บทที่ 984 : พี่ชาย! (ต้น)
โลหิตนั้นมิใช่ของเหลียนว่านลี่ ทว่าเป็นของเยี่ยหลิง!
เป็นเยี่ยหลิงที่เข้ามาขวางหน้าเหลียนว่านลี่ ขณะที่อันหลานซิ่วถูกชายผมยาวประบ่ายับยั้งไว้อีกทาง ทว่าเด็กสาวมิได้ถูกสกัดขัดขวางเอาไว้ ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเหลียนว่านลี่กำลังตกอยู่ในอันตราย เด็กน้อยจึงไม่รีรอในการเข้าช่วยเหลืออีกฝ่าย
ในตอนนั้นเยี่ยหลิงใช้ฝ่ามือของตนยับยั้งกระบี่ ทว่าพลังไม่แกร่งพอ ทำให้กระบี่แทงทะลุฝ่ามือของนางออกไป!
อย่างไรก็ตามนางได้ช่วยชีวิตเหลียนว่านลี่!
เด็กสาวจ้องเขม็งไปยังผู้ฝึกกระบี่เฒ่าที่อยู่ต่อหน้า และฝ่ายหลังดึงมือประกบนิ้วเข้าด้วยกันก่อนจะสะบัดมือชี้ตรงไป
คลื่นพลังแห่งแสงกระบี่พุ่งวาบ!
คนตรงข้ามไม่ใส่ใจอาการบาดเจ็บที่มือแต่อย่างใด ร่างของเยี่ยหลิงสั่นน้อยๆ และแล้วนางก็ทะยานออกไปทันที พร้อมกับฟาดมือตวัดตบลงอย่างหนักหน่วง!
เปรี้ยง!
จากนั้นช่องอากาศเบื้องหน้าเด็กน้อยสั่นสะท้านรุนแรงทันที พลังงานประทับลงไปที่แสงแห่งกระบี่นั่น อย่างไรก็ตาม ลำแสงได้ทะลุทะลวงฝ่าพลังของเยี่ยหลิงออกอย่างรวดเร็วและพุ่งไปทั่วทุกทิศทุกทาง อีกทั้งสับลงไปที่ร่างของเด็กสาว!
เยี่ยหลิงตบฝ่ามือเข้าหากันจนเกิดเสียงดังเบาๆ ก่อนจะผลักออกไปข้างหน้าอย่างแรง
ตูม!
พลันแสงแห่งกระบี่ถูกบังคับให้หยุดนิ่ง!
ในตอนนี้ชายชราตรงหน้าหายวับไปทันที
สีหน้าของเด็กสาวเปลี่ยนวูบ พลันกำมือเข้าหากันก่อนจะกระแทกหมัดออกไป!
ตูม!
ฉัวะ!
ขณะบังเกิดเสียงปะทะเปรี้ยงดังสนั่นแทรกมากับเสียงวัตถุฉีกขาดดังสะท้อนไปทั้งบริเวณ จากนั้นร่างของเยี่ยหลิงกระเด็นถอยหลังห่างไป จนร่างหล่นกระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง แต่ก่อนที่ร่างของเด็กสาวจะตกถึงพื้น พลันกระบี่เล่มหนึ่งพุ่งตรงมาปักเข้าที่หัวไหล่ของนางทันที
ฉึก!
เยี่ยหลิงนิ่วหน้าเล็กน้อย ทว่าไม่มีเสียงร้องออกมาสักนิด เด็กน้อยกัดฟันข่มความเจ็บและมุ่งมั่นที่จะสู้ต่อ
ผู้ฝึกกระบี่ชราเขม้นมองเยี่ยหลิง พลันร่างสั่นสะท้านและทะยานเข้าหาเด็กสาวอย่างรวดเร็ว!
ทันใดนั้นเองใครคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นขวางหน้าเยี่ยหลิง
เป็นอู่เวิ่น!
อู่เวิ่นมีสีหน้าถมึงทึงมีกระแสพลังชี่พลุ่งพล่านอยู่ในกาย ขณะที่ชายชรากำหมัดข้างขวาพร้อมกับพลังงานที่ค่อยก่อตัวภายในหมัดนั้นอย่างรวดเร็ว ครั้นได้จังหวะพุ่งกำปั้นกระแทกออกไป
เปรี้ยง!
พลันช่องอากาศเบื้องหน้าถล่มทลายไปในพริบตา และพลังนั้นได้สกัดยับยั้งผู้ฝึกกระบี่อย่างกะทันหัน! ต่อมาปรากฏคลื่นพลังแห่งกระบี่พุ่งแทงมาทางอู่เวิ่น
ฝ่ายนั้นรีบประกบนิ้วมือเข้าหากันอย่างรวดเร็ว!
ตูม!
ว่าแล้วฝ่ามือของอู่เวิ่นฉวยยึดกระบี่เล่มนั้นไว้ได้ ทว่าตัวเองถึงกับผงะหงายถอยห่างไปอย่างแรง!
บนอากาศ ฉินเทียนมองลงไปที่ด้านล่าง ทว่าเขายังไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด
คอย!
เขาประมาทเยี่ยฉวนไม่ได้เป็นอันขาด!
ในเมื่อรู้แก่ใจว่าอย่างไรเสีย……เยี่ยฉวนต้องปรากฏตัวแน่นอน!
คอย!
เขากำลังรอคอยการปรากฏตัวของเยี่ยฉวน!
ในมุมมืด ยอดฝีมือฝ่ายเผ่าถังกำลังคอยอยู่เหมือนกัน ด้วยรู้แน่ว่าเยี่ยฉวนต้องกลับมา!
ในหัวใจของชายหนุ่ม ไม่มีอะไรสำคัญกว่าน้องสาวคนเดียวของเขา!
พวกเขาตั้งใจไว้ว่าหลังจากที่เยี่ยฉวนออกมาปรากฏตัวแล้ว จะบีบให้เจ้าหนุ่มนั่นเผยไม้ตายที่ซุกซ่อนไว้ จากนั้นจะปล่อยให้เยี่ยฉวนกับพวกนครอานุภาพต่อกรกับชุมนุมผู้คุมกฎจนกว่าจะหมดแรงทั้งสองฝ่าย!
เสียงถังเฝิงถามทันที “เผ่าอสูรมีความเคลื่อนไหวบ้างไหม?”
เผ่าอสูร!
ถังชิงส่ายหน้า “ไม่มีข่าวคราวอะไรของพวกมันเลย!”
ถังเฝิงพยักหน้าเบาๆ “พวกเราจะคอยต่อไป!”
ข้างล่าง ภายในสถาบันฝึกยุทธ์
สถานการณ์ในตอนนี้ที่สถาบันฝึกยุทธ์เหลือค่ายกลขนาดใหญ่อยู่อีกไม่มาก เวลานี้ยอดฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋าหกถึงเจ็ดคนถูกฆ่าตาย รวมทั้งผู้ฝึกกระบี่ขั้นไขว่คว้าเต๋าจำนวนแปดหรือเก้าคนของสำนักกระบี่ล้วนตายหมดแล้ว นับเป็นความสูญเสียอย่างมากมหาศาล!
บนท้องฟ้า ผู้ฝึกกระบี่ชราแห่งชุมนุมผู้คุมกฎก้าวออกมาเผชิญหน้ากับอู่เวิ่น ทันใดนั้นเองรอบตัวของอู่เวิ่นปรากฏกระบี่นับสิบเล่มฟาดลงมาไม่ทันตั้งรับ!
เป็นเรื่องยากนักในการที่เขาจะต้านรับพลังของมหาเซียนกระบี่ขั้นพลังไขว่คว้าเต๋าเอาไว้ได้!
ณ เวลานั้น ผู้ที่เป็นมหาเซียนกระบี่ชั้นยอดอย่างเยว่อู่เฉิน ยังถูกยอดฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋าชั้นรู้แจ้งตรึงไว้กับที่ แม้ว่าเยว่อู่เฉินจะได้เปรียบในเชิงขั้นพลัง ทว่าไม่อาจกำจัดคนเหล่านี้ด้วยระยะเวลาอันสั้น
อู่เวิ่นมองไปรอบๆ ในตอนนี้ปรากฏซากศพกลาดเกลื่อนไปทั้งบริเวณพื้นที่ของสถาบันฝึกยุทธ์!
บางส่วนเป็นคนเก่าคนแก่ที่พลังแข็งแกร่ง ทว่าส่วนใหญ่จะเป็นคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่เกือบทั้งสิ้น!
ยิ่งมองเห็นใบหน้าของพวกเขาเหล่านั้น อู่เวิ่นถึงกับขยับกำมือแน่นด้วยความเจ็บปวดใจ!
นี่คือจุดจบของคนอ่อนแอ!
ในโลกนี้กฎเกณฑ์ถูกกำหนดโดยคนที่แข็งแกร่ง จะได้รังแกและเข่นฆ่าคนที่อ่อนแอตามใจชอบ!
อู่เวิ่นมองไปที่ไม่ใกล้ไม่ไกลกัน เหอเหลียนเทียนรวมทั้งผู้เฒ่าชินซานรวมอยู่กับคนอื่น ในตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงตั้งรับอยู่ในที่มั่นเท่านั้น และเห็นชัดออกว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก คาดว่าคงยื้อได้อีกไม่นาน
สถาบันฝึกยุทธ์สูญเสียยอดฝีมือไปเป็นอันมาก อีกทั้งผู้ฝึกกระบี่จากสำนักกระบี่ที่มาช่วยก็ถูกฆ่าตายไปแล้วหลายคนเช่นกัน!
พวกเขาหมดหวังเสียแล้ว!
อู่เวิ่นมองไปยังเยี่ยหลิง บัดนี้ร่างถูกกระบี่ตรึงแน่นติดอยู่กับผนังกำแพง สีหน้าของชายชรายากจะอธิบายความรู้สึกในเวลานั้น “แม่หนูทำไมเจ้าถึงไม่หนีไปเสีย?”
เยี่ยหลิงกำหมัดเกร็งแน่น “พี่ชายบอกว่าเราไม่อาจทรยศคนที่ไม่ได้ทรยศเราเจ้าค่ะ”
อีกฝ่ายบิดมุมปากยกยิ้ม “พี่ชายของเจ้าเป็นคนดี!”
พลันคนพูดเบือนหน้าไปอีกทาง สายตามองตรงไปที่ผู้คุมอาญาสารคนที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “ศิษย์ทั้งหลาย พวกเจ้าจดจำวันนี้ไว้ให้ดี จำไว้ว่าสถาบันฝึกยุทธ์ถูกพวกเขากลั่นแกล้งรังแก ในโลกใบนี้ไม่มีถูกไม่มีผิด มีแต่ความแข็งแกร่งเท่านั้น ส่วนความอ่อนแอถือเป็นบาปมหันต์”
สิ้นเสียง บังเกิดเปลวไฟลุกโชนท่วมร่างทันที!
ดวงวิญญาณของเขากำลังมอดไหม้!
เมื่อเห็นเช่นนั้นทุกคนที่เป็นศิษย์สถาบันฝึกยุทธ์ต่างพากันตื่นตะลึง
“ท่านจ้าว!”
บริเวณนั้นยอดฝีมือแห่งสถาบันฝึกยุทธ์ที่เหลืออยู่ไม่มาก ต่างอยู่ในอาการโกรธขึ้งอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามทุกคนถูกยอดฝีมือของชุมนุมผู้คุมกฏตรึงไว้ให้อยู่กับที่ จึงไม่มีใครสามารถยับยั้งอู่เวิ่นได้เลย!
คนที่อยู่ข้างหลังอู่เวิ่น เยี่ยหลิงยืนน้ำตาไหลรินเป็นสาย “อาจารย์ปู่อู่……”
อู่เวิ่นกล่าวกับเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แม่หนู จำเอาไว้ หากอ่อนแอจะถูกเขารังแกเอาได้ ดังนั้นเจ้าจะต้องเข้มแข็งขึ้น! ต่อไปจะต้องพึ่งตัวเอง!”
จบคำพูดประโยค พลันร่างคนกลายเป็นเปลวเพลิงลุกโชติช่วง ก่อนจะพุ่งตรงไปไม่ไกลที่มียอดฝีมือของชุมนุมผู้คุมกฎยืนอยู่ทันที!
