Skip to content

สู่วิถีอสุรา 803

ตอนที่ 803 สหายเก่า

ผืนฟ้าดาราคล้ายกับทะเล เพียงแต่ทะเลเป็นสีดำมืด ไม่มีลูกคลื่น ไม่มีคลื่นลมน่ากลัว ทว่ามันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา

ดาวแท้จริงทุกดวงเปล่งแสงวูบวาบบ่อยครั้ง มองไกลๆ ราวกับแสงสว่างเคลื่อนไหวในทะเลหมอก และยังมีฝุ่นอีกนับไม่ถ้วนรวมเป็นฟ้ากระจ่างดาว

กล่าวจริงๆ คือแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตรวมขึ้นจากสามส่วน ทะเลดาราต้นกำเนิดจิตในส่วนลึกสุด แดนรกร้างคนบาปตรงกลาง และฟ้าของเขตรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริงนอกสุด

หากเปรียบแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตเป็นน้ำเต้า เช่นนั้นทะเลดาราต้นกำเนิดจิตก็เป็นส่วนล่างของน้ำเต้า แดนรกร้างคนบาปเป็นครึ่งของครึ่งบน ส่วนรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริงเป็นอีกครึ่งหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ควบคุมฟ้ากระจ่างดาวทั้งนอกและในปากของน้ำเต้า

วงแหวนบูรพาที่ซูหมิงอยู่คือส่วนของแดนรกร้างคนบาป

ขุมอำนาจรักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริงมีพลานุภาพสยบสี่เขตของแดนรกร้างคนบาปได้ ทว่าสี่เขตที่รวมวงแหวนบูรพาด้วยนั้นไม่ได้อยู่ตามทิศเหนือใต้ออกตก แต่เรียงขนานกัน

ขณะเดียวกัน โครงสร้างภายในของเขตดารารักษาการณ์สี่มหาโลกแท้จริงก็เป็นเช่นนี้ บริเวณใกล้ทางออกน้ำเต้าคือฐานของพวกเขา ส่วนใกล้กับแดนรกร้างคนบาปก็แบ่งออกเป็นสี่เขตแดนขนานกัน และแยกกันเฝ้าติดตามตรวจดูเขตแดนสี่เขตนี้ที่รวมวงแหวนบูรพาด้วย

โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ในนั้นควบคุมดูแลเขตวงแหวนบูรพา

ทว่าดาวทมิฬที่เล่ากันมาปากต่อปากจากผู้ฝึกฌานนั้นจริงๆ แล้วคือเส้นแบ่งเขต เป็นจุดมาเยือนโลก ตำแหน่งของมันอยู่ด้านหลังเว้าลงไปตรงกลางสองส่วนบนล่างของน้ำเต้า

ถ้าข้ามผ่านดาวทมิฬไปก็จะเท่ากับว่าไปถึงทะเลดาราต้นกำเนิดจิต ทะเลดาราต้นกำเนิดจิตนี้สี่มหาโลกแท้จริงแทบจะไม่เข้าไปเลยและค่อนข้างหวาดกลัว กระทั่งมีข่าวลือว่าที่สี่มหาโลกแท้จริงมาเฝ้าประจำการที่นี่ไม่ใช่เพราะผู้ฝึกฌานแดนรกร้างคนบาป แต่เป็นเพราะเผ่าประหลาดในทะเลดาราต้นกำเนิดจิตที่บางทีตอนนี้อาจยังมีชีวิตอยู่!

ช่วงที่ซูหมิงถูกประกาศจับและหนีมาอยู่ในเขตวงแหวนบูรพาของแดนรกร้างคนบาปนั้น ภายในเขตดาราของสี่มหาโลกแท้จริงก็กำลังดำเนินการสลับคนในช่วงหลายร้อยปี

การสลับคนทุกครั้งจะมีผู้รักษาการณ์ส่วนหนึ่งคล้ายถึงเวลาปลดประจำการ จึงได้ออกจากแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตกลับไปยังโลกแท้จริงของตัวเองอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันก็จะมีคนใหม่จากสี่มหาโลกแท้จริงถูกส่งมาที่นี่ เป็นผู้รักษาการณ์คนใหม่

ไม่ว่าจะออกไปหรือเข้ามา ผู้ฝึกฌานที่สลับเปลี่ยนกันเหล่านี้ล้วนมีการรับช่วงต่อกันในฐานสี่มหาโลกแท้จริง คนเก่าจากไป คนใหม่ก็จะมีคนจากโลกแท้จริงของตนในฐานพาไปยังพื้นที่ดาราที่โลกแท้จริงของพวกเขาต้องประจำการ

สิ่งที่รักษาการณ์หยินศักดิ์สิทธิ์พาคนใหม่มายังพื้นที่ดาราฐานทัพของโลกแท้จริงตนคือกระบี่โบราณทองสัมฤทธิ์ยาวหมื่นจั้งสามเล่ม ตอนนี้กระบี่โบราณสามเล่มบินอยู่กลางฟ้ากระจ่างดาวอย่างเรียบนิ่ง ในนั้นมีกระบี่โบราณสองเล่มซ้ายขวาคอยคุ้มกันอยู่ กระบี่โบราณตรงกลางคือส่วนสำคัญ พวกเขากำลังมุ่งหน้าจากฐานทัพกลับไปยังฐานประจำการ

ครั้งนี้โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ส่งคนมาเกือบร้อยคน ทุกคนล้วนมีขั้นพลังเจ้าปกครองโลก บนกระบี่ใหญ่หมื่นจั้งตรงกลางมีร้อยคนนั่งฌานอยู่ ตรงหน้าพวกเขามีชายวัยกลางคนสวมเสื้อเกราะนักรบยืนอยู่คนหนึ่ง

ชายวัยกลางคนผู้นี้ผมขาว สีหน้าเรียบเฉยทว่าน่าเกรงขาม พอกวาดสายตามองร้อยคนนี้แล้ว ก็มักจะไปหยุดอยู่ที่สามคนในนั้นอยู่ครู่หนึ่งบ่อยๆ

คนแรกที่เขาเฝ้าจับตาดูคือชายชราผ่านโลกมาอย่างโชกโชน บุคคลนี้มีร่างกายกำยำยิ่ง นั่งอยู่ตรงนั้นสูงกว่าคนอื่นไม่น้อย กระทั่งรอบตัวเขายังว่าง นอกจากสหายอีกสองคนแล้วก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

ตอนที่ชายวัยกลางคนสวมเสื้อเกราะมองเขา ชายชราเงยหน้าขึ้นมองกลับอย่างเย็นชา

“ได้ยินมาว่าเมื่อหลายปีก่อนบรรพบุรุษเผ่าวิญญาณหยินกลับโลกแท้จริงแล้ว ค่อนข้างได้รับความสนใจจากท่านอินเซิ่ง ถึงกับดึงขุมอำนาจจากเขตดวงดาวต่างๆ ที่เป็นของเผ่านี้ในอดีตกลับมาด้วยมือตัวเอง และยังปรับแก้ให้ก่อนมอบให้เผ่าวิญญาณหยิน

กระทั่งยังใช้สมบัติแห่งโลกแท้จริงหล่อหลอมร่างกายให้ชาวเผ่าวิญญาณหยิน ทำให้วิญญาณพวกเขารวมอยู่ในกายหยายอีกครั้งจนเป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งตายคล้ายกับฟื้นคืนชีพมา” ชายวัยกลางคนสวมชุดเกราะนัยน์ตาแวววาวไม่อาจตรวจจับ

“ขั้นพลังท่านไม่ธรรมดา ควรจะเรียกท่านว่าอย่างไร” ชายวัยกลางคนมองชายชราพลางกล่าวขึ้น

“เผ่าวิญญาณหยิน เจ๋อหรงเซิน” ชายชรากล่าวเสียงเบา

“เจ๋อหรงเซิน…..เช่นนั้นอีกสองคนล่ะ” ชายวัยกลางคนหรี่ตาลง มองสองคนข้างชายชรา สองคนนี้หนึ่งเป็นชายร่างกำยำเป็นรองเพียงชายชรา มีสีหน้าสงบนิ่ง ทว่านัยน์ตามีประกายเย็นชาวูบผ่าน ราวกับว่าในนั้นแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายชั่วร้ายไม่มีสิ้นสุด

เขามองชายวัยกลางคนพลางแสยะยิ้ม

“เผ่าวิญญาณหยิน หลีหั่ว”

คนสุดท้ายสวมเสื้อคลุมดำตัวใหญ่ ผิวหนังข้างนอกและใบหน้าเต็มไปด้วยลายเส้นสีดำ เขาไม่มีผม กระทั่งดวงตายังไม่มีประกายวาว ทว่าความเหี้ยมโหดในแววตาไร้ประกายนั้นกลับทำให้ชายวัยกลางคนเห็นแล้วถึงกับตรึงม่านตา

“จีอวิ๋นไห่” ชายเสื้อคลุมดำกล่าวเสียงแหบแห้ง น้ำเสียงแสบแก้วหูอย่างยิ่ง คล้ายกับกระดูกเสียดสีกัน ทั้งยังมีกลิ่นอายมรณะเข้มข้นอยู่ทั้งในและนอก ดูน่าสะพรึงกลัว

“ดี ไม่นึกเลยว่าครั้งนี้เผ่าวิญญาณหยินจะมาถึงสามคน เผ่าเจ้าหายไปจากโลกแท้จริงนานมาก หลังกลับมาแล้วนี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่มาแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต

ที่โลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์ของเราต้องเฝ้าจับตามองและรักษาการณ์คือเขตดาราวงแหวนบูรพาหนึ่งในสี่เขตใหญ่ของแดนรกร้างคนบาป ภายในเขตนี้มีผู้แข็งแกร่งอยู่จำนวนหนึ่ง

ทว่าพวกเขาไม่ใช่ตัวสำคัญ ภารกิจสำคัญกับศัตรูแท้จริงของโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์คือเผ่าประหลาดในทะเลดาราต้นกำเนิดจิต!

ขวางไม่ให้พวกมันออกไป สร้างความหวาดกลัวให้กับเผ่าประหลาด” ชายวัยกลางคนสะบัดแขนเสื้อ กระบี่โบราณทองสัมฤทธิ์สามเล่มจึงห้อเหยียดไปกลางฟ้า พวกเขาค่อยๆ ไกลออกไป แต่ก็ยังได้ยินเสียงชายชราแว่วมาเบาๆ

“เร็วๆ นี้ในเขตดาราวงแหวนบูรพาเกิดเรื่องน่าสนใจขึ้น มีคนชื่อว่าโม่ซูถูกสี่มหาโลกแท้จริงประกาศจับ…พวกเจ้าเพิ่งเป็นรักษาการณ์ หากมีคนสังหารบุคคลนี้ได้ก็จะได้สร้างคุณูปการครั้งใหญ่”

ช่วงที่คนจากโลกแท้จริงหยินศักดิ์สิทธิ์เดินทางไปยังค่ายทหารของพวกเขา อีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่ของขุมอำนาจรักษาการณ์โลกแท้จริงดาราสัจธรรม มีมังกรยักษ์หมื่นจั้งสองตัวกำลังบินอยู่พลางร้องคำราม

มังกรสองตัวนี้มีรูปร่างดุร้าย เกล็ดทั่วร่างมีอักขระขยับแสงวูบวาบ ตอนนี้ขณะบินอยู่บนตัวพวกมันมีผู้ฝึกฌานไม่น้อย ในนั้นบนมังกรยักษ์ตัวหนึ่งมีคนยืนอยู่บนหัวมังกร บุคคลนี้อายุราวสามสิบกว่าปี ใบหน้าเย็นชา สวมเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารา ดาวบนเสื้อคลุมกำลังหมุนโคจรอย่างช้าๆ ด้านหลังมีผู้ฝึกฌานจำนวนมากต่างมีสีหน้าเคารพ

“นายน้อย ที่นี่คือแดนรกร้างต้นกำเนิดจิต พอออกจากพื้นที่กองทัพของโลกแท้จริงดาราสัจธรรมเราแล้วก็จะเป็นแดนรกร้างคนบาป ที่นั่นเต็มไปด้วยคนชั่ว เป็นสถานที่ฝึกฝนที่ดีที่สุดสำหรับนายน้อยเลย”

ชายหนุ่มที่สวมเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดาราพยักหน้า แล้วหันไปมองมังกรอีกตัวหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล เขามองชายหนุ่มอาภรณ์ขาวตรงนั้น อีกฝ่ายมีสีหน้าสงบนิ่งและยืนอยู่บนหัวมังกรเช่นกัน

ชายหนุ่มคนนั้นมีใบหน้าหล่อเหลา ดูรักสันโดษ ทั้งตัวเหมือนกับกระบี่คมออกจากฝัก พอใครเห็นแล้วจะต้องจับจ้อง

เหมือนกับว่าบุคคลนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างบอกไม่ถูก ไม่ว่าเขาอยู่ที่ใดจะกลายเป็นจุดสนใจที่สุดทันที

เขาไม่ได้สวมเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารา แต่กลิ่นอายโอหังในใจที่แฝงมากับความสงบนิ่งกลับอยู่เหนือกว่าทุกฐานะ

ด้านหลังเขามีผู้ฝึกฌานเช่นกัน ผู้ฝึกฌานเหล่านี้มีอาภรณ์ต่างกัน เห็นได้ชัดว่ามาจากขุมอำนาจต่างกัน

“เยี่ยวั่ง!” ชายหนุ่มสวมเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดารานัยน์ตาเป็นประกายเย็นเยียบ กล่าวพึมพำเบาๆ

“ผู้มีพรสวรรค์มากสุดในรอบไม่รู้กี่หมื่นปีของเผ่าเซียนในโลกแท้จริงดาราสัจธรรม กระทั่งตาแก่ในสำนักดาราสัจธรรมยังสนใจ ขนานนามเขาว่าเป็นผู้มีโอกาสก้าวสู่ระดับภัยพิบัติมากที่สุดในผู้ฝึกฌานยุคสมัยนี้ ทั้งยังเป็นศิษย์สายตรงของเหิงคงจื่อหนึ่งในสามผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักดาราสัจธรรม…เยี่ยวั่ง หากข้าได้เจ้ามาเป็นลิ่วล้อ ขุมอำนาจของข้าจะเหนือกว่าคนอื่นๆ ในตระกูล และข้าจะขึ้นไปติดอยู่อันดับห้า!”

ชายหนุ่มสวมเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์ดาราหรี่ตาลง

ในเวลาเดียวกัน ภายในเขตฐานประจำการของโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลก มีมังกรยมโลกข้ามโลกสี่ตัวกำลังบินอยู่ ด้านบนมีคนเกือบร้อยหลับตานั่งฌาน ไม่มีใครกล่าวใดๆ

มังกรยมโลกสี่ตัวนี้มีรูปร่างคล้ายกัน ทว่าในนั้นมีตัวหนึ่งมีสีหน้ามัวหมอง บนตัวมันมีห่วงเหล็กยักษ์คล้องร่างเอาไว้เหมือนกับพันธนาการ สภาพนี้ดูไม่ใช่มังกรยมโลกสูงส่งอีก แต่เป็นสัตว์ไว้ใช้แรงงาน

ส่วนมังกรยมโลกอีกสามตัวไม่ใช่เช่นนั้น บนตัวพวกมันไม่มีห่วงเหล็ก ตอนที่มองมังกรยมโลกตัวที่มีห่วงเหล็กมักมีสีหน้าเศร้าโศก

มังกรยมโลกที่ถูกพันธนาการตัวนั้นนัยน์ตามัวหมองของมันมักจะคะนึงคิดถึงอดีต นึกย้อนไปว่าเคยมีเสียงหัวเราะร่าเริงของเด็กสาวคนหนึ่ง นึกย้อนไปถึงทุกอย่างในความทรงจำ

“คำสั่งของประมุขยมโลก มังกรยมโลกตัวนี้ทำผิดร้ายแรง ทำลายพลังข้ามผ่านโลกของมันและส่งมาที่นี่ เนรเทศให้มาอยู่แดนรกร้างต้นกำเนิดจิต จากนี้ไม่ใช่สัตว์ของโลกแท้จริงจักรพรรดิยมโลกอีก เป็นตายอยู่ที่วาสนาของมัน!” ตอนที่เสียงเย็นชาดังกังวาน มังกรยมโลกที่ถูกพันธนาการอยู่มีแววตามัวหมองมากขึ้นเรื่อยๆ

ยามที่เสียงดังก้องออกไปก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น ตรงหน้ามังกรยมโลกที่ถูกพันธนาการเกิดน้ำวนยักษ์แห่งหนึ่ง น้ำวนนี้เหมือนกับปากใหญ่น่าสยดสยอง มันกินมังกรยมโลกตัวนี้และหายวับไป

มังกรยมโลกสามตัวที่เหลือมีสีหน้าเศร้ามากกว่าเดิม

มองตรงจุดที่สหายพวกมันหายไปและส่งเสียงร้องด้วยความเศร้า พวกมันรู้ว่าชีวิตนี้คงไม่เจอสหายผู้นี้อีกแล้ว แต่อีกฝ่ายจะเป็นความอัปยศของเผ่ามังกรยมโลก แบกรับความสิ้นหวัง และอยู่ที่นี่ไปชั่วนิรันดร์

จุดจบมันมีสองทางคือไม่หลงทางก็ตาย

มังกรยมโลกตัวนี้ หากซูหมิงอยู่ที่นี่จะต้องจำได้ในแวบแรก มันคือมังกรยมโลกที่อยู่กับอวี่เซวียน และก็เป็นสุนัขตัวใหญ่ที่กระเรียนขนร่วงนับถือ

บางทีในโลกนี้อาจมีโชคชะตาอยู่กับทุกสิ่งมีชีวิตจริงๆ หรือบางทีทุกชีวิตอาจมีเส้นเส้นหนึ่งถูกชักจูงไป ทำให้ในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตปรากฏตัวเยี่ยวั่ง มังกรยมโลก เจ๋อหรงเซิน หลีหั่ว รวมทั้งจีอวิ๋นไห่…หุ่นเชิดร่างแยกที่ซูหมิงหาไม่เจอในอดีต และถูกกระบี่โบราณทองสัมฤทธิ์โลกเก้าหยินพาไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!