Skip to content

สู่วิถีอสุรา 449

ตอนที่ 449 ดอกวิญญาณภูติ

ซูหมิงให้อะไรแก่ชายชรา มีเพียงพวกเขาสองคนที่รู้ แม้ผู้คนโดยรอบจะมองอยู่ กลับไม่อาจล่วงรู้โดยละเอียด และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ว่าเหตุใดชายชราแห่งวิหารเทพเชมันเห็นว่ามีเพียงห้าเม็ดแล้ว ก็ยังคงเงียบและจุดแสงของวิเศษให้ซูหมิง

เพราะไม่มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายให้อะไรตน เขาจึงต้องหาสิ่งของมาแทนก่อน ทว่าโอสถชำระล้างคุณภาพดีห้าเม็ดนี้ ย่อมกลายเป็นของส่วนตัวของชายชรา

วิธีแลกเปลี่ยนที่เหมือนจะชัดเจน แต่ปกปิดเงื่อนไขเอาไว้เช่นนี้ ผู้อาวุโสแห่งวิหารเทพเชมันไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธ กระทั่งเขายังชอบผลแบบนี้ยิ่งนัก สายตาที่มองซูหมิงต่างไปเล็กน้อย ส่วนเบื้องหลังโอสถชำระล้าง หากเขาอยากรู้ย่อมไม่ใช่ปัญหา

‘บุคคลนี้มีประสบการณ์สูง และเป็นคนฉลาด…’ ผู้อาวุโสแห่งวิหารเทพเชมันเก็บถุงไป มองซูหมิงแวบหนึ่ง ก่อนไม่สนใจอีก

เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ผู้คนจึงมองซูหมิงมากกว่าคนอื่นๆ ทว่าช่วงที่เสียงซ่าๆ ดังขึ้น และคนอื่นเริ่มเปิดหินด้วยความตึงเครียด สายตาจับจ้องเหล่านั้นก็ค่อยๆ กระจายกันออกไป

ซูหมิงไม่สนใจคนรอบข้าง เขามองของวิเศษทรงวงแสงตรงหน้า ยกมือขวาขึ้นกดไว้ด้านบน ขณะหลับตาลงพลันมีความรู้สึกเหมือนหลอมรวมกับของวิเศษเป็นหนึ่งเดียว ราวกับว่าควบคุมให้มันตัดได้ตามใจ

ก่อนหน้านี้เขาเห็นเพียงคนอื่นใช้ ยามนี้มาควบคุมเองและลองสัมผัสครู่หนึ่งแล้ว เขาก็ชี้มือซ้ายไปยังหินแดง หินนั้นพลันตรงเข้ามายังวงแสง หลังจากถูกวงแสงห่อหุ้มเอาไว้ข้างในมันก็เริ่มหมุนช้าๆ ทุกครั้งที่วงแสงหมุนจะมีเศษหินร่วงหล่นลงไม่น้อย

ขณะวงแสงหมุน ซูหมิงยังคงหลับตา จิตสัมผัสรวมอยู่ตรงคนเล็กสีดำในถุงเก็บวัตถุ ผ่านไปครู่หนึ่ง ตอนที่ซูหมิงได้กลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ อีกครั้ง

เขาเห็นคนเล็กสีดำตัวสั่นเทา ตรงระหว่างคิ้วขยับวูบไหว ก่อนปรากฏเป็นภาพดอกไม้พิลึกสามกลีบสีดำอีกครั้ง

เมื่อเทียบกับความเร็วในการเปิดอย่างช้าๆ ของซูหมิง ยามนี้มีคนบางคนเปิดหินออกแล้วต้องผิดหวัง ผลึกเชมันที่จ่ายไปสูญสิ้นหายในพริบตา

เวลาผ่านไป มีคนเปิดหินแดงเยอะขึ้นเรื่อยๆ พวกเขามีสีหน้าเศร้าซึม ถอนหายใจยาวพร้อมกับหินสีแดงที่แหลกละเอียดในวงแสง แล้วกลับลงมายังกลุ่มคนโดยไม่ได้อะไรเลย

ยามนี้บนอากาศยังมีคนที่กำลังตัดหินอยู่แค่สิบกว่าคน ผ่านไปพักหนึ่งก็มีเสียงโครมครามดังขึ้น หินสีแดงของอีกเจ็ดคนแตกละเอียด ภายในว่างเปล่า ก่อนคนเหล่านั้นจะจากไปพร้อมกับรอยยิ้มเฝื่อน

คนที่ยังตัดหินอยู่กลางอากาศตอนนี้ รวมซูหมิงแล้วเหลือเพียงสี่คน! ซูหมิงยังคงหลับตาไม่สนใจผู้ใด ค่อยๆ หมุนวงแสง ทำให้หินมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ บ้างก็เล็มตรงมุม จิตสัมผัสรวมอยู่ในตัวคนเล็กสีดำและสังเกตภาพวูบไหวตรงระหว่างคิ้วมัน

ผ่านไปอีกหลายลมหายใจก็มีเสียงหินแตกกระจายอีกครั้ง คนบนท้องฟ้าเหลือสามคน ทว่าทันใดนั้น ก้อนหินสีแดงตรงหน้าเด็กหนุ่มเผ่าเชมันหนึ่งในสามคนนี้พลันเปล่งแสงเด่นชัด!

ตอนที่หินเปล่งแสงสีแดง เด็กหนุ่มคนนี้มีสีหน้าตื่นเต้นดีใจ

“แสงพิลึก ฮ่าๆ ข้าเปิดได้แสงพิลึก!”

กลุ่มคนด้านล่างมองตามขึ้นไป ตอนที่เห็นแสงพิลึกก็ล้วนมีสีหน้าตื่นตะลึง

ทว่าเสียงหัวเราะของเด็กหนุ่มยังคงดังกังวาน ขณะในใจกำลังตื่นเต้น หินสีแดงของหนึ่งในสามคนนี้ก็เปล่งแสงสีแดงสว่างจ้าละลานตาเช่นกัน!

ไม่อยากเชื่อว่าจะปรากฏแสงพิลึกด้วย! เจ้าของหินก้อนนี้คือชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ เห็นได้ชัดว่าเป็นเชมันนักสู้ เขาเลียริมฝีปากแล้วหัวเราะ จุดที่เขาอยู่ใกล้กับซูหมิงพอดี ซูหมิงคือหมายเลขเก้าสิบเจ็ด เขาคือเก้าสิบแปด

หินสีแดงสามก้อนนี้มีสองก้อนปรากฏแสงพิลึก จึงดึงดูดความสนใจกับผู้คนด้านล่างอย่างยิ่งและเกิดเสียงพูดคุยฮือฮาขึ้น

“ปรากฏแสงพิลึกสองครั้งพร้อมกัน สองคนนี้โชคดีจริงๆ…”

“บัดซบ ข้าอุฒส่าห์จำเลขนี้เอาไว้แล้ว แต่เขาดันประมูลมากกว่าข้าห้าแสน นะ…นี่….”

ท่ามกลางเสียงสนทนาโดยรอบ หนานกงเหินที่มองซูหมิงอยู่ก็ส่ายศีรษะ ไม่รู้เพราะเหตุใดถึงรู้สึกดีอยู่เล็กน้อย

สองคนที่ครองหินเปล่งแสงพิลึกเจียระไนหินต่อไปอย่างตื่นเต้น ทั้งยังควบคุมให้หนามแหลมทะลวงเข้าไป ส่วนซูหมิงยังคงหลับตา เปลี่ยนตำแหน่งหินอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆ ให้วงแสงเจียระไนเปลือกนอกไปทีละชั้น

ผ่านไปครู่หนึ่ง ท่ามกลางสายตาเฝ้ารอคอยของกลุ่มคนบนพื้น เด็กหนุ่มที่เปิดหินส่องแสงพิลึกกัดฟันด้วยความฮึกเหิม ใช้หนามแหลมทะลวงเข้าไปในหิน หลังจากทำอยู่หลายครั้ง วงแสงนั้นหมุนอย่างรวดเร็ว ก่อนมีเสียงดังโครมมาจากหินแดง จากนั้นหินก็แบ่งออกเป็นสองส่วน

ภายในว่างเปล่า…

เด็กหนุ่มอึ้งงัน เขาตัดมันอีกครั้งอย่างไม่ยอมเหมือนกับหนานกงเหินในตอนแรก จนกระทั่งหินแตกละเอียด ในมือเขาจึงปรากฏหินภูเขาโปร่งใสขนาดเท่าเล็บมือ ทว่าภายในหินนั้นก็ยังไม่มีอะไร

เด็กหนุ่มพลันหน้าซีดขาว จากดีใจกลายเป็นผิดหวัง การเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและใหญ่หลวงยิ่งนัก ทำให้เขายากจะยอมรับไหว

กลุ่มคนด้านล่างเห็นดังนั้นแล้วก็มีเสียงถอนหายใจดังก้อง ขณะเดียวกันพลันมีคนร้องด้วยความตกใจ

“สองสี…นะ…นี่มันแสงพิลึกสองสี ปรากฏสองสีอีกครั้งแล้ว!”

“เป็นสองสีจริงๆ วันนี้ในหินหนึ่งพันก้อนปรากฏสองสีสองครั้ง!”

เมื่อเสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้น ทุกสายตาล้วนมองไปยังชายวัยกลางคนข้างซูหมิง ชายผู้นี้ฮึกเหิมยิ่งนัก หินสีแดงตรงหน้าเขากำลังเปล่งแสงสีแดงและฟ้า!

ท่ามกลางเสียงดังอื้ออึง มีคนเสนอราคาเพื่อซื้อหินก้อนนี้ทันที ส่วนซูหมิง เขาจมอยู่กับภาพวาดตรงระหว่างคิ้วของคนเล็กสีดำในถุงเก็บวัตถุ เขาเริ่มมองออกแล้วว่าภาพนั้นจะค่อยๆ เปลี่ยนไปตามการเจียระไนหิน

กระทั่งช่วงที่เขาปรับตำแหน่งของหิน ดอกไม้ยังกลับด้านตาม

การกระทำของซูหมิงจึงระมัดระวังมาก ยามนี้เขาลืมตาขึ้น มือขวาชี้ไปยังของวิเศษ วงแสงที่หมุนอยู่พลันมีหนามยื่นออกมา ซูหมิงควบคุมให้มันทะลวงเข้าไปในหินสีแดงอย่างไม่ลังเล หลังจากทะลวงอยู่หลายครั้ง บวกกับวงแสงหมุนอย่างรวดเร็วแล้ว ก็มีเสียงดังปึกมาจากข้างใน หินสีแดงก้อนนี้ถูกตัดออกเกือบครึ่ง

วงแสงค่อยๆ หยุดลง ซูหมิงยืนขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนข้างกายเขาหัวเราะเสียงดัง ไม่สนใจคนขอซื้อจากโดยรอบ แต่มองซูหมิงด้วยความลำพองใจแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าไปควบคุมวงแสงให้ตัดหินอีกครั้ง ขณะตัดลงไป นัยน์ตาซูหมิงฉายแววเด็ดขาดพร้อมกับชี้ไปยังของวิเศษ

ของวิเศษหมุนตัดหินสีแดงตรงหน้าซูหมิงออกอีกเกือบครึ่ง เขาทำแทบจะพร้อมกับชายร่างกำยำ หลังจากทั้งสองคนตัดเสร็จแล้ว หินสีแดงตรงหน้าชายร่างกำยำขยับแสงสองสีเด่นชัด อีกทั้งยังสว่างจ้ากว่าก่อนหน้านี้อีกเล็กน้อย สิ่งนี้เพียงพอจะทำให้ทุกคนโดยรอบหน้าเปลี่ยนสี แม้แต่ผู้อาวุโสแห่งวิหารเทพเชมันยังเพ่งมองไป

ขณะเดียวกัน เมื่อแสงสองสีขยับวูบวาบเด่นชัด อากาศด้านหลังหินสีแดงของชายร่างกำยำที่อยู่ใกล้กับซูหมิงพลันเกิดระลอกคลื่นบิดเบี้ยว ระลอกคลื่นนั้นก่อรูปเป็นภาพยักษ์!

ภาพนั้นคือดอกไม้สีดำ! ดอกนี้มีสามกลีบ ทุกกลีบล้วนมีใบหน้าโครงกระดูกผี ลักษณะน่าสะพรึง ขณะเดียวกัน ดอกไม้ดำนี้ยังดูน่าทึ่ง แต่ภาพนั้นก็เลือนรางยิ่งนัก เห็นชัดเพียงคร่าวๆ

ช่วงที่ปรากฏเงาดอกไม้นี้ มีเสียงดังฮือฮามากที่สุดในงานพนันครั้งนี้จากกลุ่มคนด้านล่าง อีกทั้งยังมีคนยืนขึ้นจำนวนมาก กระทั่งบางคนยังบินขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“เงา! นี่คือเงา!”

“มะ…ไม่อยากเชื่อว่าจะปรากฏเงา นี่มันดอกไม้อะไร?”

“ดอกวิญญาณภูติ! ดอกวิญญาณภูติสามกลีบ!”

“สองสีหนึ่งเงา มารดามันเถอะ เชมันนักสู้ผู้นี้ได้กำไรแล้ว ทีนี้ต้องมาดูว่าของที่เขาเปิดได้กลายเป็นหินมากเท่าไร หากเป็นหินเจ็ดส่วน มีผลสามส่วนละก็ เขาคงขายมันได้ราคาสูงกว่าเส้นผมเมื่อครู่นี้!”

ผู้อาวุโสแห่งวิหารเทพเชมันมีสีหน้าตื่นตะลึงโดยไม่อาจปกปิดเป็นครั้งแรก เขายืนขึ้นจ้องดอกวิญญาณภูติสามกลีบในภาพมายา นัยน์ตาเฝ้าปรารถนา

ไม่เพียงแค่เขา ในวิหารใหญ่ทั้งแปดโดยรอบ ยามนี้แทบทุกคนล้วนมองตาไม่กะพริบ

“ดอกวิญญาณภูติ…สิ่งนี้ไม่อาจนำไปปรุงยา ประโยชน์ที่ดีที่สุดคือใช้มันให้กำเนิดวิญญาณภูต วิญญาณภูตที่ว่านี้ไปได้ทุกแห่งหน ผนึกทุกอย่างแทบไม่มีผลกับมัน อีกทั้งหากซ่อนเอาไว้ก็ยิ่งยากจะหาเจอ…

ตำนานเล่าว่าหากมีห้ากลีบจะถือกำเนิดวิชาห้าภูติ…

วิชาห้าภูตสามารถหลอมร่างกายเข้าสู่ภายใน หลังจากถูกหลอมรวมจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สวรรค์ลืมตาก็มองไม่เห็น! เชมันนักสู้คนนี้มีโชคดีมากจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าขะ….เขาจะเปิดได้ดอกวิญญาณภูต! หืม เหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง…” หนานกงเหินมองค้าง ขณะพึมพำเบาๆ ก็พลันเบิกตากว้าง

ยามนี้ชายร่างกำยำเชมันนักสู้หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง มีท่าทางฮึกเหิม ราวกับเส้นเลือดจะระเบิดออก เขาเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้าขณะตัวยังสั่น ทว่าสีหน้าเริ่มเปลี่ยนสี และมองซูหมิงด้วยความเหลือเชื่อ

ขณะเดียวกัน คนมากขึ้นก็เริ่มมองเห็นสิ่งผิดปกติ…..

“ผิดแล้ว นี่ไม่ใช่เงาของชายร่างกำยำ แต่เป็นของคนสวมหน้ากากข้างๆ ต่างหาก!”

“ของชายร่างกำยำยังเป็นสองสี แต่ของโม่ซูข้างๆ ต่างหากที่เพิ่งปรากฏเงาดอกวิญญาณภูติ…”

เสียงเกรียวกราวดังมากขึ้นเรื่อยๆ สายตาจำนวนมากเลิกสนใจชายร่างกำยำแต่มองซูหมิงเป็นตาเดียว เสียงสนทนาดังกระหึ่ม

ซูหมิงมีสีหน้าเช่นปกติ ทว่าในใจตึงเครียดเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าจะปรากฏภาพเงาเช่นนี้ขึ้น

“น้องโม่ซู ขายหินสีแดงให้ข้าเถอะ เฮอะๆ เรื่องราคาเราคุยกันได้!” ภายในแปดวิหารใหญ่มีเสียงของเถี่ยมู่ดังแว่วออกมา พร้อมกันนั้น เถี่ยมู่ก็เดินออกมาจากวิหารใหญ่ด้วยตัวเอง จากนั้นประสานมือคารวะซูหมิงพลางส่งเสียงหัวเราะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version