ตอนที่ 735 ทะเลตะวันออก
ซูหมิงกับยอดจ้าวเชมันไม่ได้มีความอาฆาตแค้นต่อกัน
ไม่ว่าจะชาติก่อนในวัฏจักรหรือตอนนี้ก็เรียกไม่ได้ว่าความแค้น มีเพียงสิ่งเดียวที่เป็นจุดสำคัญคือการเจอกันในสงครามหมานกับเชมัน
การต่อสู้ครั้งนี้ก็จบลงเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ซูหมิงไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทว่าผลแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ดี
โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นความคุ้นเคยคล้ายๆ กับตัวเองจากยอดจ้าวเชมัน นั่นคือการต่อสู้ดิ้นรนจากความตายไปสู่ความเป็น หรือดวงชะตาแห่งเก้ามรณะ เพียงแต่ว่าดวงชะตานี้มีคนมอบให้เขา การจะพัฒนาและผสานรวมกับมันจึงเป็นเรื่องยากมาก
ซูหมิงเอาโลหิตต้นกำเนิดเชมันทั้งหมดไปจากเกาะเทพเชมัน ตอนจากไปยอดจ้าวเชมันมาส่งด้วยตัวเองถึงพันลี้ แล้วประสานมือคาระลาจากกัน จากนี้ไปเขายังต้องฝึกฝนเก้าดวงชะตา ทว่า…ก็มีเพียงเก้าดวงชะตาเท่านั้น หากตายตอนฟื้นคืนชีพครั้งที่เก้า เขาคงไม่ฟื้นคืนชีพกลับมาอีก
สาเหตุก็เพราะว่าเขาทำลายกายหยาบไปแล้ว มันอาจดูเป็นการกระทำโง่เขลา ทว่ามีแค่ซูหมิงกับเด็กหนุ่มสองคนที่เข้าใจว่า หากไม่ทำลายก็จะไม่เริ่มต้น! เหมือนกับหัวใจที่ไร้ความปรารถนาต่อชีวิต จะไปมีความกระหายต่อชีวิตได้อย่างไร หากไม่กระหายที่จะมีชีวิต เช่นนั้นจะฝืนชะตาได้อย่างไร!
“บุญคุณครั้งนี้ข้าแซ่หมิงจะจำเอาไว้ในใจ จากนี้หากต้องการอะไร ข้า…..จะต้องตอบแทนบุญคุณอย่างแน่นอน” เด็กหนุ่มคนนั้นมองซูหมิงพลางกล่าวอย่างจริงจัง
เขารู้ว่าเรื่องชี้แนะแบบนี้คือโอกาส พบเจอได้แต่อ้อนวอนขอไม่ได้ การชี้แนะครั้งนี้ยังทำให้เขารู้ว่าเส้นทางของตนก่อนหน้านี้ผิด ตอนนี้จึงต้องไปแก้ไขมัน
“ข้าไม่สังหารเจ้าเป็นเพราะว่าเจ้ามีเส้นทางคล้ายกับการสร้างชะตาของข้า ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะผลัดเปลี่ยนจากความตายหวนสู่ความเป็นได้หรือไม่…แต่เรื่องระหว่างเจ้ากับศิษย์พี่ใหญ่ของข้า หากศิษย์พี่ใหญ่ของแซ่ซูต้องการสังหารเจ้า ข้าก็จะลงมือ”
ซูหมิงมองยอดจ้าวเชมันตรงหน้าพลางตรึกตรองอยู่ชั่วครู่ แล้วกล่าวช้าๆ
เด็กหนุ่มเพียงยิ้มน้อยๆ
“สายเลือดเก้าอรุณไม่ใช่มรดกจากสายเลือด แต่ผู้มีสายเลือดเก้าอรุณทุกคนจะมีโอกาสตื่นขึ้น ข้าสังหารประมุขแห่งเก้าอรุณที่ยังไม่เติบใหญ่จำนวนมาก ทว่าศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้า ข้าไม่ได้ทำร้ายญาติพี่น้องเขาเลย แต่ที่ล่าสังหารเขาในตอนนั้น…ข้ายอมรับ
หากแต่กายหยาบข้าสลายไปแล้ว จากนี้ไปโลกนี้จะไม่มียอดจ้าวเชมันอีก จะมีเพียงคนที่ตามหาเส้นทางแห่งดวงชะตา บุญคุณความแค้นทุกอย่างสูญสิ้นไปตามกายหยาบข้าแล้ว
หากเขามาหาข้า…ข้าจะมอบให้เขา” เด็กหนุ่มยิ้ม เงยหน้ามองฟ้าด้วยสีหน้าเข้าใจในความเป็นและความตาย
“ในเร็วๆ นี้ข้าจะไปแดนพันธมิตรตะวันตกกับแดนทวีปเหนือ พาชาวเผ่าหมานแดนรกร้างบูรพาไปสังหารเผ่าเซียนให้สิ้นซาก….อีกสองแผ่นดินนั้นก็น่าจะมีเผ่าเชมันอยู่เหมือนกัน” ซูหมิงมองเด็กหนุ่ม
“ถึงตอนนั้นข้าจะติดตามเจ้าไปด้วย” เด็กหนุ่มเงียบอยู่ชั่วครู่ จึงค่อยประสานมือคารวะซูหมิงอีกครั้ง
ซูหมิงไม่กล่าวเพิ่ม เพียงหมุนตัวบินไกลออกไป ด้านหลังมีสุนัขดำร่างแปลงกระเรียนขนร่วงติดตามอยู่ ข้างๆ ยังมีสุนัขสีเหลือง ส่วนอวี่เซวียนนั่งอยู่บนหลังสุนัขด้วยสีหน้ายิ้มดีใจ มาเผ่าเชมันครั้งนี้นางได้ของมีค่าไปไม่เลวเลย
ด้วยความอารมณ์ดี นางดึงขนสุนัข ทำให้มันมีสีหน้าขมขื่นและวิ่งเร็วขึ้นอีก ตอนที่ไล่ตามจนทันซูหมิง นางก็มองซูหมิงด้วยสีหน้าคาดหวัง
“เจ้าทึ่มซูน้อย ตอนนี้พวกเราจะไปที่ใด?”
ซูหมิงมีสีหน้าสงบนิ่ง บินอยู่กลางอากาศ สายตามองไปไกลๆ เขาไม่ได้กลับยอดเขาลำดับเก้าในทันที ถึงอย่างไรต่อให้มีสายเลือดต้นกำเนิดเชมัน ศิษย์พี่รองก็มั่นใจเพียงไม่กี่ส่วนที่จะทำให้ศิษย์พี่ใหญ่คืนชีพมา
‘มังกรเชมัน….’ ซูหมิงหยุดชะงัก หมุนตัวหันไปมองอีกทาง ตรงนั้นเป็นเกาะที่ตั้งสำนักทะเลตะวันออก
สามเกาะแดนอรุณใต้ ตอนนี้นอกจากเกาะทะเลตะวันออก ซูหมิงเคยไปมาหมดแล้ว
พอเขามองไปทางเกาะทะเลตะวันออก รอยยิ้มอวี่เซวียนพลันกว้างมากขึ้น นางกะพริบตาปริบๆ และเฝ้ารอคอย คิดว่าน่าจะได้ของมีค่าจากเกาะทะเลตะวันออกมาอีกไม่น้อยทีเดียว
ของมีค่าพวกนี้ นางถือว่าเป็นดอกเบี้ยที่ได้จากซูหมิง นางยังคิดอีกว่าชีวิตแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน ซูหมิงข่มขวัญอยู่ข้างหน้า ส่วนตนรีดไถอยู่ข้างหลัง
“ซูหมิง เมื่อไรเจ้าจะไปสำนักเซียนบนแผ่นดินอื่นๆ ล่ะ ถึงตอนนั้นข้าจะช่วยเจ้าเอง” อวี่เซวียนยิ้มตาหยีพลางกล่าว ใบหน้าเล็กๆ เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“เจ้ารีดไถบนเกาะเทพเชมันมาได้เท่าไร” ซูหมิงกล่าวเสียงเบา
อวี่เซวียนเบิกตากว้างในทันที ความตื่นเต้นพลันหายวับไปแล้วแทนที่ด้วยความตื่นตัว
“เจ้าจะทำอะไร ข้าไม่ได้รีดไถอะไรมากนักเลยได้มาเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าไม่เชื่อเจ้าก็ลองถามเจ้าขนร่วงน้อยดู” อวี่เซวียนรีบตอบ
“เผ่าเซียนบนแผ่นดินอื่นๆ อยู่ทางนั้น เจ้าไปรีดไถเอาเองแล้วกัน ด้วยขั้นพลังของเจ้าไม่ใช่เรื่องยากเลย” ซูหมิงมองอวี่เซวียน
“ข้าเป็นคนจิตใจดีงาม จะไปทำเรื่องปล้นชิงของคนอื่นได้อย่างไร มันยุ่งยากมากเกินไปด้วย หากไม่ระวังจะต้องมีคนรู้แน่นอน อีกอย่างข้ากับพวกเขาไม่มีความแค้นต่อกัน ไม่มีเหตุผลต้องไปปล้นชิงนี่
ทว่าหากข้าตามอยู่หลังเจ้ามันไม่เหมือนกัน” อวี่เซวียนกะพริบตา
“ของที่เจ้ารีดไถมา ข้าต้องการเก้าส่วน” ซูหมิงกล่าวนิ่งๆ
“เก้าส่วน…เหตุใดเจ้าไม่ไปรีดไถเอาเอง!” อวี่เซวียนร้อนรนขึ้นมาทันที นางยืนอยู่บนหลังสุนัขโดยไม่สนภาพลักษณ์ สีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว
“ข้าก็กำลังรีดไถอยู่” ซูหมิงมองอวี่เซวียนอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้
“หนึ่งส่วน ข้าให้ได้มากสุดหนึ่งส่วน เจ้าก็รู้ว่านี่คือน้ำพักน้ำแรงของข้า ยังมีต้นทุนอีก แล้วก็….สรุปคือข้าให้เจ้าได้เพียงส่วนเดียว” อวี่เซวียนถลึงตามองแล้วเอ่ยด้วยความโมโห
“หากไม่มีเจ้า ข้าก็หามาครบสิบส่วนเองได้”
“ข้าค้นวิญญาณได้ สามารถหาที่ซ่อนสมบัติพวกเขาว่าอยู่ที่ใด จะช่วยให้เจ้าสบายขึ้นเยอะ”
“ข้าทำลายสำนักได้เลย ไม่จำเป็นต้องค้นวิญญาณใคร”
“ขะ….ข้าช่วยเจ้าเปิดวงแหวนอาคมประตูสำนักพวกเขาได้ เผ่าหมานจะได้ไม่ต้องบาดเจ็บล้มตายกันมาก” อวี่เซวียนพลันกล่าวขึ้น
ซูหมิงขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ยังกล่าวไม่จบ อวี่เซวียนก็กลอกตา สุนัขใต้ร่างกลายเป็นสายรุ้งยาวพานางบินไกลออกไป
“ซูหมิง เจ้าเองก็เหนื่อยแล้ว ข้าจะจัดการเกาะทะเลตะวันออกเอง ก็แค่มังกรเชมันตัวเดียวเองไม่ใช่รึ ข้าจะไปเอามาให้เจ้าเอง” พออวี่เซวียนบินไกลออกไป เสียงไพเราะของนางก็แว่วมา ดูจากทิศทางแล้วคือเกาะสำนักทะเลตะวันออก
ซูหมิงมีสีหน้าเฉยเมย เขายิ้มน้อยๆ แล้วตามไปยังเกาะทะเลตะวันออกด้วยความเร็วปกติ
ส่วนสุนัขดำร่างแปลงกระเรียนขนร่วงด้านข้าง ตอนนี้มีสีหน้าเข้าใจ มันมองซูหมิงแล้วมองอวี่เซวียนที่บินไกลออกไปก่อนแยกเขี้ยวยิ้ม
‘ดูแล้วซูหมิงเองก็เจ้าเล่ห์เหมือนกัน จากนี้ไปท่านกระเรียนผู้นี้ต้องระวังหน่อยแล้ว’ กระเรียนขนร่วงคิดถึงเฉียนเฉินอยู่บ้าง รู้สึกว่าคงมีเพียงเฉียนเฉินที่ปัญญาอ่อนยอมให้ตนรังแกได้ตามใจชอบ
อวี่เซวียนเคลื่อนตัวเร็วมาก ตอนที่ซูหมิงมาอยู่นอกเกาะทะเลตะวันออก เขาได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น และยังมีเสียงคำรามมังกรดังกึกก้อง
ตอนนี้วงแหวนอาคมของเกาะทะเลตะวันออกสั่นไหวและบิดเบี้ยว เขาจึงเดินผ่านเขตอาคมของเกาะ เข้าไปอยู่บนเกาะทะเลตะวันออกในทันที
มองไกลออกไป เกาะนี้มีพื้นที่ใกล้เคียงกับเกาะของสำนักเหมันต์สวรรค์ มีเทือกเขาและป่าไม้เต็มไปหมด ส่วนไกลออกไป…เป็นสุนัขใหญ่สีเหลืองหม่นขนาดหลายพันจั้งอยู่กลางอากาศ มันกำลังร้องคำรามเสียงดังลงบนพื้นดิน หลังคำรามก็เกิดพายุคลั่ง ระลอกคลื่นหลายชั้นแผ่ขยายมาจากปากมัน จุดที่ผ่านทุกอย่างจะพังพินาศ
ตรงหัวสุนัขใหญ่สีเหลือง อวี่เซวียนกำลังใช้อภินิหารอะไรบางอย่าง มีถุงเก็บวัตถุและของวิเศษกับหินวิญญาณจำนวนมากกำลังตรงเข้ามาจากรอบๆ ราวกับถูกดูด จากนั้นนางก็เก็บไปอย่างรวดเร็ว เหมือนจะกลัวว่าหากช้าไป ซูหมิงจะเข้ามาแย่ง
ส่วนตรงหน้าสุนัขตัวใหญ่สีเหลือง ผู้อาวุโสของสำนักทะเลตะวันออกหลายสิบคนกำลังต่อสู้ดิ้นรนอย่างสุดชีวิต ทว่าร่างกายกลับถอยไปโดยไม่อาจควบคุม
ซูหมิงยืนอยู่บนเทือกเขา นั่งขัดสมาธิลงแล้วมองเหตุการณ์นี้อยู่ไกลๆ เขาไม่ได้ลงมือ แต่กวาดสายตามองพลางแผ่ขยายดวงวิญญาณปกคลุมเกาะทะเลตะวันออก ครู่ต่อมาก็มองไปทางเหนือของเกาะ ตรงนั้นมีป่าทึบหนาแน่น ทว่าตรงส่วนลึกกลับมีบึงน้ำอยู่ บึงน้ำนั้นใสสะอาด ข้างๆ มีบ้านไม้หลังหนึ่ง
ซูหมิงยืนขึ้น ไม่สนใจอวี่เซวียนซึ่งกำลังปล้นชิงกับสุนัขตัวใหญ่ที่กำลังอวดศักดา เขาเคลื่อนตัวตรงไปยังป่าทึบทางเหนือ ส่วนกระเรียนขนร่วงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนรออย่างเงียบๆ อยู่สักพักแล้วหมุนตัวบินลงไปยังพื้นดิน มันอยากรู้ว่าจะอาศัยความวุ่นวายนี้หาผลประโยชน์ให้ตัวเองได้หรือไม่
ซูหมิงเดินเข้าไปในป่าทึบทางเหนือ ช่วงที่เสียงคำรามจากสุนัขบนฟ้ายังคงดังกึกก้อง เขามาอยู่นอกบ้านไม้และบึงน้ำในป่าทึบแล้ว
ตอนที่เดินเข้ามาใกล้ เสียงวุ่นวายข้างนอกพลันเงียบลงไม่น้อย เกิดความรู้สึกเงียบสงบขึ้นมา
“มีสหายมาจากแดนไกล แต่ต้องขออภัยที่ผู้เฒ่าไม่ได้เตรียมต้อนรับ” ขณะเดียวกับที่ซูหมิงมาถึงที่นี่ มีเสียงแก่ชราแหบแห้งแว่วมาจากในบ้านไม้ เมื่อสิ้นเสียงก็ปรากฏชายชราผมขาวสวมอาภรณ์เนื้อหยาบคนหนึ่ง
เขาเดินออกมาจากบ้านไม้อย่างช้าๆ มองมายังซูหมิง
นัยน์ตาเขาใสสะอาดดุจดั่งบึงน้ำ มาพร้อมกับความรู้สึกดึงดูดวิญญาณ จังหวะเดียวกับที่มองซูหมิง เขาหรี่ตาเล็กน้อย
“ข้าหลีหลง คารวะเทพหมาน” ชายชราเงียบอยู่ชั่วครู่ ค่อยประสานมือคารวะซูหมิง
ซูหมิงมองชายชรา เขารู้สึกถึงร่องรอยของครึ่งก้าวก่อนพลังสร้างชะตาที่เหนือกว่าขั้นวิญญาณหมานสมบูรณ์จากอีกฝ่าย ทว่าร่องรอยนี้เบาบางยิ่งนักและไม่มั่นคง
“ไม่ทราบว่าเทพหมานมาที่นี่มีเรื่องอะไรรึ” ชายชรามองซูหมิงพร้อมกล่าวเสียงทุ้มต่ำ
“เกาะทะเลตะวันออกเล็กเกินไป แดนอรุณใต้ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว เจ้าอยากย้ายถิ่นเพื่อพัฒนาสำนักทะเลตะวันออกหรือไม่” ซูหมิงมองบึงน้ำพลางเอ่ยเสียงเบา
“อ้อ?” นัยน์ตาหลีหลงแอบเป็นประกายอย่างยากจะตรวจพบ
“ขั้นพลังเจ้าอยู่ครึ่งก้าวก่อนขอบเขตสร้างชะตาแล้ว มาอยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนอย่างสงบ ไม่สนใจเลยว่าตอนนี้สำนักทะเลตะวันออกมีคนบุกเข้ามา ดูท่าคงจะมีความเข้าใจอยู่ และกำลังตามหาวิธีก้าวสู่สร้างชะตา
ขอบเขตสร้างชะตาจำเป็นต้องรู้ดวงชะตา ดวงชะตาของเจ้าคืออะไร?” ซูหมิงหมุนตัวกลับไปมองชายชราด้วยนัยน์ตาวาววับ
หลีหลงเงียบงัน
ซูหมิงไม่ได้เอ่ยต่อ แต่มายืนอยู่ข้างบึงน้ำ สายตามองบึงน้ำอย่างเงียบๆ เขาเห็นว่าใต้นั้นมีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองตนอยู่ ภายในดวงตามีความหวาดกลัว ตื่นกลัว และยำเกรง
“ข้าฝึกฝนจนใกล้จะสิ้นอายุขัยอยู่แล้ว ยังไม่รู้เลยว่าดวงชะตาคืออะไร” หลีหลงเงียบไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวเสียงแหบแห้ง
ซูหมิงไม่เอ่ยอีก แต่นั่งยองลงวางมือขวาบนบึงน้ำ ฉับพลันนั้นบึงน้ำก็เกิดระลอกคลื่นหลายชั้น มีเศียรใหญ่ยักษ์ค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากก้นบึง
สิ่งนั้นเป็นหัวมังกรขนาดหลายจั้ง และนี่ก็คือมังกรเชมันที่มีเกล็ดอยู่เต็มตัว