตาล้วนจับจ้องหินโปร่งใส สีหน้าฉายแววต่างกันไป
“ข้าไม่มีกำลังพอจะซื้อสิ่งนี้และก็ไม่อยากซื้อแล้วด้วย หากเจ้าชอบก็ซื้อไป ข้าอยากรู้นักว่าสมบัติที่ตายแทนได้หนึ่งครั้งเช่นนี้ เจ้าจะปกป้องมันอย่างไร! อีกทั้งไม่มีกรรมวิธีการสร้างแบบพิเศษของเผ่าตี๋หลัว สิ่งนี้มันจะมีประโยชน์อะไร!” ชายวัยกลางคนร่างซูบผอมยิ้มเยาะแล้วนั่งลง
เขารู้สึกลำพองใจว่าตัวเองทำได้ไม่เลว การพูดแบบนี้ บวกกับที่ตนยอมทิ้งโอกาสให้อีกฝ่าย แรงชักจูงก็จะมากยิ่งขึ้น เพียงแต่เขาคงคิดไม่ถึงว่า คนที่เขามองข้ามและใช้คำพูดล่วงเกินมิได้มีเพียงแค่ซูหมิงคนเดียว
กระทั่งซูหมิงยังเป็นแค่รอง คนที่เขาล่วงเกินไปแล้วจริงๆ คือบุคคลลึกลับที่นำของสิ่งนี้มาประมูล!
บางทีหากคนในแผ่นดินเหมันต์สวรรค์คิดจะตามหาบุคคลลึกลับผู้นี้อาจยุ่งยากสักเล็กน้อย ทว่าหากเป็นสำนักทะเลตะวันออกกลับง่ายยิ่งนัก อีกทั้งบุคคลนี้ยังอยู่ในลานประมูล หากสำนักทะเลตะวันออกเชื่อเรื่องนี้ บุคคลลึกลับผู้นี้จะตกอยู่ในอันตรายทันที
ซูหมิงมีสีหน้าลังเลใจ เขามองหินภูเขาก้อนนี้ก่อนมองชาวเผ่าตี๋หลัวอีกครา แล้วส่ายศีรษะ
“ของสิ่งนี้อาจเป็นข้าที่มองพลาดเอง หากเป็นอย่างที่สหายผู้นี้พูดจริงๆ เช่นนั้นแซ่ซูขอสละสิทธิ์ สมบัติล้ำค่าขนาดนี้ไม่ควรเรียกว่าสมบัติ แต่ต้องเรียกว่าภัยพิบัติพรากชีวิต” ซูหมิงถอนหายใจ
ช่วงที่ซูหมิงกล่าว ชาวเผ่าตี๋หลัวคนนั้นตะลึงงัน สีหน้าเปลี่ยนในฉับพลัน เข้าใจแล้วว่าที่ตนพูดเมื่อครู่พลาดไปตรงไหน
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางกลุ่มคนในลานประมูล มีชายเสื้อคลุมดำสวมงอบผู้หนึ่ง ยามนี้สีหน้าใต้งอบทะมึนทึบยิ่งนัก กำหมัดขวาแน่นโดยไม่รู้ตัว ยามเงยหน้าขึ้นนัยน์ตามีจิตสังหาร จิตสังหารนี้มิได้เจาะจงที่ซูหมิง แต่เพ่งไปที่ชายซูบผอมเผ่าตี๋หลัว
เขาเป็นคนติดต่อให้สำนักทะเลตะวันออกนำหินก้อนนี้มาประมูลเอง ยามนี้ความแค้นต่อชาวเผ่าตี๋หลัวผู้นี้เหลือล้น นี่เท่ากับว่าผลักเขาเข้ามาอยู่ตรงจุดที่เรียกว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก อีกทั้งหากประมาทแม้เพียงเล็กน้อย เขาคงเดินออกไปจากเผ่าชั่วคราวของสำนักทะเลตะวันออกนี้ไม่รอด
กระทั่งเขารู้สึกถึงสายตาของชายชราผมฟ้า บางคราก็กวาดสายตามองตนด้วยความประหลาดใจ
“พูดจาไร้สาระ!” ชายผู้นั้นพลันยืนขึ้น วูบไหวตัวไปลอยอยู่กลางอากาศ น้ำเสียงปานสายฟ้าดังสนั่นหวั่นไหว
“ข้าเป็นคนนำสิ่งนี้มอบให้สำนักทะเลตะวันออกประมูลเอง มันอยู่กับข้ามาหลายปี ถามมาหลายคนแล้ว แม้บอกว่าไม่มีคำตอบอย่างละเอียด ทว่าสิ่งนี้มิใช่หินแม่เหล็กพันธนาการอะไรนั่น เป็นอย่างที่สหายห้องหมายเลขเก้าบอกจริงๆ มันมีเพียงชื่อเดียวคือวิญญาณกลางหิน!
สหายเผ่าตี๋หลัวกล่าวเช่นนี้เป็นการทำร้ายข้าด้วยจิตใจเหี้ยมโหด
เรื่องนี้ข้าไม่ยอม! ข้าอยากรู้นักว่าเผ่าตี๋หลัวของเจ้าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนบนแผ่นดินเหมันต์สวรรค์แล้ว จะอธิบายเรื่องในวันนี้อย่างไร!”
ชายร่างกำยำผู้นั้นถอดงอบออก เผยให้เห็นใบหน้าหยาบกร้าน เขาต้องทำเช่นนี้ หากปิดใบหน้าเกรงว่าจะยิ่งอธิบายเรื่องนี้ลำบาก
“ทุกท่านเห็นหน้าค่าตาของข้าแล้ว ไม่มีอะไรจะปิดบังอีก เผ่าตี๋หลัว หลังจากจบงานประมูลข้าจะเชิญสำนักทะเลตะวันออกมาเป็นพยาน เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เจ้าพูดเป็นจริงหรือไม่! หากเป็นเท็จ เรื่องนี้เจ้าต้องหาคำอธิบายมาให้ข้าพอใจ!” ชายร่างกำยำหยาบกร้านมีสีหน้าโกรธเกรี้ยว กล่าวจบจึงมองซูหมิง สีหน้าโกรธหายไป
“ประโยชน์ของสิ่งนี้ตามที่ข้าเข้าเข้าใจ ตรงกับที่สหายห้องหมายเลขเก้าบอกเล็กน้อย แต่ข้อมูลบางอย่างข้าก็ไม่เคยรู้มาก่อน ในที่สุดวันนี้ข้าก็ได้รู้ สหายท่านนี้ ขอบคุณมากที่บอกประโยชน์จริงๆ ของมัน ข้าขอให้คำมั่นอีกครั้งว่าคำสัญญาที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ไม่เป็นเท็จแน่นอน เจ้าจะซื้อมันหนึ่งล้านเหรียญหิน ข้าก็จะให้เจ้าหนึ่งล้านเหรียญหิน และยังมีก้อนผลึกสีดำที่รับปากเอาไว้ ขอมอบให้เจ้าไปด้วย!”
ขณะเอ่ย เขาหยิบกระเป๋าหนึ่งใบมาจากอกเสื้อแล้วสะบัดมือไปทางซูหมิง เมื่อซูหมิงรับเอาไว้แล้ว ชายร่างกำยำจึงหมุนตัวกลับไปนั่งที่เดิม สีหน้ายังคงทะมึน
เขาเจ็บปวดในใจ ทว่ากลับต้องทำเช่นนี้ หากไม่มอบมันให้ซูหมิง เช่นนั้นแรงชักจูงที่เขาพูดก่อนนี้จะลดน้อยลง
ยามนี้ทุกคนเห็นเขาส่งหินพวกนี้ให้ซูหมิง จึงเห็นได้ว่าเขาเป็นใจกว้าง ขณะเดียวกันเขาก็มีแผนสำรองเอาไว้ ต่อให้ชาวเผ่าตี๋หลัวผู้นี้พูดจริงก็จะมีคนแบ่งภาระไป เป้าหมายของสำนักทะเลตะวันออกจะอยู่ที่อีกฝ่าย
ตอนนี้เขาวางแผนเอาไว้เท่านี้ก่อน
เมื่อซูหมิงรับกระเป๋ามา เขามองแวบหนึ่งแล้วเก็บเข้าอกเสื้อ ยิ้มพลางประสานมือคารวะชายร่างกำยำ จากนั้นก็เตรียมเหรียญหินตามจำนวนส่งให้จื่อเชอ แล้วชี้ไปยังหินภูเขาตรงกลางลานประมูล
“สิ่งนี้เป็นของข้าแล้ว จื่อเชอ ไปเอามาให้ข้า”
จื่อเชอเคลื่อนไหว กลายเป็นสายรุ้งยาวตรงไปยังกลางลานประมูล จากนั้นสะบัดแขนเสื้อข้างหินภูเขาก้อนนั้น ม้วนมันแล้วดึงกลับห้องหมายเลขเก้าอย่างรวดเร็ว