Skip to content

สู่วิถีอสุรา 802

ตอนที่ 802 หนึ่งศึกสร้างชื่อเสียง

เพียงแต่ลักษณะของชายชราขาดหายไปเล็กน้อย เลือนรางบ้าง ไม่ค่อยชัดเจนนัก

บนนั้นยังเห็นสีหน้าชายชรารางๆ ว่าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและตื่นตะลึง หลุมศพนี้ยังไม่ใช่ของจริง แต่อยู่ระหว่างความจริงกับมายา

ครืน!

ป้ายหลุมศพพังลง หลุมศพระเบิดออก หลังจากรวมเป็นร่างซูหมิงแล้ว เขาหน้าซีดขาวและยังกระอักโลหิตกองใหญ่ มีสีหน้าเสียดาย

เมื่อหลุมศพระเบิดออกก็เผยร่างชายชราผู้รักษาการณ์ภายใน ร่างชายชราผอมลงหนึ่งรอบใหญ่ๆ ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ ดวงตาเว้าลึกลงไป กระทั่งพลังแห่งโลกยังลดน้อยลงเกือบสามส่วน

ยามนัยน์ตาเขาฉายแววตื่นตกใจ ยังมีความโกรธและหวาดกลัวมากกว่า

‘นี่มันวิชาอะไรกัน เห็นได้ว่ายังไม่สมบูรณ์ดี หากวิชานี้สมบูรณ์ พลานุภาพของมันจะน่ากลัวอย่างยิ่ง คนผู้นี้…จับเขาไม่ได้แล้ว จะต้องสังหาร!’

ภาพเหตุการณ์ที่ซูหมิงใช้วิชาอักษรดินห่อหุ้มชายชราเป็นหลุมศพ ไม่เพียงสร้างความตื่นตกใจให้กับชายชราเท่านั้น อีกแปดคนที่เหลือยังตาแข็งค้าง ในมุมมองของพวกเขา วิชาพิลึกชนิดนี้ไม่อยู่ในระบบวิชาของสี่มหาโลกแท้จริงแน่นอน

“วิชาของเผ่าประหลาด นี่มัน….วิชาของเผ่าประหลาด!”

ขณะเดียวกับที่มีหนึ่งในแปดคนเอ่ยประโยคนี้ขึ้น ตาข่ายใหญ่เก้าสีขยายใหญ่ขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดแล้วหดตัวไปยังซูหมิง หมายจะจับเขาเอาไว้

ตอนนี้เอง ขณะซูหมิงถอยร่นมา ระลอกคลื่นพลันกระจายออกรอบตัว ปกคลุมทั่วร่างเขาในพริบตา ทำให้ช่วงที่จะถูกตาข่ายใหญ่จับเอาไว้ กายเขาส่งเสียงดังวิ้ง แล้วหายตัวไปจากสายตาของเก้าคน

“เคลื่อนย้ายพริบตา!”

เก้าคนนี้หน้าเปลี่ยนสีพร้อมกัน สังเกตเห็นทันทีว่าซูหมิงไปปรากฏตัวอยู่ตรงใจกลางของทะเลวายุห่างไปหลายร้อยจั้ง และตรงนั้นก็เป็นดวงตาวายุ

“ตามไป!” เก้าคนขยับวูบไหว กลายเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไปหาซูหมิงที่อยู่ข้างดวงตาวายุ สำหรับพวกเขา ระยะทางหลายร้อยจั้งเพียงลมหายใจเดียวก็ไปถึงแล้ว

ทว่าแทบทันทีที่เก้าคนห้อเหยียดไป ซูหมิงที่อยู่ข้างดวงตาวายุและกำลังรับแรงลมรุนแรงอยู่นั้นกลับเดินเข้าไปในดวงตาวายุ ก่อนหันหน้ามามองเก้าคนแวบหนึ่ง มุมปากยังไม่ทันเช็ดคราบโลหิตออก ตอนที่หันไปมอง นัยน์ตาเขามีประกายเย็นชา

“ถ้ำเคลื่อนย้าย บัดซบ เหตุใดที่นี่ถึงมีถ้ำเคลื่อนย้ายได้!”

“จะให้เขาหนีไปไม่ได้ จับไม่ได้ก็ต้องฆ่าทิ้ง!” เก้าคนนี้เป็นผู้รักษาการณ์ ทั้งยังเป็นเจ้าปกครองโลกตอนกลาง มีประสบการณ์ไม่ธรรมดา ตอนนี้พอเห็นการกระทำอีกฝ่ายแล้ว จึงมองออกถึงน่าอัศจรรย์ของดวงตาวายุทันที

“ข้าเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ให้พวกเจ้าแล้ว” ซูหมิงยิ้มเยาะแล้วเดินเข้าไปในดวงตาวายุโดยสมบูรณ์ ขณะเดียวกับที่ร่างเลือนราง พื้นดินทั้งดาวสมบัติสวรรค์พลันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

โครม!

กระแสอากาศหนาหลายพันจั้งต้นหนึ่งพุ่งจากพื้นดินบางแห่งขึ้นสู่ฟ้า ดาวสมบัติสวรรค์สั่นสะเทือน ขณะเดียวกันในทะเลวายุก็มีกระแสอากาศหลายพันจั้งต้นที่สองพุ่งขึ้นมาอีก

แรงปะทะและพลังทำลายล้างที่เกิดขึ้นม้วนตลบไปรอบๆ ทำให้ผู้รักษาการณ์ทั้งเก้ามีสีหน้าหวาดกลัว ด้านนอกดวงตาวายุตรงจุดที่ซูหมิงหายตัวไปอย่างรวดเร็ว พื้นดินถล่มทลายลงตรงหน้าพวกเขา จากนั้นลำแสงที่มาพร้อมกับกลิ่นอายพลังทำลายล้างก็ระเบิดออกมา

วินาทีที่ลำแสงพุ่งขึ้นฟ้า ผู้รักษาการณ์เก้าคนถอยออกมาอย่างไม่ลังเล ในนั้นมีคนหนึ่งช้ากว่าเล็กน้อย เมื่อถูกลำแสงพันธนาการไว้แล้ว กระทั่งยังดิ้นรนยังทำไม่ได้ ทั้งร่างกายและชุดเกราะกลายเป็นเถ้าธุลีหายไปในพริบตา

สลายหายจนหมดสิ้น

“ต้นกำเนิดแห่งเผ่าประหลาด หลังดวงจิตของเผ่าประหลาดบนดาวสมบัติสวรรค์หายไปจะเหลือต้นกำเนิดเอาไว้ เขา…เขาเป็นต้นเหตุการเปลี่ยนแปลงของดาวแดงเพลิงจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะคลายผนึกของดาวสมบัติสวรรค์ด้วย!”

ขณะเดียวกับที่แปดคนถอยหนีด้วยความตื่นกลัว เสียงครึกโครมก็ดังขึ้นทุกจุดบนดาวสมบัติสวรรค์ไม่หยุดหย่อน ลำแสงสะเทือนฟ้าดินพุ่งขึ้นฟ้าหลายต่อหลายสาย ระลอกคลื่นจากพวกมันทำลายล้างฟ้าดิน

ดีที่ดาวสมบัติสวรรค์ไม่มีคนธรรมดาเลย ที่มีอยู่ล้วนเป็นผู้ฝึกฌาน มิเช่นนั้นหากดาวแท้จริงที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะต้องดับสูญอย่างแน่นอน

ทว่าความเป็นตายของผู้ฝึกฌานเดิมทีก็เป็นการคัดสรรโดยสวรรค์อยู่แล้ว ตอนที่ก้าวสู่เส้นทางแห่งการฝึกฝนจะต้องเตรียมตัวถูกสังหารหรือไม่ก็สังหารคนอื่น

เสียงโครมครามดังอย่างต่อเนื่อง ร่างเงาซูหมิงอยู่ในลำแสง เพราะมีดวงตาวายุและการควบคุมของชื่อหั่วโหว เขาจึงไม่ต้องรับแรงปะทะ ร่างกายกำลังเลือนรางอย่างรวดเร็ว ชั่วขณะที่กำลังจะถูกเคลื่อนย้ายไป กระบี่โบราณสัมฤทธิ์ยักษ์เก้าเล่มที่หยุดอยู่นอกดาวสมบัติสวรรค์ ตรงปลายกระบี่ทุกเล่มล้วนเปล่งแสงสว่างจ้าตา โดยเฉพาะตรงขอบกระบี่ที่มีแสงไหลเวียน

ผู้รักษาการณ์บนกระบี่โบราณได้รับจิตสัมผัสจากรักษาการณ์แปดคนบนดาวสมบัติสวรรค์ว่าไม่ต้องคิดเรื่องจับเป็นอีก และให้ดำเนินแผนการสังหารได้เลย

การทำลายดาวสมบัติสวรรค์ก็เท่ากับทำลายสิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนดาว แน่นอนว่าต้องสังหารซูหมิงด้วย

โครม โครม โครม!

กระบี่โบราณใหญ่เก้าเล่มส่งปราณกระบี่สั้นยาวหลายร้อยหลายพันจั้งออกมาพร้อมกัน ทะลวงลงมายังดาวสมบัติสวรรค์ เป้าหมายคือ…ดวงตาวายุที่ซูหมิงอยู่

ขณะเดียวกับที่ปราณกระบี่ทะลวงมายังดาวสมบัติสวรรค์ ก็เข้าปะทะกับต้นกำเนิดพลังที่ชื่อหั่วโหวกระตุ้น จึงเกิดเสียงระเบิดทำลายล้างฟ้าดิน เห็นด้วยตาเนื้อเลยว่าบนดาวสมบัติสวรรค์มีส่วนหนึ่งพังพินาศลง

เสียงระเบิดกึกก้องฟ้ากระจ่างดาวไม่หยุด ดาวสมบัติสวรรค์ถล่มลงติดต่อกัน ปราณกระบี่ระเบิดตรงดวงตาวายุ บดขยี้กระแสอากาศแล้วเข้าทำลาย ทำให้บริเวณดวงตาวายุเกิดเป็นรูใหญ่ทะลวงผ่านดาวสมบัติสวรรค์

ผ่านไปหนึ่งก้านธูป คล้อยหลังเสียงอึกทึกดังสนั่นไปเกือบครึ่งเขตดาราจักรวงแหวนบูรพา ระลอกคลื่นจำนวนมากขยายออกเป็นวงกว้างไม่หยุด เศษหินนับไม่ถ้วนหมุนตลบ ดาวสมบัติสวรรค์…ก็พังทลายลง

แรงจู่โจมทำลายล้างทุกสิ่งมีชีวิต นอกจากผู้รักษาการณ์แปดคนที่เหลือหลังมีคนตายไปหนึ่งจะมีวิธีเอาชีวิตรอดโดยแปลงเป็นสายรุ้งยาวบินกลับกระบี่โบราณ ผู้ล่าสังหารซูหมิงทั้งหมด เว้นแต่ชายชราเสื้อคลุมม่วงเจ้าปกครองโลกตอนกลางที่บาดเจ็บสาหัสและใช้เคลื่อนย้ายพริบตาหนีไปแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครเหลือรอด

ไม่แน่ชัดว่าคนที่ทำลายดาวดวงนี้เป็นซูหมิงหรือผู้รักษาการณ์กันแน่ ความจริงแล้วต้นกำเนิดที่ซูหมิงเหนี่ยวนำดูเหมือนมหาศาลก็จริง แต่การระเบิดเก้าส่วนของมันถูกรวมอยู่ในทะเลวายุ ไม่น่าจะส่งผลถึงแผ่นดินใหญ่ และไม่น่าจะทำลายดาวสมบัติสวรรค์โดยสมบูรณ์แบบนี้

สิ่งที่ทำลายดาวสมบัติสวรรค์จริงๆ คือปราณกระบี่เก้าสายที่น่ากลัวถึงขีดสุดเหล่านั้น

นี่เป็นครั้งแรกที่ซูหมิงปะทะกับขุมอำนาจรักษาการณ์จากสี่มหาโลกแท้จริง ผู้รักษาการณ์จากโลกหยินศักดิ์สิทธิ์จ้องจะจับเขา เลยไม่ได้ลงมือสังหารด้วยวิธีนี้ มิเช่นนั้นแล้วเขาคงไม่มีทางโจมตีสวนกลับและคงจะตายไปพร้อมกับดาวสมบัติสวรรค์

ทว่า ขุมอำนาจรักษาการณ์จากสี่มหาโลกแท้จริงผ่านประสบการณ์ครั้งนี้มาแล้ว ครั้งหน้ายามเจอซูหมิงคงไม่คิดจับเป็นอีก แต่จะใช้วิธีนี้ทำลายล้างให้สิ้นซาก

การระเบิดทลายของดาวสมบัติสวรรค์ก่อให้เกิดแรงปะทะและเสียงระเบิดติดต่อกันหลายเดือน สะเทือนขวัญผู้แข็งแกร่งทั้งหมดในเขตวงแหวนบูรพา โดยเฉพาะในศึกครั้งนี้ นอกจากผู้ฝึกฌานระดับฟ้าที่หวาดกลัวซูหมิงจนหนีไปแล้ว แทบทุกอย่างสูญสิ้นไป

อีกทั้งเรื่องทุกอย่างนี้ นอกจากเกี่ยวกับผู้รักษาการณ์แล้ว ทั้งหมดล้วนชี้เป้าไปยังคนคนหนึ่ง นามของเขามาจากปากของผู้ฝึกฌานระดับฟ้าที่หวาดกลัวจนหนีไปก่อนเหล่านั้น เลื่องลือไปทั้งดาราจักรวงแหวนบูรพา

โม่ซู!

ผู้ถูกประกาศจับ โม่ซู!

พลังของหนึ่งคนสังหารผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน ทั้งยังทำให้สี่มหาโลกแท้จริงลงมือทำลายดาวดวงหนึ่ง การกระทำอันอาจหาญนี้ วิธีที่สร้างความตื่นตกใจกับทุกคนเช่นนี้ ทำให้นามของโม่ซูกล่าวได้ว่าสั่นสะเทือนเขตวงแหวนบูรพา

คนที่คิดจะล่าสังหารซูหมิงต่อทุกคนล้วนใคร่ครวญถึงเหตุการณ์ร้ายแรงบนดาวสมบัติสวรรค์ก่อน จากนั้นค่อยใคร่ครวญถึงศักยภาพของตน มีเกือบจะมากกว่าครึ่งล้มเลิกความคิดล่าสังหารไป เพราะนี่ไม่ใช่การล่าสังหาร แต่คือการส่งตัวเองไปตาย

ศึกครั้งนี้สร้างชื่อเสียง ซูหมิงทำสำเร็จแล้ว

ศึกครั้งนี้สร้างความหวาดผวา ซูหมิงก็สังหารจนทำสำเร็จเช่นกัน!

นามของโม่ซูเลื่องลือไปในเขตดาราจักรวงแหวนบูรพา นอกจากการสังหารของเขากับดาวสมบัติสวรรค์ระเบิดแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ

วันที่สิบหลังดาวสมบัติสวรรค์ระเบิด สี่มหาโลกแท้จริงเริ่มประกาศจับในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตอีกครั้ง ทั้งยังเพิ่มรางวัลนำจับ จากหินโลกหลายก้อนที่จะดึงดูดความสนใจเพียงเจ้าปกครองโลกตอนต้น ก็เพิ่มขึ้นเป็นรางวัลที่ทำให้ผู้ฝึกฌานมากกว่าครึ่งในเขตวงแหวนบูรพาคลุ้มคลั่ง!

หินโลกหนึ่งร้อยก้อน!

ไม่ว่าเป็นหรือตาย หินโลกร้อยก้อน!

รางวัลขนาดนี้ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยามเกิดการเปลี่ยนแปลงของดาวทมิฬในอดีต ตอนที่ตั้งรางวัลนำจับยอดผู้ฝึกฌานเผ่าประหลาดที่หนีออกจากดาวนั้นก็ให้หินโลกถึงสองพันก้อน แต่เป็นที่รู้กันดีว่ายอดผู้ฝึกฌานเผ่าประหลาดที่หนีออกจากผนึกได้ไม่ใช่ผู้อ่อนแอ ฉะนั้นจึงมีรางวัลน่าตะลึงถึงเพียงนั้น

และก็มีเพียงรางวัลแบบนี้เท่านั้นถึงจะทำให้ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตระงับความแค้นต่อสี่มหาโลกแท้จริงชั่วคราว แล้วไปทำภารกิจ

ถึงซูหมิงจะแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับยอดผู้ฝึกฌานเผ่าประหลาดแล้วยังต่างกันราวฟ้าดิน ดังนั้นรางวัลหินโลกร้อยก้อนก็ทำให้ผู้คนใจสั่นหวั่นไหวแล้ว

หลังจากรางวัลเพิ่มขึ้น ภายในดาราจักรวงแหวนบูรพาก็มีคนคิดว่าตนมีความสามารถพอจะได้รับรางวัลนี้เพ่งเป้าไปยังโม่ซู การค้นหาโม่ซูอย่างบ้าคลั่งจึงเริ่มขึ้นอย่างดุเดือด

ดาวสมบัติสวรรค์ระเบิดไปหนึ่งเดือน ตรงใจกลางเขตวงแหวนบูรพา กลางฟ้ากว้างใหญ่มีรอยแยกยักษ์ปรากฏขึ้น กลางรอยแยกมีแสงหม่นขยับวูบวาบ ก่อนจะมีคนก้าวเดินออกมา

คนผู้นี้เส้นผมสีเทา สวมเสื้อคลุมแดง เขาก็คือซูหมิง หลังเดินออกมาก็กระอักเลือด โลหิตแตกกระจายกลางฟ้ากระจ่างดาวโดยพลัน แล้วกลายเป็นหมอกโลหิตแผ่ออก กระทั่งในหมอกโลหิตยังเห็นรางๆ ว่ามีปราณกระบี่เลือนรางเล่มหนึ่ง และเพราะปราณกระบี่นี้เอง โลหิตจากปากจึงแตกกระจายกลายเป็นหมอก

‘ปราณกระบี่เก้าเล่มสามารถทำลายดาวแท้จริงดวงหนึ่ง เกรงว่าข้าคงเคลื่อนย้ายออกมาก่อนที่มันจะมาถึง แต่ก็ยังรับผลกระทบอยู่ดี หมดสติในความว่างเปล่าเงียบสงัดหนึ่งเดือนไม่ว่า ร่างกายยังบาดเจ็บสาหัสอีก’ ซูหมิงหน้าซีดขาว ก้มหน้ามองหน้าอกตัวเอง แล้วจึงใช้มือขวาฉีกเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารา เผยให้เห็นเป็นรอยช้ำตรงหน้าอก

ลักษณะของรอยช้ำเหมือนกับกระบี่เล่มหนึ่ง ตรงบริเวณปลายกระบี่คือหัวใจเขา

‘เพียงถูกกระเทือนก็มีพลานุภาพขนาดนี้แล้ว มิน่าถึงทำลายดาวสมบัติสวรรค์ได้ สี่มหาโลกแท้จริง…พวกเจ้าล่วงเกินแซ่ซูก่อน เช่นนั้นข้าแซ่ซูจะสู้กับพวกเจ้าจนตายกันไปข้าง!’ ซูหมิงมีสีหน้าทะมึน เขามีนิสัยดื้อรั้น หลังถูกบีบให้เข้ามายังแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตก็เก็บกดไว้ในใจมาตลอด ตอนนี้ถูกล่าสังหารและยังบาดเจ็บอีก นิสัยบ้าคลั่งจึงปะทุออกมา ทั่วร่างเขาอบอวลไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้าย เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็ขยับวูบไหวตัว เปลี่ยนเป็นสายรุ้งบินไกลออกไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!